tag:blogger.com,1999:blog-56753161954142978692024-02-07T12:25:26.068-08:00แว่นกันแดดAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.comBlogger81125tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-25676795533560398522015-12-29T03:28:00.004-08:002015-12-29T03:28:53.851-08:00เมื่อ คืนเกิดเหตุการณ์อะไรคำตอบจากฝ่ายที่ตกเป็นจำเลยนอกจากสายตาที่แสดงถึงความสับสนงุนงงฉายชัด<br />
"๓3โ]0โ3๓ มันมึฤทธกล่อมประสาท ถ้าร่างกายได้รับในปริมาณมากมันก็เกิด อันตรายทำให้หัวใจวายได้ ซึ่งมันตรงกับอาการของคุณป้าตอนที่เสีย"<br />
กาชะลองนิ่งอึ้ง สับสนงุนงงถึงที่สุด กา8โ]0โลกา น่ะหรือจะมีฤทธิรุนแรง ถึงเพียงนี้ คิดไปถึงดิสธร เป็นไปได้หรือที่เขาจะคิดมุ่งร้ายคุณยาย ในเมื่อเขา ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรสักอย่าง หญิงสาวนั่งคว้างอยู่บนเตียง ความเจ็บปวด สับสนจากเหตุการณ์หลายอย่างทำให้ไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกไปได้<br />
แค'จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อคืนหล่อนเผลอหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว ผิดปกติวิสัย พร้อมกับได้กลิ่นดอกปีบกรุ่นกำจายรุนแรง หลังจากนั้นก็ไม่ รับรู้อะไรอีกเลย คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด พยายามรื้อฟืน... <b>แว่นตากันแดด</b><br />
คุณพันธ์รพีมองภาพตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้สุดขีด แม่หลานสาวคน เดียวสมกับเป็นดาราเจ้าบทบาท ตีหน้าซื่อราวกับไม่รู้เรื่องอะไรทั้งๆ ที่ตัวมันเองแท้ๆ เป็นคนลงมือ<br />
คิดไปถึงเรื่องพินัยกรรม เคยเตือนคุณพี่ไปแล้วแต่ก็ไม่เคยเชื่อ แล้วเห็นมั้ย ผลเป็นอย่างไร สุดท้ายก็ถูกหลานสุดที่รักสนองคุณ พิศมองดูใบหน้าเรียบเฉย ก็แอบเบ้ปากค่อนออกมาดังๆ ■เป็นนักวางแผนดีนี่ สมกับที่เล่นละครมาเยอะ ทำร้ายคุณพี่แล้วก็แกล้งทำเป็นกินยานอนหลับ ไม่รู้เรื่องอะไร*<br />
"คุณยายเล็ก..." เสียงกาซะลองสั่นเครือ อยากจะบอกว่าสิงที่เกิดขึ้นก็ทำให้ หล่อนเจ็บปวดจนรับไม่ไหว กรุณาอย่าทำให้เจ็บปวดมากไปกว่านี้ แต่ก็พูดไม่ออก<br />
"ผมว่าตอนนี้ให้คุณปีบพักผ่อนก่อนดีกว่านะครับ" ศกรแทรกขึ้น ยิ่งเห็น สีหน้าเผือดขาวของกาซะลองก็ยิ่งสงสารอย่างจับจิต เรื่องทั้งหมดหากหล่อนไม่ใชั ผู้กระทำก็น่าเห็นใจ...แต่หากว่าใช่... ผู้กองหนุ่มพูดต่อ "เรื่องทั้งหมดหากมี ข้อสงสัยหรือคิดว่าการตายของคุณปรียางค์ศรีจะเป็นการฆาตกรรม ทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจจะเป็นฝ่ายจัดการเอง" <b>แว่นกันแดด</b><br />
"อย่านะนายศก!" นายแพทย์สฤษด์คุณเอ่ยขึ้น หน้าที่เคร่งเครียดอยู่แล้วยิ่ง ล่ออาการเครียดได้อย่างชัดเจน แต่ผู้เป็นแม่กลับมีสีหน้าสงสัย คุณพันธุรพีเอ่ย ถามลูกชายอย่างขัดใจ<br />
"คุณยายเล็ก ทำไมถามปีบอย่างนี้คะ"<br />
"ยังจะมาตีหน้าซื่อ ก็แกกับแฟนแกรวมหัวกันทำอะไรคุณพี่ล่ะ"<br />
"อะไรคะน้าฤษด์ ปีบไม่เข้าใจ" หญิงสาวหันไปถามผู้มีศักดิ้เป็นน้า นายแพทย์สฤษด์คุณมีสีหน้าเครียด<br />
"คุณป้าเสีย ผลการตรวจพบปริมาณของยากล่อมประสาทในเส้นเลือดมาก ผิดปกติ"<br />
"คุณยายเสีย" เหมือนหัวใจจะหยุดเต้น ภาพความฝืนฉายชัด ในที่สุด ฝืนร้ายก็กลายเป็นจริง ราวกับทำนบนํ้าตามันพังทลาย หญิงสาวรํ่าไห้จนตัวโยน ศกรมองภาพตรงหน้าด้วยความอดสู ความเสียอกเสียใจที่อีกฝ่ายมีดูเหมือนเขา จะซึมซับได้ไม่ยาก ด้วยเขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กันกับการสูญเสียประมุขของคุ้ม ภูคากาซะลอง<br />
แต่เจ็บปวดยิ่งกว่าตรงที่หญิงสาวที่นอนสะอื้นปานจะขาดใจอยู่ตรงหน้า..-ถูกสงสัยว่าเป็นผู้กระทำ<br />
กาซะลองปวดหนึบที่อก การสูญเสียคุณยายคือความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ แต่ชํ้าร้ายกว่านั้น หล่อนกลับเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายคุณยาย<br />
"ปีบ...ปีบ..:<br />
''ไม่ต้องพูด เสียแรงที่คุณพี่ทั้งรักและไว้ใจ แต่แกกลับทำร้ายคุณพี่ แกกลัว นักใช่มั้ยว่าแกจะไม่ได้มรดก แม่ปีบ" คุณพันธุรพีแทบจะถลันเข้ามาหา ดีที่ ผู้เป็นลูกกระชากฉุดร่างไว้ กาซะลองหน้าซีดเผือด 'แาตาท่วมหน้า หญิงสาวเค้น คำพูดออกมาด้วยหัวใจที่ร้าวราน<br />
"มรดก...นี่คุณยายเล็กคิดว่าปีบทำร้ายคุณยายจริงๆ หรือคะ" <b>แว่นตา</b><br />
"ก็ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร ในเมื่อผลการตรวจฤทธยากล่อมประสาท<br />
มันมาจากชา ๓8โ]0โ8กา"<br />
"๓3โ](วโ8๓...ชา ๓3โ]0โ8๓ มาเกี่ยวอะไรด้วยคะ"<br />
"ยังจะมาตีหน้าซื่อ" คุณพันธุรพีกรีดร้องจนศกรต้องเป็นฝ่ายติงให้ใจเย็น<br />
ทั้งสงสารและเห็นใจกาซะลอง แต่ ณ นาทีนี้ที่ความจริงยังเป็นเงื่อนงำปริศนา<br />
เขาจำเป็นต้องนี่งสงบ<br />
"นี่ไม่รู้จริงๆ หรือยัยปีบ" นายแพทย์สฤษด์คุณเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น ไม่มี<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/71/rb-3025-aviator-large-metal-003-32-58-14-2n">แว่นตา</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-67723476211796239432015-12-29T03:27:00.002-08:002015-12-29T03:27:40.360-08:00โปรดบุรุษ ที่ชื่อศกรไม่น้อยดีนะ ตอนที่เรายังเด็ก เวลาฝนตกทีไรนายศกเป็นต้องป้นจักรยานจากโรงเรียน<br />
มาส่งทู้กที พอโตขึ้นมาฝนตก นายศกก็ยังเป็นคนขี่มอเตอรIซค์มาส่งอีก หรือ ว่าเราจะต้องมีนายศกคอยดูแลไปตลอดนะแม่ปีบ"<br />
ท้ายประโยคกาซะลองรู้ดีว่าคุณยายตั้งใจที่จะยั่วเย้าหล่อนโดยเฉพาะ อยากจะทำปากขมุบขมิบกัดฝายนั้นเสียหน่อยค่าที่สาระแนไม่เลิกตั้งแต่เด็กยันโต แต่ดูเหมือนคุณยายจะไม่สนใจ ท่านพูดต่อเป็นการบอกเล่ากลายๆ ว่าโปรดบุรุษ ที่ชื่อศกรไม่น้อย <b>แว่นตากันแดด</b><br />
"ยายกั๊ได้นายศกนี่แหละเป็นเพื่อน...อ้อ แล้วก็ยังมีนายฤษด์อีกคน" ท้ายประโยคมีอีกคนเพราะเกรงว่าฝ่ายที่นั่งสนทนาด้วยจะน้อยใจ คุณปรียางค์ศรี หันไปมองผู้มีสักดิ้เป็นน้อง คุณพันธุรพียิ้มอ่อนๆ<br />
"ก็เรามีกันแค่นี้นี่คะคุณพี่ นายฤษด์ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ลูกดิฉันก็หลาน<br />
คุณพี่"<br />
"แต่พูดจริงๆ นะ" นี้าเสียงเริ่มเจือแววเศร้าจนผู้เป็นหลานจับความรู้ถึก ได้ทันที "พี่ไม่อยากให้นายฤษด์มาหาเท่าไหร่ เพราะมาทีไรแปลว่าพี่ต้องเจ็บปวย ทุกที"<br />
ภาพฝืนร้ายผุดขึ้นมาในมโนนึก...คมมีดวาววับ คุณปรียางค์ศรีเลือด ท่วมร่าง <b>แว่นกันแดด</b><br />
กาซะลองถามอย่างร้อนรน "คุณยาย...นี่คุณยายเป็นอะไรหรือเปล่าคะ"<br />
เปิดประตูอย่างเงียบกริบเมื่อส่องผ่านฝ็ากระจกจากภายนอกแล้วเห็นผู้เป็น ยายนอนหลับสนิท หญิงสาวจรดฝืเท้าอย่างแผ่วเบาเคลื่อนกายไปหยุดยืนอยู่ ข้างเตียง<br />
ร่างผอมเกร็งหายใจอย่างสมํ่าเสมอภายใต้ผ้าแพรเนื้อนุ่ม ใบหน้าซีดตอบ ปราศจากความมีชีวิตชีวาจนเห็นริ้วรอยของความเหนื่อยล้าได้อย่างชัดเจน เกิดความรู้สืกผิดขึ้นท่วมท้นใจ<br />
นี่หล่อน1เล่อยให้คุณยายอยู่คนเดียวนานเกินไIเหรือเปล่า...นานจนมี เรื่อง■ราวบางอย่างเกิดขึ้นโดยที่หล่อนไม่รู้<br />
กลับห้องตัวเองด้วยความหม่นเศร้าและนอนไม่หลับอีกเลย จวบจนรุ่งเช้า จึงเคลิ้มหลับไปครู่ มาสะดุ้งตื่นเมื่อรับสัมผัสอ่อนนุ่มที่หน้าผาก <b>แว่นตา</b><br />
แม้ไม่คุ้นเคยแต่ก็ปลุกให้ตื่นจากภวังค์หลับใหลได้ กาซะลองลืมตาขึ้นมอง ก็เห็นร่างของสตรีนางหนึ่งนั่งอยู่ หญิงสาวพนมมือไหว้แทบไม่ทัน<br />
"คุณยายเล็ก!"<br />
คุณพันธุรพียิ้มอ่อนหวานขณะรับไหว้หลานสาว ทรุดตัวลงนั่งริมขอบเตียง อย่างถือวิสาสะ<br />
"เมื่อวานคุณพี่โทรไปบอกว่าปีบมาที่นี่แต่ไม่สบาย ยายเลยรีบมาเยี่ยม"<br />
"คุณยายไม่น่าลำบากเลย ปีบแค่รถล้มนิดหน่อย นี่ก็ตั้งใจว่าจะอยู่เป็นเพื่อน คุณยายซักวันสองวัน แล้วจะแวะไปกราบคุณยายเล็กถึงที่บ้านเลยค่ะ"<br />
"ไม่ต้องหรอกปีบ" คุณพันธุรพีโบกมือว่อน "ช่วงนี้คุณพี่ยิ่งไม่ค่อยสบาย อยู่ด้วย นายฤษด์ต้องแวะเวียนมาดูประจำ ปีบมาก็ดีแล้ว จะได้ช่วยกันดูแล"<br />
"คุณยายเป็นอะไรคะ ไม่เห็นมีใครบอกปีบ"<br />
"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก...โรคคนแก่น่ะลูก"<br />
"แต่ทีคุณยายเล็กยังดูแข็งแรงอยู่เลยนี่คะ"<br />
คุณพันธุรพีโปรยยิ้ม คำชมนี้Iด้ยินอยู่บ่อยๆ เพราะแม้วัยจะห่างจากคุณ ปรียางค์ศรีไม่ถึงห้าปี แต่ผู้ที่มีสักดี้เป็นน้องกลับดูสดสาวอ่อนวัยกว่ามากมาย ร่าง ระหงบอบบางดูราวกับต้นสีสิบ ทั้งที่ความจริงอีกเพียงปีสองปีเท่านั้นเลขหกก็จะ มาเยือน<br />
ใบหน้าเรียวรูปไข่ที่กาซะลองถอดแบบมาดูเต็มอิ่ม รอยยิ้มหวานกระจ่าง<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/32/rb-3025-aviator-large-metal-001-58-58-14-3p-%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%8B%E0%B9%8C">แว่นกันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-62668559012848944372015-12-29T03:26:00.002-08:002015-12-29T03:26:35.635-08:00ปีบเป็นห่วงคุณยายค่ะ"เป็นอะไรไปลูก ถามซะน่ากลัว อย่างนี้เดี๋ยวคุณยายก็หัวใจวายตายเสีย ก่อนเท่านั้นเอง...นะคะคุณพี่"<br />
คุณพันธุรพีติง ริมฝิปากแย้มยิ้มอย่างเอ็นดู แต่ดวงตาเฉียบคมมองมา อย่างตำหนิหน่อยๆ กาซะลองจึงได้สติ<br />
มันเป็นแค่ความฝืน มันไม่ใช่ความจริง<br />
"ปีบเป็นห่วงคุณยายค่ะ" <b>แว่นตากันแดด</b><br />
"ถ้าห่วงกั๊กลับมาอยู่นี่เลยดีมั้ยลูก กลับมาอยู่กับยาย"<br />
หญิงสาวได้แต่นิ่งเงียบ มองผู้เป็นยายอย่างเกรงใจ คุณปรียางค์ศรีมอง หลานสาวอย่างแสนรัก<br />
"ยายรู้ว่าปีบยังติดงานอยู่ เอาเถอะ ถ้าเบื่องานนักสดงนักแสดงอะไรนั่น เมื่อไหร่ค่อยกลับมา"<br />
"แต่...ปีบรักและเป็นห่วงคุณยายมากนะคะ"<br />
ผู้เป็นยายแย้มยิ้มอย่างพึงใจ 1ม่เสียแรงที่รักใคร่เลี้,ยงดูกันมา สำหรับ ผู้เป็นยาย กาซะลองยังเป็นหลานที่น่ารักเสมอ<br />
ดวงหน้าเรียว ตาคม จมูกโด่งถอดแบบมาจากคุณบดินทร์ผู้เป็นพ่อที่มี<br />
มักระบายอยู่บนสีหน้าเป็นนิจ ดูราวกับเจ้าตัวไม่เคยพานพบความทุกข1ศกใดๆ<br />
"ปีบกั๊รู้ว่าพี่ใหญ่ไม่ชอบออกไปพบปะสังสรรค์กับผู้คน คนแก่นี่ลูก อยู่เฉยๆ ไม่ดีนักหรอก อย่างยายยังต้องคอยออกงานอยู่ปอยๆ" <b>แว่นกันแดด</b><br />
ข้อนี้กาซะลองพอรู้ เพราะข่าวต่างๆ ของคุณพันธุรพีปรากฎอยู่ตามหน้า นิตยสารบ่อยๆ บางงานยังเคยเจอะเจอกับหล่อนที่กรุงเทพฯ ด้วยซา<br />
ผิดกับคุณปรียางค์ศรีที่ชอบใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน 'คุ้มภูคากาซะลอง' ที่ แวดล้อมด้วยปาเขาลำเนาไพร ธรรมชาติที่ห่างไกลจากผู้คน ด้วยเหตุนี้เมื่อหล่อน เลือกที่จะประกอบอาชีพในแวดวงบันเทิงจึงดูห่างเหินจากผู้เป็นยายไปโดยปริยาย ทั้งๆ ที่หลังจากสินบุญผู้บังเกิดเกล้าจากอุบัติเหตุก็มีแต่ท่านเท่านั้นที่คอยดูแล <b>แว่นตา</b><br />
หญิงสาวออกมานั่งรับลมที่ระเบียง รอจนคุณปรียางค์ศรีตื่นจึงเข้าไปพบ พร้อมกับคุณพันธุรพี<br />
"ปีบ...เป็นยังไงบ้างลูก" นี้าเสียงบอกถึงความห่วงใยไม่เคยห่างหาย พลอยทำให้คนฟังแทบจะนี้าตาปริ่ม ดูเอาเถิด ขนาดพัวท่านเองก็เจ็บปวยกาย ยังมีแก่ใจมาถามหล่อน<br />
"ปีบคิดถึงคุณยายค่ะ"<br />
คุณปรียางค์ศรียิ้มอ่อนหวาน อ้าแขนออกรับร่างบอบบางที่เข้ามาซุกใน อ้อมกอด ไม่ว่าจะเป็นเด็กหญิงกาซะลองหรีอกาซะลอง ดาราโด่งดังคับฟ้า...ดอกปีบ ก็ยังเป็นหลานรักของหล่อนดังเดิม<br />
"จะมาก็ไม่บอก ยายจะได้ให้คนไปรับ"<br />
"ปีบอยากมาเชอรั้ไพรส์คุณยายค่ะ"<br />
"แล้วเป็นไงล่ะ เชอรIพรสัจนได้เรื่อง" นาเสียงสัพยอกเอ็นดูอย่างเห็นได้ชัด กาชะลองยิ้มแหย...แต่ต้องรีบหุบเมื่อท่านพูดต่อ "นี่ถ้าไม่ได้นายศกจะเป็นยังไงหือ แม่ปีบ"<br />
คนที่ถูกถามได้แต่อึ้ง ถอนตัวออกจากอ้อมกอดมาตั้งหลัก แต่คุณพันธุรพี<br />
ที่ยืนฟังอยู่นานกลับเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น<br />
"นายศก...ผู้กองศกรที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนของหนูปีบหรือคะคุณพี่" "ก็จะมีใครเสียอีกล่ะ นอกจากผู้กองศกร ศุภเศรษฐ์ที่เฝ็าแวะเวียนมา<br />
หายายบ่อยๆ นี่ถ้ายายยังสาวๆ อยู่ สงสัยได้เกิดความเข้าใจผิดเป็นแน่...แปลก<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/category/15/rayban-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99/rb-3025-3026-58%E0%B8%A1%E0%B8%A1-62%E0%B8%A1%E0%B8%A1">แว่นตากันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-53551430106933818552015-12-24T02:53:00.001-08:002015-12-24T02:53:16.476-08:00ท้วมก้าวพ้นออกไปจึงพูดขึ้น"คุณยายไม่ใช่ผีใช่สางค่ะ เอาเป็นว่าครบร้อยวัน เผาคุณยายเมื่อไร คุณยาย เล็กก็ดำเนินการขายได้เลย ปีบไม่มีป้ญหาค่ะ"<br />
อีกครั้งที่คำสร้อยหน้าซีด ไม่อยากเชื่อว่าสันบุญคุณ1Iรึยางค์ศรีแล้วทุกอย่าง มันจะง่ายดายถึงเพียงนี้ การตัด3นใจของคุณปีบเป็น3งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน มันง่ายเกินไป ทุกอย่างดูเหมือนจะง่ายเกินไป<br />
กาซะลองผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ เห็นสีหน้าคนเก่าแก่ของคุณปรียางค์ค่รื หล่อนก็พอจะเดาความรู้สืกออก มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนแม้1แต่ตัว หล่อนเองว่าจะมีการขายคุ้มภูคากาชะลอง<br />
"เสร็จงานศพคุณยายแล้ว ฉันจะรับแพรสาไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ว่า จะส่งให้แกเรียนต่อที่นั่น ส่วนป้าคำสร้อยถ้าอยากจะไปอยู่ด้วยกันฉันก็ไม่ขัดข้อง แต่ถ้าไม่ ฉันจะให้เงินสักก้อน ไม่มากไม่มายอะไรหรอก แต่ถ้าไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ป้าก็จะมีเงินไว้ดูแลตัวเองตลอดชีวิต"<br />
คนเก่าแก'ของคุณปรียางค์ศรีได้แต่ทำตาปริบๆ ก่อนกระถดตัวและถอย ออกไป คุณพันธุรพีรอจนร่างท้วมก้าวพ้นออกไปจึงพูดขึ้น <b>แว่นตากันแดด</b><br />
"ปีบคงไม่ว่ายายนะที่ทำแบบนี้ ก็เพื่อเราทุกคน คุณพี่คงไม่พอใจนักหรอก ถ้าคุ้มจะต้องตกไปเป็นของนายดิสธร ปีบก็รู้ว่าบ้านนั้นถังแตกกันทั้งบ้าน"<br />
กาซะลองยิ้มเย็น ไม่ได้มีทีท่าว่าโกรธเคืองกับคำพูดของผู้เป็นยายเล็ก หญิงสาวเพียงแต่กล่าวเนิบๆ "นั่นมันไม่ใช่สาระสำคัญหรอกค่ะ มันสำคัญตรง ที่สมบัติของบรรพบุรุษ คนรุ่นเรารักษาไวไม่ได้ต่างหาก"<br />
เหมือนกับจะตอกยาความเจ็บปวด กั๊มันจริงมิใช่หรือ สมบัติของบรรพบุรุษ หลายชั่วอายุคนกลับต้องปล่อยให้หลุดหายไปในคนยุคนี้ มันเพราะอะไรหนอ ความโลภโมโทลัน กิเลสที่ไม่มีวันหมดของคนบางคน หรือเพราะความอ่อนแอ ของหล่อนเอง<b> แว่นกันแดด</b><br />
คุณพันธุรพีลากลับพร้อมกับความอิ่มเอมในใจ เรื่องที่คิดว่ายากจริงๆ แล้วกลับง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ไม่เพียงแต่จะไม่คัดค้าน กาซะลองกลับ ไม่มีท่าทางยินดียินร้ายเสียด้วยซํ้า บางทีสฤษด์คุณอาจจะดูคนผิด เอาเข้าจริง แล้วหลานสาวก็ไม่ได้รักผูกพันผู้เป็นพี่สักเท่าไร<br />
เคลื่อนรถมาถึงประตูและสายตาคมกริบก็เห็นร่างบอบบางของเด็กสาวที่<br />
แม่กลับมาบ้านด้วยความชื่นมื่น มันเป็นความรื่นรมย์ที่เขาไม่เห็นมานาน แล้วนับตั้งแต่ฐานะทางการเงินของแม่ยอบแยบลงทุกรัน นัยนตาฝัามัรมี^ระก'1ย แจมใสเหมือนนัยน์ตาเด็กลาวที่เพื่'งเจอะเจอ^ก^ฬม่ ทุกอย่างมั^คือความ ตนเต้นงดงาม คือความหวัง คือความฝัน การขายคุ้มภูคากาซะลองดูเหมือนจะ เป็นความหวังเพียงสิงเดียวที่จะทำให้สลานะทางการเงินของแม่กลับมาเหมือนเสิม<br />
"เสร็จงานคุณป้าแล้ว แม่ว่าจะไปอยู่ต่างประเทศซักพักนะฤบด์ 1 ใม่ไหว ปวดหัวมานานแล้ว ขอพักนานๆ หน่อยเถอะ" เหมือนแม่จะรู้ว่าขืนอยู่ที่นี่ต่อไปคง ไมแคล้วการเป็นขี้ปากชาวบ้าน 'พี่สาวเสียไม่ทันไรจัดการขายทรัพย์สินเลร็จสรรพ' <b>แว่นตา</b><br />
มนเป็นสิงที่ทุกคนคาดไม่ถึงในสิงที่'กาซะลองต้ดสิน^จ อาจจะรรมกึงสัว ชองแม่เอง<br />
"แม่ไม่แปลกใจบ้างหรือครับ ว่าทำไมปีบถึงตัดสินใจขายคุ้มอย่างง่"1ยๆ" นับเป็นครั้งแรกที่คุณพันธุรพีฉุกคิดขึ้นมาลึงลารตัดสินใจของหล'1นลาว<br />
สฤษด์คุณพูดถูก บางทีอาจจะมีบางสิงเคลือบแคลงไว้ก็ได้ กาซะลอง^ซ่คน<br />
ฉาบฉวย ความคิดความอ่านของหลานต้องมีเหดุผลเลมอ "แล้วฤษด์คิดว่ายัยปีบกำลังทำอะไร"<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/category/75/rayban-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99/rb-8313">แว่นตา</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-58566005457445534302015-12-24T02:51:00.004-08:002015-12-24T02:51:47.438-08:00แพรสากับไอ้หน้าปลาจวดนั่น "ไม'ทราบสิฮะ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้คุยกับปีบ"<br />
เป็นเหตุผลส่วนตัวที่ไม่ไดIปที่คุ้มนั้น เหตุการณ์ที่เกิดกับไอ้หน้าปลาจวด ยังเจ็บแค้นอยู่มิหาย ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น แพรสาไม่น่าทำอย่างนี้ จะมี3งใดบ้างที่ สามารถกำจัด 'มัน' ออกไปให้พ้นนอกเส้นทางได้ สิงที่ 'ลงทุน' ดูเหมือนจะไม่ เป็นดังที่หวัง ตัวเขาเองเสียอีกที่เกือบพลาดพลั้งเสียที<br />
สายตาของเพื่อนเก่าดอกปีบบอกความฉงนสงสัยเมื่อมองดูหน้า 'ดิสธร1 เมื่อคืน แมIม่ปงบอกชัดเจนว่าจดจำได้แม่นยำแต่ก็แฝงความเคสือบแคสงอยู่ในที ยกมือขึ้นลูบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกชํ้าดำเขียว และคุณพันธุรพีก็หันมาเห็นเข้า พอดี<br />
"อ้าว! แล้วหน้าไปโดนอะไรมาล่ะนั่น"<br />
เป็นคำถามที่ถามไปอย่างนั้น เป็นข้อดีอีกอย่างของแม่ที่ไม่มีความละเอียด รอบคอบ'ในลิ''ง'ใด แม่เพียงแต่พยักหน้าเมื่อเขาให้เหตุผลว่ามีอุบัติเหตุนิดหน่อย ไม่มีคำถามต่อ มีแต่เพียง 'ปัญหา' ที่ยังค้างคาใจแม่อยู่ตลอด<br />
"ว่างๆ ก็แวะไปที่คุ้มบ้างสิ ไปเลียบๆ เคียงๆ ถามยยป็บด บอกตรงๆ พอแม่ได้ยินที่แกพูด แม่ก็คิดมากเหมือนกัน ปกติยัยปีบไม่น่าที่จะขายคุ้ม<br />
อย่างง่ายๆ มีแผนอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้!"<br />
เป็นสิ่งที่ต้องกลับมาคิดหนัก เรื่องที่คิดว่าง่ายกลับย่อเค้าความยุ่งยากขึ้น มารางๆ เหลือบตามองดูลูกชายก็เห็นแววตาเขามีเรื่องครุ่นคิดอยู่ตลอด ก็ไม่ รู้ว่ามีเรื่องคิดอะไรกันมากมาย ในเมื่อปัญหาที่อยู่ตรงหน้าก็ยังขบคิดกันไม่ตก ตัดสินใจแหย่เรื่องนายดิสธรกับยัยเด็กนั่น บางทีอาจจะเป็นสิงช่วยกระตุ้นให้ ลูกชายอยากไปที่คุ้มภูคากาซะลองขึ้นมาบ้าง<br />
แววตาของสฤษด์คุณเป็นประกายเมื่อได้ยินสิ่งที่แม่พูด สิงที่หวั่นเกรงเริ่ม มีเค้าความจริง<br />
แพรสากับไอ้หน้าปลาจวดนั่น <b>แว่นตากันแดด</b><br />
"นี่แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่ายัยปีบมันจะทำยังไง ถ้าคนรักไปป้นใจให้คน อื่นโดยเฉพาะกับเด็กในบ้าน แม่ว่าฤษด์แวะไปดูปีบหน่อยก็ดี ยังไงยัยปีบก็ เป็นหลาน" รู้ว่าลูกอาจจะเจ็บแสนเจ็บ แต่ ณ เวลานี้ใจของกาซะลองเป็นสิ่งที่ อยากรู้มากกว่า หลานสาวคิดจะทำอะไรจะได้มีทางแก้ทางออก<br />
เป็นบาดแผลที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ร่างกำยำสูงใหญ่มีเค้าของความเหนื่อย อ่อน เหมือนคนปวยที่ยังไม่แข็งแรง ใจคิดไปถึงสิ่งที่กำลังสงสัยอยู่กับศกร คนที'กำลังตามหาอาจจะอยู่'ไม่ไกล<br />
เหมือนอีกฝ่ายจะยังไม่รู้ตัวว่าถูกลอบมอง นายแพทย์สฤษด์คุณตะเบ็งเสียงลั่น "ปีบช่วยเอาคนของปีบไปไกลๆ หน่อยไดไหม ไม่รู้เป็นบ้าอะไรมาขวางทางอยู่ได้"<br />
"น้าฤษด์ต้องการอะไรหรือคะ บอกให้ป้าคำสร้อยไปจัดการให้ก็ได้"<br />
"น้าต้องการพบแพรสา" <b>แว่นกันแดด</b><br />
ชัดถ้อยชัดคำ คราวนี้ดูเหมือนนายแพทย์ใหญ่จะปิดบังความรู้สีกไวไม่ได้ ท่าทางเหมือนคนบ้า ดูก็รู้ว่ากำลังอยู่ในอาการหึงหวง อารมณ์อย่างนี้รังแต่จะทำให้ พังกับพัง<br />
กาซะลองบุ้ยใบ้ไปทางคนเก่าแก่ "ไปตามแพรสามาพบน้าฤษด์" "น้าจะไปหาเอง"<br />
นํ้าเสียงเด็ดเดี่ยวบอกให้รู้ว่า ณ เวลานี้เอาช้างมาฉุดก็คงไม่อยู่ เหลือบ มองไปทางป้าคำสร้อยก็เห็นทำหน้าจ๋อยพยายามบุ้ยใบ้บอกบางสิ่ง เพียงเห็น สายตาของฝ่ายนั้นกาซะลองก็เข้าใจ ก็คงมีอะไรบางอย่าง ป้าคำสร้อยถึงได้ ทัดทานไม่ให้เข้าไป<br />
"อย่าลำบากเลยค่ะน้าฤษด์ ให้ป้าคำสร้อยไปตามแพรสามาดีกว่า น้าฤษด์ มาช่วยปีบดูเอกสารเถอะ คุณยายเล็กบอกว่าเผาคุณยายเมื่อไหร่จะเข้ามาจัดการ ขายทรัพย์สิน เราตรวจดูตอนนี้จะได้รู้ว่ามูลค่าทรัพย์สินมีเท่าไหร่" <b>แว่นตา</b><br />
อารมณ์หึงหวงมีมากกว่าสิ่งที่คุณพันธ์รพีบอกให้มาจัดการ มรดกทรัพย์สิน มันก็แค่ชองนอกกาย สิ่งที่เขาต้องการคือแพรสาต่างหาก นายแพทย์ใหญ่ตะเบ็ง เสียงลั่น<br />
"จิตใจแกมันทำด้วยอะไรปีบ รู้บ้างมั้ยว่าตอนนี้ในบ้านมันเกิดอะไรขึ้น ไอ้ดิสธรมันกำลังจะนอกใจ แกยังจะมานั่งตรวจทรัพย์สินบ้าบออยู่ได้" "น้าฤษด์พูดอะไรคะ ปีบว่าตอนนี้น้าฤษด์ใจเย็นๆ ดีกว่า" "ไม่ยงไม่เย็นมันแล้ว น้าจะบอกแกนะ ถ้าแกไม่ไล่แฟนแกกลับกรุงเทพฯ น้าจะฆ่ามันเอง"<br />
"น้าฤษด์!" ได้แต่ยืนครางมองร่างสูงใหญ่เดินตุ่มไปที่ครัว ป้าคำสร้อยยิ่ง<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/232/mykita-bernhard-willhelm-franz-64-10">แว่นกันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-36611587538557413972015-12-24T02:50:00.000-08:002015-12-24T02:50:07.326-08:00โวยวายจนคนที่อยู่ภายในยิ้มละมุนฉายขึ้นที่ใบหน้าเมื่อเห็นลูกชายผลุนผลันขับรถออกจากบ้านไป ที่สุดมันก็ต้องเป็นอย่างนี้ อารมณ์ความรู้สักเป็นสิงที่ฉาบฉวย ฐานะความมั่นคง ต่างหากเป็นสิงที่จะยืนยงอยู่เป็นนิรันดร์เเละเมื่อถึงวันนั้นสฤษด์คุณอาจจะเจ็บไม'นาน<br />
เป็นอารมณ์ขึ้งเคียดที่เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นไปได้ขนาดนี้ เรื่องที่แม่บอก ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นสิงที่ตอกยํ้าใจให้เจ็บปวด ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้แพรสา เป็นของใคร ในเมื่อแพรสาเป็นของเขา หล่อนเป็นของเขา และต้องเป็นของเขา แต่เพียงผู้เดียว<br />
เลี้ยวรถเข้าไปจอดในคุ้ม และป้าคำสร้อยที่กำลังงกๆ เงิ่นๆ เก็บดอกปีบ อยู่ก็แทบหัวใจวาย เมื่อนายแพทย์ใหญ่หยุดรถแทบจะชนกับตัวบ้าน ร่างสูงใหญ่ ก้าวลงมาจากรถในลักษณะหุนหัน ถามเสียงดัง<br />
"แพรสาอยู่ไหน"<br />
ได้แต่ตะกุกตะกัก พักหลังๆ ชักเห็นท่าทีแบบนี้บ่อย เริมแน่Iจแล้วกับ อาการหึงหวงของคุณหมอ นายแพทย์สฤษด์คุณตกหลุมรักเด็กแพรสาแน่นอน แต่จะบอก,!ค้อย่างโรว่าตอนนี้เด็กสาวที'คุณหมอหลงรักกำลังอยู่กันดามลำพังกับ ลูกชายท่านรัฐมนตรี<br />
"ว่าไงป้า แพรสาอยู่ไหน"<br />
ตะคอกถามซํ้า อาการของป้าคำสร้อยนั่นยิ่งทำให้เขาหวาดหวั่น คนเก่า คนแก่ของคุ้มเหมือนจะมีพิรุธ ท้ายสุดเมื่อปิดบังไม่ได้ก็จำต้องบอก "อยู่...อยู่ในครัวค่ะ"<br />
เท่านั้นร่างสูงใหญ่ก็ทำท่าจะตรงดิ่งเข้าไปในครัว ป้าคำสร้อยรีบเข้าไปห้าม อย่างน้อยเป็นการถ่วงเวลาก็ยังดี ไม่อย่างนั้นคงไม่แคล้วเกิดเรื่องใหญ่ และนั่น ก็ยิ่งทำให้นายแพทย์สฤษด์คุณโมโห หนุ่มใหญ่เอะอะโวยวายจนคนที่อยู่ภายใน ต่างได้ยิน<br />
กาซะลองสาวเท้าออกมาที่หน้าบ้าน เสียงเอะอะโวยวายทำให้ต้องละมือจาก การตรวจเอกสารบัญชีทรัพย์สินของคุณปรียางค์ศรี หญิงสาวเพียงแต่เก็บเข้า ลิ้นชักอย่างลวกๆ แล้วรีบออกมา ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้ดวงหน้าเรียวได้แต่ ขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้นผู้เป็นน้าถึงได้ทำท่าเป็นหมาบ้าอย่างนี้<br />
แต่สิ่งที่สะดุดตา ดวงหน้าขาวมีรอยฟกชํ้าดำเขียวอยู่ถ้วนทั่ว เหมือน<br />
ลนลานบอกนายสาวเสียงสัน "เกิดเรื่องใหญ่แน่ค่ะคุณปีบ" <b>แว่นตากันแดด</b><br />
สินเสียงของผู้สูงวัยกว่า กาซะลองก็รีบสาวเท้าตามนายแพทย์สฤษด์คุณ ไปทันทีโดยมีป้าคำสร้อยวิ่งตามมาติดๆ<br />
เหมือนใจจะเร็วกว่าเท้า แม้จะสาวเท้าเร็วเท่าไหร่ก็ช่างไม่ทันใจสักที ยิน เสียงร้องวี้ดว้ายของแพรสาดังลั่น และเมื่อไปถึงหญิงสาวก็เห็นบุรุษสองนายกำลัง ตะลุมบอนกันใหญ่ ร่างบางตรงเข้าไปห้าม แต่ดูเหมือนยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ บุรุษ ทั้งคู่ต่างแลกหมัดกันนัวเนีย<br />
"หยุดนะ! แพรบอกให้หยุด" <b>แว่นกันแดด</b><br />
ยินเสียงของเด็กสาวเหมือนยิ่งทำให้ไฟในใจนายแพทย์สฤษด์คุณเดือด พล่าน คิดถูกแล้วที่ตามมาเห็นให้ชัดกับตา แพรสากับไอ้หน้าปลาจวดกำลังอิง แอบชิดใกล้ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นโรงครัว ปานนี้คงเตลิดกันไปถึงไหนต่อไหน นี่ก็ คงจะห่วงชู้รักถึงได้มาตะเบ็งเสียงร้องกรี๊ดๆ<br />
กำหมัด^ดเปรี้ยงดั่งแรงพญาช้างสาร นาทีนั้นที่ดิสธรรู้สืกว่าโลกหมุนติ้ว ชา ไปทั้งหน้า สัมผัสเหมือนนํ้าอุ่นๆ ไหลออกมาเต็มปากเต็มจมูก เอามือปาดดูก็ เห็นเลือดสดๆ สีแดงคลํ้าแตกพลั่ก เพียงเท่านั้นลูกชายท่านรัฐมนตรีก็คอพับ คออ่อนทำท่าเหมือนสติไม่สมประดี แต่ขนาดนั้นก็ยังชี้มือเร่าๆ ไปทางนายแพทย์ สฤษด์คุณอย่างโกรธจัด กล่าวอาฆาตมาดร้ายด้วยถ้อยคำรุนแรง ก่อนจะคอพับ คออ่อนไปจริงๆ<br />
แพรสารีบวิ่งเข้าไปประคอง และนั่นก็เหมือนเป็นจุดที่ทำให้อารมณ์หึงหวง พุ่งขึ้นถึงขีดสุด<br />
"ห่วงมันนักใช่มั้ยแพร" <b>แว่นตา</b><br />
นั้าเสียงร้าวรานบ่งบอกความร้าวลึก นาทีนั้นแพรสาไม่ได้สนใจ หล่อนรู้แต่ เพียงว่าคุณหมอเหมือนอันธพาลไIเหตุผลสันดี เด็กสาวจ้องหน้าสบดวงตาแข็งกร้าว ไม'หวาดหวั่น<br />
"ใช่! แพรเกลียดคุณหมอ เกลียดที่สุด"<br />
"แพร แพรพูดออกมาได้ยังไง แพรเป็นเมียฉันนะ ฉันรักแพร"<br />
"แต่แพรเกลียดคุณหมอ ได้ยินมั้ย แพรเกลียดคุณหมอ แพรรักคุณดิสธร"<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/category/65/mykita">แว่นตากันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-45128186512441879542015-12-23T03:38:00.002-08:002015-12-24T02:48:00.522-08:00หวาดหวั่น แว่นตากันแดดและเขา...ต้องช่วยหล่อน<br />
ผู้กองหนุ่มอดแปลกใจไม่ได้ที่มีโทรสัพท์จากคุ้มภูคากาซะลองมาตอนกลางดึก ปลายสายที่โทรมาหาไฝใช่คุณปรียางค์ศรีหรือหลานสาวคนโปรดที่ชื่อกาซะลอง แต่กลับกลายเป็นเด็กสาวแพรสา คนที่มองเขาด้วยสายตาแห่งความรักภักดีคนนั้น<br />
หล่อนบอกว่ามีเรื่องสำคัญที่จะปรึกษา รบกวนขอร้องให้ไปพบที่หลังคุ้ม ภูคากาซะลองคํ่าพรุ่งนี้ เดินวนเวียนคิดหนักเพราะยังไม'รู้ถึงเจตนาของอีกฝ่ายและ คำนึงไปถึงความเหมาะสม แต่คำพูดสุดท้ายที่แพรสาบอกยังก้องอยู่ในหู<br />
'คุณศกต้องมานะคะ คุณศกเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยแพรได้1 เสียง ของหล่อนสันเครือบอกถึงความหวาดหวั่น <b>แว่นตากันแดด</b><br />
แพรสามีปัญหาอย่างหนัก เด็กสาวกำลังเดือดร้อนเรื่องอะไร<br />
ตัดสินใจที่จะไปพบตามนัด แต่วันรุ่งขึ้นเมื่อไปถึงสถานีตำรวจ ศรานตา ก็โทรมาหา<br />
"แย่แล้วล่ะค่ะศก...จ่าเมฆ...จ่าเมฆเสียแล้ว ศกต้องมาที่โรงพยาบาลเดี๋ยว นี้นะคะ" พยาบาลสาวละลํ่าละลักบอก แม้จะเห็นความเป็นความตายเป็นเรื่อง ธรรมดา แต่ก็อดใจหายไม่ได้เพราะก่อนหน้านี้จ่าเมฆมีอาการกระเตื้องขึ้น แต่แล้วจู่ๆ ก็กลับทรุดหนักอย่างไม่รู้สาเหตุ<br />
หญิงสาวเดินวนเวียนรอผู้กองหนุ่มอยู่ที่หน้าห้องคนปวยระยะวิกฤต ร้อนใจ เป็นที่สุดเพราะผู้กองหนุ่มเพิ่งบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับจ่าเมฆ<br />
แม้ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ด้วยหน้าที่และด้วยความรับผิดชอบ รู้สีกเหมือน ตัวเองกำลังทำงานบกพร่อง เหมือนนานแสนนานกว่าศกรจะมาถึง แต่ทันทีที่ ผู้กองหนุ่มมาที่โรงพยาบาลก็ได้รับคำตอบ<br />
"ศกคะ เจ้าหน้าที่เพิ่งเอาศพจ่าเมฆไปเก็บแล้วค่ะ เมื่อกี้นี้เอง"<br />
ศรานตาแลเห็นดวงตาเข้มมีความเคร่งเครียดอย่างเด่นชัด ศกรขบกราม แน่นเหมือนกำลังใช้ความคิด ชั่วครู่จึงได้บอก <b>แว่นกันแดด</b><br />
"ผมขอดูศพจ่าเมฆ"<br />
"ค่ะ อุ๊จะพาไป พี่คะ" หันไปพูดกับพยาบาลรุ่นพี่ที่เข้าเวร "อุ๊ขออนุญาต พาผู้กองศกรไปดูศพจ่าเมฆนะคะ"<br />
"ไม่ได้นะคะคุณอุ๊ คุณหมอลังไว้ว่าจ่าเมฆเกิดติดเชื้ออย่างรุนแรง ไม่ควร<br />
จะเร่งให้เขาเกิดความถวิลหา หนุ่มหน้าตี๋กระซิบเสียงแผ่ว<br />
"ปล่อยทำไม ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอเลย ก็แค่...ขอจับมือเท่านั้น" บอกพลาง ยกมือนุ่มนิ่มนั้นขึ้นหมายจะจรดริมฝืปากลงไป แต่ต้องหยุดแค่นั้นเมื่อปรากฏ มีบุคคลที่สาม<br />
"ปล่อยแพรสาเดี๋ยวนี้!" เสียงแข็งเฉียบขาดที่ดังขึ้นมีผลให้แขกผู้มาเยือน ของคุ้มภูคากาซะลองหน้าซีดเผือด ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเป็นเสียงใคร แพรสารีบ ฉวยโอกาสนั้นก้าวเดินหนี นึกสมนั้าหน้าหนุ่มชาวกรุงในใจ<br />
ดี...ให้คุณปีบเอาเลือดชั่วออณ3ยบ้าง จะไดไม่ทำรุ่มร่ามอีก<br />
"ปีบ....ผม..."<br />
"ไม'ต้องพูดอะไร คุณไม่สมควรที่จะทำกิริยาแบบนี้กับเด็กของปีบ ใน บ้านของปีบ"<br />
"ผม...ไม่ได้ตั้งใจ...แพรสา..."<br />
"อย่ามาโทษเด็กของปีบ ปีบรู้นิสัยคุณดี" กาซะลองเน้นเสียง โกรธจน เลือดขึ้นหน้า นี่หรือคนที่เรียกตัวเองว่าชนชั้นสูง ยกตัวเองว่าอยู่เหนือกว่าคน<br />
อื่น ที่'แท้จิตใจกลับตกตาชนิดที่ทำเรื่องน่าอดสูนั้Iด้<br />
"พรุ่งนี้คุณต้องกลับกรุงเทพฯ!" "ปีบ...ผม"<br />
"โดยไม่มีข้อแม้...พรุ่งนี้!" <b>แว่นตา</b><br />
ได้แต่ยืนเหงื่อกาฬแตกพลั่กพูดอะไรไม่ถูก กาซะลองเป็นคนเฉียบขาด แต่ไหนแต่ไรเขาย่อมรู้ดี หากไม่ขออ้อนวอนยืนกรานในความเป็นเพื่อน หล่อนก็ คงไม่สานสัมพันธ์ต่อ คราวนี้คงหมดโอกาสที่จะเริ่มใหม่ในเมื่อดวงตากลมโตมอง เขาอย่างอดสูใจ สีหน้าบ่งบอกถึงความผิดหวังอย่างชัดเจน ร่างระหงเดินหันหลัง กลับโดยไม่มีแม้แต่จะชายตามอง<br />
ดิสธรยืนคอตก ใจคอเหี่ยวแห้ง ไม่เคยนึกว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะทำให้ เขากับกาซะลองต้องขาดจากกัน ชายหนุ่มเดินหน้าแห้งกลับที่พักโดยมีสายตา ของคนคนหนึ่งมองตาม<br />
ทันทีที่ร่างสูงโปร่งลับตา คำสร้อยก็ทิ้งมือที่เลิกม่านหน้าต่างลง หญิงวัย กลางคนหันมาบอกเด็กสาวที่เดินถือหมอนใบหนึ่งเข้ามา<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/category/45/rayban-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99/rb-3136-2">แว่นกันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-56080369061843739682015-12-23T03:37:00.000-08:002015-12-24T02:47:44.269-08:00ไม่ได้ยินหรอก แต่ท่าทางคุณปีบโกรธน่าดู"คุณปีบกับคุณดิสธรอะไรนั่นทะเลาะกันใหญ่เลยแพรสา"<br />
"ป้าได้ยินบ้างมั้ยว่าคุณปีบพูดอะไรบ้าง" ถามด้วยความอยากรู้ ใ2คออด เต้นระทึกไม่ได้ แม้จะรู้ว่าการกระทำของดิสธรผิดเต็มประตู แต่ก็ไม'อยากให้ หนุ่มหน้าตี๋กับนายสาวต้องแตกหัก อย่างน้อยกาชะลองก็เป็นนาย<br />
"ไม่ได้ยินหรอก แต่ท่าทางคุณปีบโกรธน่าดู มันก็น่าจะโกรธอยู่หรอก แฟนทั้งคนกลับมาทำๅเมร่ามกับเด็กในบ้าน ดีไม่ดีข้าว่าอาจจะพานเลิกกันไปเลย ก็ได้ คุณปีบเธอไม่ง้อใครง่ายๆ หรอก คุณสมบัติออกครบถ้วนขนาดนั้น หรือ ไม่ก็...บางที..." คราวนี้คำสร้อยหันมามองหน้าเด็กสาว "ถ้าเขาไม่เลิกกันก็อาจเป็น แกก็ได้ที่โดนไล่ออก ไม่มีใครพอใจหรอกใช่มั้ยที่จะให้คู่รักไปสนใจผู้หญิงอื่น หูตาคุณดิสธรแกก็แพรวพราวเหลือเกิน มองแกแต่ละทีตางี้หวานฉํ่า ขนาดข้าไม่ ใช่คุณปีบเห็นแล้วยังอดหมั่นไส้ไม่ได้ แล้วตัวคุณปีบเองจะเหลือเรอะ" หญิงวัย กลางคนทำท่าหวาดหวั่น แต่พอมองไปเห็นเด็กสาวนั่งหน้าซีดก็ยิ้มแหย รีบตบ ที่นอนพลางบอก "ไม่มีอะไรหรอก ข้าก็พูดไปยังงั้นแหละ คีนนี้เอ็งนอนที่นี่ก็ แล้วกันแพรสา จะได้หมดห่วง อย่างน้อยจะได้ไม่มีใครย่องเข้าหา" <b>แว่นตากันแดด</b><br />
แพรสาล้มตัวลงนอนข้างป้าคำสร้อย ไฟทุกดวงดับสนิทแต่เด็กสาวยังลืม ตาโพลง คุณดิสธรก็คงอยู่ที่นี่ให้ใจหายใจควํ่าอีกไม่นาน แต่นายแพทย์สฤษด์คุณ นั่นต่างหากที่เด็กสาวยังนึกกังวลอยู่ แววตาที่เต็มไปด้วยความรุ่มร้อนมุ่งมาด นั่นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผู้เป็นนายคงไม่ยอมรามืออย่างง่ายๆ<br />
ก็ยังดีที่เรื่องราวอันน่าอับอายที่นายแพทย์สฤษด์คุณกระทำไม่มีใครล่วงรู้ ไม่งั้นคงต้องทุกข์ใจมากกว่านี้<br />
นํ้าตาไหลอาบแก้ม พยายามกลั้นสะอื้นไม่ให้เสียงได้ยินไปถึงคนที่นอน ข้างๆ คิดถึงพ่อขึ้นมาจับจิต ขาดพ่อก็เหมือนขาดร่มโพธิ๋ร่มไทรไร้ที่ซึ่งจะปกป้อง พักพิง ชีวิตหล่อนต้องตกอยู่ท่ามกลางอันตรายแบบนี้อีกนานแค่ไหน แล้วจะมี ใครคอยดูแลปกป้อง วูบนั้นที่คิดถึงศกรขึ้นมา คุณศกจะว่าอย่าง1รบ้างหนอ หาก1ดรบรู้ชะตากรรมที่แสนเลวร้ายของหล่อน เหลือบสายตาหันไปมองคนข้างๆ ก็เห็นป้าคำสร้อยหลับสนิท ลมหายใจผ่อนออกมาเป็นช่วงๆ แพรสาตัดสินใจเลิก ผ้าห่มขึ้นค่อยๆ ย่องออกไปโทรสัพท์หาศกร<br />
ผู้ชายคนเดียวโน[ลกที่หล่อนจะรักและไว <b>แว่นกันแดด</b><br />
พอมองตา แพรสาก็รีบหลบ<br />
"ไม่ใช่ใบชานี้จ้ะ ชา ฌลโ]0โล๓ ที่คุณดิสธรเอามาฝาก"<br />
"อ๋อ ป้าคำสร้อยแกเห็นเป็นของพิเศษน่ะค่ะ เลยเก็บไว้ในตู้อีกใบ เดี๋ยว แพรเดินไปหยิบให้นะคะ"<br />
กาซะลองมองตามร่างของเด็กสาวที่รีบสาวเท้าเดินไป นึกสังหรณ์ใจ บางอย่าง เพราะจากท่าทางที่เห็น แพรสาดูตื่นตระหนกผิดปกติ ด้วยความเป็น ห่วงเมื่อแพรสาเดินกลับมาอีกทีจึงถาม "แน่ใจนะว่าไม่มีอะไร'<br />
เด็กสาวนิ่งเงียบไปแต่แล้วก็รีบปฏิเสธ บอกไ11แล้วคุณปีบจะเชื่อหรือ<br />
ในเมื่อนายแพทย์สฤษ4คุณก็มีศกดิเป็นญาติ ส่วนหล่อนเป็นใคร ก็แค่เด็กใน บ้าน อย่างนี้แล้วใครจะเห็นขี้ดีกว่าไส้ จึงได้แต่ถือห่อใบชาในมือบอกผู้เป็นนายว่า "คุณปีบรอเดี๋ยวนะคะ เดี๋ยวแพรจะชงชาให้"<br />
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง แพรรีบไปเปลี่ยนเสือผ้าเถอะ อากาศเย็น อย่างนี้เดี๋ยวจะไม่สบาย"<br />
ลังเลอยู่ครู่ก่อนยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรีบเดินเลี่ยงออกไปโดยเร็ว หวัง เพียงอย่างยิ่งว่าจะไม่เจอนายแพทย์สฤษด์คุณดักรออยู่ แพรสาถอนหายใจ อย่างโล่งอกเมื่อผ่านบริเวณพุ่มไม้นั้นแล้วไม่เห็นร่างท้วมใหญ่ของผู้เป็นนาย แต่ แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อปรากฏร่างผอมสูงของใครคนหนึ่งยืนอยู่<br />
"คุณดิสธร!" <b>แว่นตา</b><br />
"ไปอาบนํ้าเสียดึก ระวังจะไม่สบายนะจ๊ะ" แววตากรุ้มกริ่มกวาดมองไป ทั่วร่างผอมบางกลมกลึง ขนาดมีผืนผ้าปกปีดเด็กสาววัยละอ่อนยังงดงามขนาดนี้ แล้วหากปราศจากเลือผ้าล่ะ หล่อนจะงดงามขนาดไหน<br />
แพรสาสะบัดหน้าหนีจากสายตาแทะโลมนั้น เด็กสาวบอกเสียงแข็ง "คุณปีบ อยู่ในโรงครัวค่ะ"<br />
"ฉันไม่ได้ต้องการพบปีบ ฉัน...ต้องการพบเธอต่างหาก"<br />
"แพรไม่ว่างค่ะ ขอตัว" รีบเดินหนี แต่กลับถูกมือแข็งแรงคว้าไว้ก่อน "ปล่อยค่ะ" แพรสาสะบัด ครั้งนี้โกรธเป็นร้อยเป็นพันเท่า นี่หรือคู่รักของคุณฮบ หยาบคายตํ่าช้าเหลือเกิน<br />
ดิสธรก้มหน้าลงไปจนเกือบชิดแก้มนวล ความนุ่มของมือนิ่มยิ่งดูเหมือน<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/185/rayban-rb-8395-polarized-%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A5">แว่นกันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-83048191415936996072015-12-22T00:11:00.000-08:002015-12-22T00:11:04.461-08:00ปานนี้หล่อนก็คงจะเข้ากรุงเทเฉิดฉายเป็นดาวซ้วยสวย ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าตอนเด็กๆ ยังถูกล้ออยู่เลยว่าเป็นลูกเป็ดขี้เหร่" ป้าเสียงขบขัน เพราะตอนยังเด็กแม่ลูกเป็ดขี้เหร่ช่างขี้เหร่สมชื่อ ตัวผอมแห้งแขนขา ยาวเก้งก้าง หากเทียบกับหล่อนที่เป็นดาวโรงเรียนก็ไม่^™สามารถเทียบได้ สักนิด นี่ถ้าหากว่าพ่อไม่บังคับไเรียนพยาบาลเพื่อมาช่วยดู"ล^คหัวโจของท่าน <b>แว่นตากันแดด</b><br />
ปานนี้หล่อนก็คงจะเข้ากรุงเทเฉิดฉายเป็นดาว8งคมข่มแม่นั่นไบ่แส้ว<br />
ศรานตาช้อนสายตามองดูผู้กองหนุ่มอย่างแอบจับสังเกต เขาจะรู้สืก<br />
อย่างไรกับกาซะลอง เขาจะเสียดายมั้ยที่แม่ลูกเป็ดขี้เหร่คนนั้นตอนนี้กลายเป็น<br />
หญิงสาวแสนสวยชื่อเสียงโด่งดัง เพราะเคยได้ยินมาบ้างว่าตอนเด็กๆ ทั้งคู่ถูกจับคู่กัน แต่ก็ใจชิ้นขึ้นมาหน่อยเมื่อศกรยังคงตอบราบ1■รียบ "ก็...ตอนเด็กๆ เป็นยังไง ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้นครับ" "งั้น...นัดทานข้าวกันหน่อยดีมั้ยคะ จะได้คุยกันให้ชุ่มปอด อุ๊เองก็คิดถึงปีบ<br />
อยู่เหมือนกัน" อดเสนอไม่ได้ อย่างน้อยหล่อนเองน่าจะได้เห็นถับ®า ไม่งั้นศกรจะ<br />
แวะไปหาคุณปรียางค์?1รีทำไมบ่อยๆ นอกจากไปถามข่าวคราวของ™ปี®ง 1 "เอางั้นหรือครับ" ผู้กองหนุ่มลังเล มันจะดีหรือ เพราะไม่มีครั้ง1หนที่แม่<br />
ลูกเป็ดขีไหร่คนนั้นจะยอมพูดจาดีๆ กับเขา ดี1มดคราวนี้อาจจะIดนหนักหาก พ่วงใครไปอีกคน<br />
"ดีมั้ยคะ" เอ่ยเสียงหวานด้วยท่าทางกระตือรีอร้นที่จะไปเจอ ศกรหันมา มองใบหน้าหวาน ความอ่อนเชื่อมในสายตาท่าให้คร้านที่จะปป็เสธ ศรานตามี คุณสมบัติพิเศษอยู่อย่างคือหล่อนมักไม่ยอมแพ้อ^รโดย^าย หากไม่ท่าตามก็ คงต้องมองตาหวานๆ อีกนาน <b>แว่นตา</b><br />
ตัดสินใจท่าตาม แต่ชักไม่มั่นใจเหมือนกันว่าที่ตอบตกลงเป็นเพราะ ศรานตาหรือเพราะ...อยากไปเจอลูกเป็ดขี้เหร่ศนนั้นกัน1-เน่1<br />
กาซะลองอดนึกแปลกใจไม่ได้เมื่อศรานตาโทรมาหา ฝ่ายนั้นทักทายตาม มารยาทก่อนบอก<br />
"ทานข้าวกันหน่อยนะปีบ จะได้คุยกัน" <b>แว่นกันแดด</b><br />
"ได้สิ เมื่อไหร่ล่ะอุ๊" เอ่ยปากถามทั้งที่ใจจริงยังนึกสงสัย มานัดทานข้าวทำ1ม ในเมื่อปกติสมัยเรียนก็ไ&ได้สนิทถัน ศรานตาหัวเราะร่วนมากับสายเสียงหวานเชื่อม<br />
คนที่คลีนิกไม่ค่อยมี" สฤษด์คุณอธิบายต่อ ดวงตาฉายแววเหนื่อยหน่าย<br />
"แล้วงานที่บริษัทฤษด์ล่ะ" พันธุรพีเอ่ยถาม ยังพอมีความหวังอยู่บ้างเพราะ กิจการส่งออกของเด็กเล่นปีหนึ่งๆ ทำเงินให้บุตรชายไม่น้อย สฤษด์คุณมี พรสวรรค์ในการออกแบบและประดิษฐ์ของเล่นแปลกๆ ให้โดนใจเด็ก เพราะ ไปดูงานต่างประเทศบ่อยเลยมีไอเดียไม่ชํ้าแบบใคร คิดอย่างง่ายๆ เงินไม่กี่แสน ยังไงก็น่าจะมี<br />
"เศรษฐกิจยังฟุบฮะ แล้วยังอยู่ในช่วงเปิดเทอมอีก ยอดขายตกลงไปมาก ผมต้องเอาเงินที่เหลือไปหมุน"<br />
คุณพันธุรพีหน้าซีดด้วยไม่คิดว่าจะได้ยินคำตอบนี้จากลูกชาย นายแพทย์ สฤษด์คุณพยายามไม่มองหน้ามารดา นึกเหนื่อยหน่าย...แม่น่าจะรู้ว่าอะไรเป็น<br />
อะไร การทำตัวหรูหราฟุมเVเอยมันไม่ต่างอะไรกับการค่อยๆ กัดแทะเนื้อตัวเอง ชายหนุ่มขอตัวขึ้นห้องเปลี่ยนเสือผ้าไปรับเวรต่อที่โรงพยาบาล พอไปถึงกั๊เจอ ศรานตายีนหน้าแฉล้ม<br />
"วันนี้มาเร็วจังค่ะคุณหมอ"<br />
เร็วที่ว่าก็เกือบเที่ยงคืน หล่อนยิ้มหวานทักด้วยนี้าเสียงใสกังวาน ผู้หญิง คนนี้สวย ดูอย่างไรก็สวยหวานไปทั้งตัว ไม่เหมือนทนายดำรงที่เป็นพ่อสักนิด ฝ่ายนั้น ดูดุเขี้ยวไม่น่าคบหา แตกต่างกับศรานตาที่พร้อมจะเป็นมิตรกับทุกคน หากไม่เลือก มาสวมหมวกขาว หล่อนอาจเข้าวงการบันเทิงเป็นดารานางแบบได้สบาย<br />
"อยากรีบมาดูจ่าเมฆน่ะ อาการเป็นยังไงบ้าง" เขาเอ่ยถามพลางหยิบ เสือคลุมกันเชื้อมาสวม ศรานตารีบกุลีกุจอยื่นแฟ้มรายงานให้พลางบอก<br />
"ดีขึ้นค่ะ รู้สีกตัวเป็นช่วงๆ แต่ยังหายใจเองไม่ได้ ต้องให้ออกซิเจนช่วยอยู่ นี่ผู้กองศกรก็แวะมาดูนะคะ อุ๊อนุญาตเป็นพิเศษ เพราะตอนกลางวันเห็นผู้กองไม,ว่าง" บอกอย่างสนิมสนม แววตาฉายประกายแห่งความพึงใจเปิดเผย ซึ่งไม่แปลกเพราะ เท่าที่รู้ ศกรและศรานตารู้จักกันตั้งแต่เด็ก อาจจะมากกว่าที่กาซะลองรู้จักด้วยซํ้า อย่างน้อยตอนนี้ทั้งคู่ก็อยู่ในจังหวัดเดียวกัน ไม่เหมือนกับหลานสาว กาซะลอง ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองกรุงจนเพื่อนฝูงแทบจะลืมหน้าหากไม่ใช่ดารานักแสดงชื่อดัง<br />
สาวเท้ายาวๆ ไปที่ห้องคนปวยขั้นวิกฤตโดยมีศรานตาเดินตาม พอไปถึง ก็เห็นผู้กองหนุ่มกำลังพยายามพูดคุยกับคนไข้<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/70/%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%94-rayban-rayban-4168">แว่นตา</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-72062126435986993432015-12-22T00:09:00.000-08:002015-12-22T00:09:45.625-08:00'นอนหลับฝืนดี แล้วคิดถึงกันในฝืนนะคะ...อุ๊'"วันนี้เลยเป็นไง แต่ขอเป็นตอนเย็นแล้วกัน ตอนนี้ขอนอนก่อน เราเพิ่ง ออกเวร"<br />
"ได้ งั้นเดี๋ยวเจอกัน"<br />
"เดี๋ยวสิปีบ" รีบบอกเมื่อกาซะลองทำท่าเหมือนจะวางสาย รอยยิ้มเยื้อน ผุดขึ้นที่ริมสปากได้รูปสวย ตัดบัวทั้งทีมันต้องไม่ให้\เหลือใยทั้งกาซะลองและศกร "ศกจะมากับเราด้วยนะ"<br />
คำบอกเล่าสันๆ แต่มผลทำให้คนที่กำลังฟังอยู่หัวใจชาวาบ หมอนใบสวย ที่เห็นในรถแวบเข้ามาในความคิด<br />
'นอนหลับฝืนดี แล้วคิดถึงกันในฝืนนะคะ...อุ๊' <b>แว่นกันแดด</b><br />
มันจะลือความหมายใดได้อีก หากเขาทั้งคู่ไม่ใช่... พยายามสลัดความคิด ออก ใครจะมากับใครก็ช่างเขาปะไร หล่อนไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยสักนิด พยายาม ไม่คิด แต่เหมือนคนที่อยู่ปลายสายจะยา<br />
"ปีบก็รู้นี่ ว่าเราไปไหนศกก็ต้องไปด้วย มันก็แปลกแปลกนะ ตามมาตั้ง แต่เด็กจนโตไม่ยักเบื่อ" เหมือนคนพูดจะพูดด้วยความชุ่มชื่นหัวจิตหัวใจเป็น ล้นพ้น กาซะลองทาทางตัดบทวางสาย ไม่อยากฟงนานๆ มันแสนหวานจนเลี่ยน... แต่อีกใจหนึ๋งก็ไม่อยากหลอกตัวเอง...หล่อนเจ็บทุกครั้งที่เห็นเขาคู่กัน...<br />
วางสายจากศรานตาพร้อมใจที่รับรู้ อีกไม่นานเขาทั้งคู่ก็จะควงกันมา อีกครั้ง...เหมือนเคย<br />
คุณปรียางค์ศรีกระเถิบตัวออกให้เหลือที่ว่างมากขึ้น เมื่อผู้เป็นหลานสาว เดินเข้ามานั่งด้วยที่โซฟาหวายตัวยาว สีหน้าของกาชะลองดูซีดเซียวหม่นหมอง แต่เจ้าตัวยังฟืนยิ้มให้กับนายแพทย์สฤษด์คุณและลูกชายรัฐมนตรีชื่อดิสธรที่นั่ง ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย <b>แว่นตากันแดด</b><br />
ประมุขของคุ้มลูบเนึ้อลูบตัวหลานสาวอย่างแสนรัก "ใครโทรมาหรือปีบ มีอะไรหรือเปล่า"<br />
กาซะลองมองผู้เป็นยาย นึกแปลกใจในคำถาม นี่หล่อนมีพิรุธอะ,1ร "คุณยายถามแปลกๆ ทำไมคะ ปีบดูเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจหรือคะ" "ถามได้ ก็เราหน้าซีดเซียวเหี่ยวแห้งเหลือเกินน่ะสิยัยปีบ คุณป้าเขาถึง ได้ถาม เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า" <b>แว่นตา</b><br />
ทัศนียภาพของสองฝีงแม่นํ้ากกดูร่มรื่นด้วยตลอดแนวเป็นปาเขาที่ชุ่มชื่น เขียวขจี พื้นนํ้าสีเขียวใสจนมองเห็นเงาสะท้อนของสิงที่อฝูเหนือกว่า ซึ่งมองเห็น เป็นเรือลำเล็กที่บรรทุกนักท่องเที่ยวเกือบเต็มลำ แต่กระนั้นก็ยังมีที่ว่างพอที่จะ จัดสรรเป็นมุมอาหารขันโตกให้บรรดานักท่องเที่ยวได้ดื่มกินอาหารแกล้มกับการ ดื่มดํ่ากับธรรมชาติอันงดงาม<br />
กาซะลองถอยตัวออกห่างจากกราบเรือเมื่ออาหารถูกลำเลียงมาจนเต็มโตก กลิ่นนาพริกหนุ่มหอมยั่วกระเพาะจนต้องหยิบแคบหมูมาจิ้มพอบรรเทาความหิว<br />
สีส้มแกมเหลืองเป็นมันย่องของแกงฮังเลดูข้นคลั่กน่ากินจนอดไม่ได้ที่จะ ตักมาลองลิ้มชิมรส แต่อาการเจริญอาหารพลันสะดุดเมื่อเสียงหวานเชื่อมเอ่ยถาม<br />
"ไม่นึกว่าปีบจะกล้ากินของมันๆ เลี่ยนๆ แบบนี้ เพราะปกติเห็นดาราเขา ชอบรักษาหุ่นกัน ขนาดอุ๊เองยังไม่ค่อยกล้ากิน"<br />
ไม่มีเสียงตอบจากกาซะลองเพราะเผอิญมีเสียงคนอื่นตอบแทน 'คนอื่น' ที่ทำให้กาซะลองค้อนตาแทบกลับ<br />
"อย่างคุณอุ๊น่ะกินได้อีกเยอะครับ ผอมบางออกอย่างนี้กินเท่าไหร่กั๊ไม่อ้วน ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/category/42/rayban-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99/rb-3479-folding">แว่นกันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-4283142425002885692015-12-22T00:04:00.003-08:002015-12-22T00:04:58.962-08:00กาซะลองเผลอยกมือลูบหน้าลูบตาตัวเองกาซะลองเผลอยกมือลูบหน้าลูบตาตัวเอง ยิ้มซีดเซียว "สงสัยเมื่อคืนนอน ไม่ค่อยหลับ ไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะน้าฤษด์ เออ คุณยายคะ เย็นนื้อุ๊เขาชวนปีบ ไปทานข้าวค่ะ" รีบบอก แต่ผู้เป็นยายกลับตั้งคำถาม<br />
"อุIหน"<br />
กาซะลองทำหน้าเหลอหลา ทำไมคุณยายไม่รู้จัก^ ในเมื่อศรานตาบอก<br />
ว่าทุกครั้งที่ไปไหนศกรจะต้องไปด้วย อีกทั้งบิดาของฝายนั้นก็เป็นกึ^น^ย ประจำคุ้ม<br />
"ลูกสาวทนายดำรงไงครับคุณป้า ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กกับยัยปีบ" สฤษด์คุณ ตอบแทน เขาเองก็พอจะรู้จักมักคุ้นกับศรานตาเพราะเข้าเวรด้วยกันบ่อย^ โรงพยาบาล แต่ไม่คิดว่าฝ่ายนั้นจะสนิทสนมกับหลานสาวด้วย <b>แว่นกันแดด</b><br />
"เมื่อคืนนายศกกับอุ๊เขาเจอกัน คงชวนกันมาเยี่ยมเรามั้ง" ผู้เป็นน้าพูดต่อ สีหน้าแสดงความราบเรียบ หนุ่มใหญ่กวาดสายตามองไปทางเรือนครัวบ่อยๆ แต่ก็ไม่เห็นร่างเล็กบอบบางของแพรสา<br />
กาซะลองยิ้มเจื่อน รีบเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากฟังเรื่องของคนคู่นั้นอีก หญิงสาวหันไปชวนดิสธรคุย อย่างน้อยลูกชายรัฐมนตรีคนนี้ก็เป็นเพื่อน ที่สำคัญหล่อนรู้สีกว่าชักทิ้งเขาให้อยู่นอกวงสนทนามากเกันใป แค่นายศกจะ มาทานข้าวที่บ้านใจคอไม่น่าจะเลื่อนลอยถึงเพียงนี้ เลื่อนถ้วยชาให้ผู้เป็นยาย ทำให้ดิสธรสบโอกาสรีบบอก<br />
"ชา ๓3ฤ0โอ๓ ครับ คุณแม่เอามาจากโรมาเนีย เห็นว่าเป็นสมุนไพรที่ ดีมากเลย ช่วยคลายเครียด ผมเลยเอามาฝากคุณยาย" <b>แว่นตากันแดด</b><br />
"ชื่อแปลกดีนะ" คุณปรียางค์ศรีพูดแค่นั้นก็ก้มลงจิบ กลิ่นชาที่หอมคล้าย มิ้นท์ทำให้ต้องจิบอีกครั้งอย่างชื่นใจ ดิสธรยิ้มกับกาซะลองอย่างปลาบปลี้ม อย่างน้อยเรื่องที่กังวลก็ไม่มึป้ญหา ท่าทางคุณปรียางค์ศรีก็ออกจะต้อนรับเขาด 1 นายแพทย์หนุ่มขอตัวไปเดินเล่น ไม่มีใครจับสังเกตนอกจากกาชะลองที่ พอจะรู้ว่าน้าชายออกไปเดินเล่นเพื่อวัตฤประสงค์ใด<br />
หญิงสาวชวนแขกผู้มาเยือนไปเที่ยวนอกคุ้ม กว่าจะกลับเข้ามาก็จวนเจียน ถึงเวลานัดเต็มที เก็บของลงจากรถยังไม่ทันเสร็จ แพรสาก็เข้ามารายงาน<br />
"ผู้กองมาหาค่ะ มากับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอให้เรียนคุณปีบว่าชื่อศรานตา"<br />
"ศกก็พูดเกินไป ถึงอุ๊ไม่ใช่ดารานางแบบอย่างปีบ แต่ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงยังไง ก็ต้องดูแลตัวเองหน่อยค่ะ ขืนปล่อยตัวกั๊กลายเป็นหมูพะโล้กันพอดี ต้องอย่าง ศกสิ กินได้อีกเยอะ" ตาหวานเชื่อมช้อนขึ้นสบตาผู้กองหนุ่ม ในขณะที่มือเรียว งามก็ตักแกงฮังเลให้คนที่บอกว่ายังกินได้อีกเยอะ<br />
แต่สำหรับกาซะลอง อาหารบนโต๊ะดูจะฝืดคอไปในทันทีเมื่อเห็นภาพ สวีทหวานแหววที่อยู่ตรงหน้า หญิงสาวพยายามเมินไม่มองภาพที่พยาบาลสาว คนสวยคอยเอาอกเอาใจดูแลผู้กองหนุ่มอย่างเปิดเผย หากป้อนกันถึงปากได้ก็คง จะไม่ลังเลเป็นแน่แท้ ชิ.' อย่างนี้คุณยายน่าจะมาเห็น จะไดโม่เข้าใจผิดคิดว่า เขามาหลง ใหลได้ปลื้มหล่อน <b>แว่นตา</b><br />
เอื้อมมือไปตักอาหารใส่จานให้ดิสธรบ้าง อย่างน้อยเขาก็เป็น 'แขก' คนที่หล่อนควรดูแล<br />
ศกรมองคนตรงหน้าอย่างนึกขวาง หากอยากหานข้าวกัฆคู่รักกันสองคน ทำไมต้องนัดเขากับศรานตามาวันนี้ด้วย...ถ้ารู้'ล่วงหน้าว่าต้องมาเจอไอ้ลูกชาย รัฐมนตรีคนนี้คงไม่มา!<br />
"เป็นอะไรกันคะ เงํ่ยบเงียบ นานๆ เจอกันทีไม่เห็นจะพูดคุยอะไรกัน เลย" ศรานตาเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มหวานมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างไร้เดียงสา เป็นอย่างที่คาดไ7'ชัดๆ ศกรต้องคิดอะไรกับแม่ลูกเป็ดขี้เหร่นี่ ไม่งั้นคงไม่นั่งตา ขวางกับหนุ่มคนนั้นหรอก พิศมองหน้าแม่ดาราชื่อดังชัดๆ ก็ยังเห็นเค้าโครงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง อาจจะขาวขึ้น สูงขึ้น และหุ่นที่เคยผอมเก้งก้างก็มีเนื้อมีหนัง ขึ้น ผมสีนํ้าตาลอ่อนที่เคยยาวสลวยถูกดัดเป็นคลื่นเล็กๆ น่ามอง มันช่างรับ กับจมูกโด่งปลายรั้นที่เมื่อก่อนหล่อนแอบค่อน เพราะมันทำให้แม่ลูกเป็ดขี้เหร่ คนนี้หน้างายิ่งกว่าเก่า<br />
สรป...ก็ดูดีขึ้น แต่อย่างไรก็สวยหวานสู้หล่อนไม่ได้อยู่ดี...วงการบันเทิง นี่ก็แปลก ชอบพิสมัยของแปลกประหลาด<br />
"ว่าไง คุยกันหน่อยสิ"<br />
"ปกติเราก็คุยไม่เก่งอยู่แล้ว ฟังอุ๊คุยดีกว่า เพลินดี" ออกตัวไปอย่างนั้น ทำเอาพยาบาลสาวหัวเราะเสียงใส<br />
"อุ๊ก็ไม่รู้จะคุยอะไร เพราะปกติก็คุยกับศกทุกวันอยู่แล้ว คุยเรื่องของ<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/198/rb-4125-cats-black">แว่นตากันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-62014707953263832542015-12-19T20:58:00.001-08:002015-12-19T20:58:12.534-08:00เป็นอันว่าสามสูตรนี้พูดดีไต้หมดปรากฏการณ์อย่างเดียวกัน มองได้สองอย่าง มองดีก็ได้ มองร้ายก็ได้ครับ ขึ้นอยู่กับจิตใจของคนมองเป็นสำคัญ<br />
เพื่อนเรามีลูกสองคน เป็นชายหญิงเพศละคน เราบอกว่า "แหม....พอดีเลย มีลูกสองคนกำลังเหมาะได้ทั้งชายทั้งหญิงเลยนะ"<br />
ถ้าเขามีลูกสองคน แต่เป็นชายทั้งคู่ เราก็บอกว่า "มนต้องได้ อย่างนี้ซิ เด็กผู้ชายกับผู้ชาย ความสนใจมันเหมือนกัน เป็นเพื่อนเล่น กันได้ ยิ่งได้ผู้ชายทั้งคู่ยิ่งดี จะได้สืบสกุลต่อไป"<br />
ถ้าเขาเกิดได้ผู้หญิงทั้งคู่ เราก็บอกว่า "เหมาะมาก กำไรรูไหม จะได้ลูกเขยตั้งสองคน ไม่ต้องเสียสินสอดทองหมั้นอะไร" <b>แว่นกันแดด</b><br />
เป็นอันว่าสามสูตรนี้พูดดีไต้หมด ทีนี้ลองมาฟังใหม่<br />
เพื่อนไต้ลูกชายคนหญิงคน เราก็บอกว่า "มันน่าจะไต้ลูกชาย ทั้งคู่ถึงจะดี ไม่น่ามีหรอกลูกผู้หญิงสมัยนี้น่ะ"<br />
ถ้าเขาไต้ชายทั้งคู่ เราบอกว่า "เสียดายนะ ไต้ลูกผู้หญิงสกคน ก็ดีซิไม่น่าทำหมันเลย"<br />
เกิดไต้ผู้หญิงทั้งคู่ เราก็บอกว่า "นี่คุณไม่รู้เรอะ โบราณเขาว่า มีลูกผู้หญิงเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบานน่ะ"<br />
เป็นอันว่าสามสูตรนี้พูดให้ดีก็ไต้พูดให้เลวก็ไต้ทั้ง ๆ ที่ปรากฏ-การณ์ก็ไม่มีอะไรต่างกันเลยครับ<br />
วิเชียรเป็นพนักงานขับรถของบริษัทแห่งหนึ่ง เจ้านายถามว่า<br />
"วิเชียร ว่างไหม ช่วยขับรถไปนครปฐมหน่อย" <b>แว่นตากันแดด</b><br />
วิเชียรว่า"ว่างครับ"<br />
"พรุ่งนี้ล่ะ ไปอยุธยาไหวมั้ย"<br />
"ไหวครับ"<br />
ไม่ว่าจะเป็นเวลา เช้า สาย ม่าย เย็น คํ่า หรือแม้แต่วนหยุด วิเชียรจะมีคำตอบว่า "ว่างครับ ยินดีครับ พร้อมครับ ไต้ครับ"<br />
เป็นคนที่ไม่รู้จักมีปัญหาเอาเสียเลย ไม่ว่าในสถานการณ์ แบบไหน<br />
คนประเภทนี้บางทีถูกหาว่าเป็นคนเซ่อไม่รู้จักเอาตัวรอด บาง<br />
ก็ถูกหาว่าเป็นคนสอพลอเจ้านายเพื่อเอาหน้าก็มี <b>แว่นตา</b><br />
มีคนบางคนที่คิดว่าการทำงานมาก ทำให้เสี่ยงต่อการผิดพลาด บางก็บอกว่า ทำงานมากไป ทำให้เสียเปรียบนายจ้าง บางคนว่า ทำงานมากทำให้เป็นตัวของตัวเองน้อยลง ใครจะว่าอย่างไรก็ตาม วิเชียรไม่สนใจ วิเชียรตั้งใจทำหน้าที่<br />
ของตนให้ดีที่สุด<br />
แล้ววิเชียรก็พบว่า ความเจริญรุ่งเรืองนั้นจะมาพร้อมกับ<br />
การทำงานมากขึ้นเท่านั้น จันตรายที่สำคัญต่อความสำเร็จก็คือความ<br />
เกียจคร้าน<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/185/rayban-rb-8395-polarized-%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A5">แว่นตากันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-16421206202693333162015-12-19T20:56:00.002-08:002015-12-19T20:56:33.982-08:00มันเป็นความผิดของวิศิษฐ์เวลามีปัญหาผิดพลาดในการทำงานขึ้นมา สิ่งที่มักได้ยิน ตามหลังจากคนทำงานก็คือ<br />
"ไม่ไหวครับ วัตถุดิบมาไม่ทน จะผลิตทันได้ยังไง"<br />
หรือว่า "จำเป็นจริง ๆ ครับ ลูกน้องผมท้องเสียทั้งแผนก ลา หยุดกันเกือบหมด ผมไม่มีปัญญาทำเองคนเดียวหรอก"<br />
หรือว่า "มันเป็นความผิดของวิศิษฐ์ เลินเล่อไปหน่อย วัสดุ สูญเสียจึงมีมาก"<br />
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคำแก้ตัวทั้งนั้นครับ <b>แว่นกันแดด</b><br />
จะแก้ตัวยังไงก็ตาม ความผิดพลาดก็ได้เกิดขึ้นแล้ว เรียกคืน ก็ไม่ได้บางคนไม่หยุดอยู่เพียงวงแคบ กลับพูดคำแก้ตัวนึ้ใปถึงคนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยเพื่อดึงตัวเองออกมาจากความผิดพลาด<br />
ทางที่ดีกว่าคือการมุ่งหน้าแกไข ไม่ใช่มุ่งแก้ตัว<br />
ความผิดพลาดบางอย่าง ก่อนที่จะปรากฏผลผิดพลาด มักจะมี การตั้งเค้ามาก่อนให้สามารถคาดคะเนได้<br />
เช่นลูกค้าที่จ่ายเช็คคืนม่อย ๆ อย่างนี้ก็ด้องรีบหาทางตัดเครดิต ไม่ส่งของให้จนกว่าจะชำระเงินที่ค้างเรียบร้อยเสียก่อนเรียกว่าตัดไฟเสีย แต่ตันลม ไม่ใช่เห็นเค้าอย่างนี้แล้ว ก็ยังยอมตามใจลูกค้าไปหมดทั้งๆ ที่มีลางบอกเหตุไม่ดีอย่างที่ว่า <b>แว่นตากันแดด</b><br />
ผมได้พบได้ร่วมงานก้บคนมามากพอสมควร ทั้งงานธุรกิจและ งานทางสังคม<br />
ในชีวิตได้พบคนบางคนครับที่มีความเชื่อมั่นตนเองสูงมาก สูง ชนิดที่ไม่ยอมฟังใคร หรือแม้จะฟังแต่ก็ยืนกรานความเห็นของตนอย่าง เด็ดขาด บางครั้งความเห็นก็ถูกต้อง บางครั้งความเห็นก็ไม่ถูกต้อง ข้อพิสูจน์ความถูกต้องหรือไม่ก็คือผลแห่งการปฏิบัติครับ <b>แว่นตา</b><br />
คนที่ยืนกรานความเห็นของตน จึงต้องมีวิธีปฎิบตต่อเขาครับ ถ้าหากพบว่าความเห็นนั้นไม่ถูกต้อง วิธีพูด วิธีแนะนำอย่างเดียว บางที ยังมองไม่เห็นภาพ ยังรู้สึกเลื่อนลอยอยู่<br />
ถ้าเป็นเรื่องที่จะนำผลเสียหายใหญ่หลวงมาให้ ก็คงต้อง ใช้อำนาจบังตับกัน ถ้าหากเขาไม่ยอมเชื่อฟัง แต่ถ้าเป็นความเห็นที่ ไม่ก่อผลเสียหายมากนก ก็ลองปล่อยให้เขาทำไป ให้เขาชนข้างฝา ด้วยตัวของเขาเอง การที่ต้องชนข้างฝาย่อมต้องเจ็บตัว ซึ่งจะเป็น บทเรียนที่ดีกว่าอะไรอื่น<br />
เพราะยังไม่ชนข้างฝา ก็ยังไม่รู้สึกตัว<br />
คนโดยทั่วไปเป็นคนมีเหตุปีผล ถ้ามีวิธีการแนะนำชี้แจงในทาง สร้างสรรค์และด้วยจิตใจถนอมรัก<br />
วิธีนี้จึงใชไต้กับคนบางคนเท่านั้นครับ และไม่ใช่จะใช้ไต้ม่อย ๆ นาน ๆ ใช้ครั้งหนึ่ง ใช้ม่อยเข้าจะเสียเวลา เสียกำลังคนอื่นที่จะต้อง<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/262/vintage-01">แว่นตา</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-43055889771700788942015-12-19T20:55:00.001-08:002015-12-19T20:55:25.359-08:00เสร็จก็ไม่ยอมหยุดพักดูจะเป็นที่ยอมรบกันนะครับว่า ทุกคนมีข้อดีและข้อด้อยด้วยกัน ทั้งนั้นไม่ว่าใคร<br />
คนที่ทำงานเก่ง แต่เจ้าโทสะ คนที่เข้ากับใครได้ดี แต่ทำงานเช้าชามเปีนชาม คนที่แต่งตัวดีมาก แต่ใจแคบเหลือเกิน คนที่หยุดอยู่กับที่ ไม่อาจก้าวไปข้างหน้าได้คือคนที่ปราศจาก ความมุ่งมั่นในการแกไขปรบปรุงตนเอง <b>แว่นกันแดด</b><br />
ผมได้พบเพื่อนบางคนที่ทำงานไม่เก่งนัก แต่ได้ด้นคว้าอ่าน หนังสือ หาวิธีการทำงานที่เป็นระบบ วางแผนการทำงานให้กับ ตนเองอย่างเป็นขั้นตอน จนเดี๋ยวนี้ผ่านมา ๑๐ กว่าปี เขาก้าวหน้าขึ้น มากครับ เก่งขึ้น คล่องขึ้น และคนยอมรับในเ]มือมากขึ้น<br />
ผมได้พบคนขึ้โมโหโทโสที่ยอมรับตนเองตามที่คนอื่นมองแล้ว เขาก็ไปหาหนังสือของพลตรี หลวงวิจิตรวาทการมาอ่านIIกกำลงใจ ให้รู้จักอดทน รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา กลายเป็นคนมีอารมณ์ เยือกเย็นไปได้ครับในเวลาประ มาณ ๓ ปีที่เขาแก่ไขปรับปรุงตัวเอง<br />
พรรคพวกคนหนึ่ง แต่งตัวแสนจะไม่เข้าท่าเข้าทาง ด้วยความ เป็นศิลปินอิสระพอมาทำธุรกิจเพื่อนๆก็พากันขอร้องให้ตัดผมสั้นหน่อย เสื้อผ้าก็รีดเสีย ผูกเนคไทให้เป็น นี่เป็นบุคลิกภายนอกที่จำเป็น<br />
มีผู้จัดการคนหนึ่งครับ เป็นคนตั้งใจทำงานดีเหลือเกิน ขยัน ขันแข็ง ทำงานชนิดหามรุ่งหามคํ่า งานไม่เสร็จก็ไม่ยอมหยุดพัก <b>แว่นตากันแดด</b><br />
เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปที่รู้จัก<br />
ปัญหาก็คือ ผู้จัดการคนนี้ได้ชักชวนคนอื่นไห'ขยนขันแข็ง ตามตัวเองไปด้วยโดยที่ขาดความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกผู้อื่น <b>แว่นตา</b><br />
ลูกน้องออกไปทำงานข้างนอก พอกลบเข้ามาถึงสำน้กงาน ตอนสองทุ่มแล้วก็ยังเรียกประชุมต่อไป เลิกประชุมเอาเลยเที่ยงคืน ไปแล้วก็หลายหน<br />
เวลาประชุมก็ดำเนินการประชุมไม่เป็นใข้เวลายืดเยื้อยาวนาน ผู้เข้าประชุมเพลียมาจากงานนอภแล้ว จึงไม่มีแก่ใจจะนั่งประชุมด้วย กลายเป็นว่าผู้จัดการพูดอยู่คนเดียวเป็นส่วนใหญ่<br />
หลายครั้ง อยู่ ๆ ก็สั่งให้ลูกน้องออกต่างจังหจัดโดยกะทันหัน ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้ากันไว้ก่อน<br />
โดยถือว่าตนเองก็นาอดนํ้าทนมากกว่า มีความสมบุกสมบนกว่า เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานว่าคนอื่นจะต้องสามารถทำได้อย่างที่ตนเองทำ จึงสั่งการไปทั้งที่แนความรูสึกของลูกน้อง<br />
บรรยากาศการทำงานจึงน่าเบื่อครับ ลูกน้องพอรู้ว่าต้องประชุม ก็พากันเหนื่อยหน่ายแล้ว ลูกน้องที่ออกต่างจังหจัดแทบไม่มีเวลาเตรียม เสื้อผ้า<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/281/%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%94-gentle-monster-2276-cal-4-54-20-145">แว่นตากันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-73189194785837463342015-12-19T20:53:00.003-08:002015-12-19T20:53:34.305-08:00หัวหน้าสายงานเครื่องยนต์ของเครื่องบินในหนังสือ"อินเซิร์จ ออฟ เอกเซลเลนซ์" หรือชื่อภาษาไทยว่า ดั้นด้น สู่ความเป็นเลิศ ได้พูดถึงบริษัทดีเด่นในอเมริกาไว้ว่าเป็นบริษัท ที่ผู้บริหารมักจะออกไปสัมผสกับการปฎิบตงานที่เป็นจริงของพนักงาน อย่างใกล้ชิด ด้วยความเชื่อที่ว่าด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ทราบ ข้อเท็จจริงและเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้ <b>แว่นกันแดด</b><br />
นายฮาร์รี เกรย์ หัวหน้าสายงานเครื่องยนต์ของเครื่องบิน ของบริษัทยูไนเด็ด เทคโนโลยี จะไปเยี่ยมเยียนลูกค้าที่สำนักงานลูกค้า อย่างใกล้ชิด ในขณะที่คู่แข่งข้นไม่เคยทำเช่นนั้นเลย<br />
นายเดวิด โอกิลวี เคยกล่าวว่า อย่าเรียกพนักงานมาที่ห้อง ทำงาน เพราะจะทำให้เขาตื่นตกใจ จงออกไปหาพนักงาน จะทำให้ สามารถสัมผัสเนี้อหาที่แท้จริงของงาน และเป็นโอกาสที่พนักงานจะได้ รู้จักกับผู้บริหาร <b>แว่นตากันแดด</b><br />
นายเอ็ด คาร์ลสัน แห่งบริษัทยูไนเด็ดแอรไลน์ เรียกวิธีเช่นนี้ว่า การบริหารงานแบบมองเห็นความเป็นจริง ด้วยการเดินทางเป็นระยะ ๒๐๐,๐๐๐ ไมล์ต่อปี เขาจะสัมผัสมือพนักงานทุกคนที่พบ ทำให้เกิด ความคุ้นเคย พนักงานก็กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นจริง ๆ ออกมาให้เขา ริบรู้ข้อสำค้ญด้องแสดงความจริงใจว่านั่นไม่ใช่วิธีการจับผิดหากแต่เป็น ความปรารถนาของเขาจริง ๆ ที่จะได้พบได้คุ้นเคยและได้รับรู้ปัญหา<br />
มีหัวหน้าประเภทหนึ่งครับที่ชอบทำร้ายคนอื่นทางวาจา วันไหน ไม่ได้ด่าลูกน้อง วันนั้นท้องขึ้นครับ<br />
ลูกน้องทำงานไม่เสร็จตามกำหนด ยงไม่ทันไต่ถามสาเหตุ หัวหน้าเล่นงานก่อนแล้วว่า "ทำงานชุ่ยอย่างนี้ จะเอาต้วรอดไต้ยังไง"<br />
ลูกน้องมีป้ญหาเกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบดงานหัวหน้าบอกว่า "คุณสร้างปัญหาขึ้นมาเอง คุณก็ต้องแก้เอง อย่ามายุ่งกับผม" <b>แว่นกันแดด</b><br />
ลูกน้องมีเรื่องขัดแย้งกับหน่วยงานอื่น หัวหน้าว่า "มีกันอยู่ไม่ กี่คนแค่นี้ทะเลาะกันด้วยหรือ"<br />
หลายครั้งหลายหนปัญหาที่เกิดขึ้นด้นตอของปัญหาคือหัวหน้า คนนั้นนั่นแหละครับ อนุมัติงานไปแล้ว ผลออกมาไม่ดีก็โยนความผิด ให้ลูกน้องก่อน เพราะวิธีเช่นนี้ทำให้ดูเหมือนว่าตนเองไม่ต้องรับผิดชอบ ต้วย ลูกน้องที่หัวอ่อนอาจจะยอมตามไต้แต่ถ้าหากลูกน้องที่เป็นคนจริง หัวหน้าก็อาจต้องหงายหลังเอาบ้างเหมือนกัน<br />
นี่คือปัญหาวิธีการปฏิบตต่อลูกน้องครับ<br />
ถ้าเป็นหัวหน้าที่มุ่งความสะใจตนเองในการไต้ด่าลูกน้อง ก็ต้อง พบเหตุการณ์แบบนี้ม่อย ๆ ใครเป็นลูกน้องหัวหน้าแบบนี้ก็รับกรรมไป<br />
หัวหน้าที่ดี เมื่อเกิดปิญหาขึ้น เขาจะมุ่งไปสู่ตัวงานเป็นลำดับ แรกครับ<br />
ปัญหานั้นเกิดจากอะไร ถ้าเกิดจากเหตุสุดวิสัย เขาจะมองข้าม<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/198/rb-4125-cats-black">แว่นตากันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-65259527848740760962015-12-18T19:55:00.001-08:002015-12-18T19:55:34.082-08:00เลี้ยงชีพไม่ต้องห่วงอะไร<br /><br />นอกเหนือจากการทำงานเพื่อให้ได้เงินมาเป็นปัจจัยในการ ดำรงชีวิตอยู่ ความต้องการอีกอย่างหนึ่งของคนก็คือ ต้องการความ มั่นคงในการทำงาน<br /><br />ความมั่นคงในที่นี้คือการมองออกจากต้วเอง คือมองไป ที่องค์การที่สังก้ดหลายคนจึงอยากทำราชการ เพราะราชการให้ ความรูสึกที่มั่นคงดี เข้าทำราชการไต้ก็เท่ากับฝากชีวิตไวไต้ปลดเกษียณ ก็มีบำนาญเลี้ยงชีพไม่ต้องห่วงอะไร <b>แว่นกันแดด</b><br /><br />ถ้าไม่ไต้เข้าราชการ ก็ขอให้ไต้อยู่รัฐวิสาหกิจที่ดี ๆ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย หรือมิฉะนั้น ก็ขออยู่บริษัทใหญ่ๆ ที่มีหล'กฐานมั่นคง เช่น ปูนชีเมนดํไทย ธนาคาร กรุงเทพ การบินไทย เป็นต้น เพราะบริษัทเหล่านี้แลดูมั่นคงดี<br /><br />นี่คือทัศนะที่คนเราฝากความมั่นคงไว้กับองค์การ<br /><br />เรามามองความมั่นคงกันในแง่มุมใหม่ คือความมั่นคงที่เกิดขึ้น ในจิตใจของเราเอง<br /><br />แม้จะอยู่บริษัทเล็กที่สุดก็สามารถมีความมั่นคงไต้ <b>แว่นตากันแดด</b><br /><br />ความมั่นคงที่ว่านี้ ประกอบด้วย ๒ อย่างที่สำคัญคือความ สามารถกับคุณธรรม<br /><br />ใครก็ตามที่สามารถสั่งสมความสามารถในการทำงานไว้มากๆ และสั่งสมคุณธรรมไว้กำกับการดำเนินชีวิตของตนเอง ย่อมเท่ากับ<br /><br />บนเส้นทางสู่ความสำเร็จที่กำลงก้าวเดินอยู่นั้น ย่อมมีโอกาส พลาดพลั้งกันไต้ทุกคนนะครับ ในเมื่อ "สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ ยังรู้พลั้ง สองขาโด่เด่ก็ต้องเซไปบ้าง" เป็นธรรมดา<br /><br />แต่ทุกครั้งที่ล้มลง หรือชนกำแพงเข้าก็จะให้บทเรียนใหม่ที่ ทำให้ต้องปรับตัว และหาวิธีการใหม่มาใช้เพื่อเบิกทางไปสู่ที่หมาย เบี้องหน้า<br /><br />การกระทำที่ถูกต้อง จะถูกบนทึกลงไปในสมองครั้งใหม่ เพราะ ว่าการเรียนรูไต้เกิดขึ้นและการจัดรูปแบบของการทำงานใหม่ก็จะเกิด ตามมา<b>แว่นตา</b><br /><br />ในหนังสือ กฎทองแห่งความสำเร็จ ไต้แนะนำไว้ว่า<br /><br />๑. จงมีภาพที่แน่นอนแจ่มชด ไม่ใช่เพียงความปรารถนาที่สลัว รางของสิ่งที่ท่านลัองการ<br /><br />๒. ตั้งเปีาหมายและกระทำสนองมันไปทีละข้อ<br /><br />๓. เรียนรู้จากความล้มเหลว<br /><br />๔. เคลื่อนไหวเสมอ อย่าหยุดนิ่งเป็นอนขาด<br /><br />๕. จงทำในสิ่งที่ใหญ่ขึ้นและดีขึ้นอีกเล็กน้อยเสมอ<br /><br />๖. อย่าดกเป็นเหยื่อของการนินทาว่าร้ายหรือการกล่าว ถ้อยคำที่ทำให้ท่านรู้สึกตํ่าต้อยลงไป<br /><br />๗. จำไว้ว่า ความสำเร็จมิไต้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/156/victoriabeckham-3">แว่นกันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-76806630003122342062015-12-18T19:50:00.000-08:002015-12-18T19:50:03.385-08:00ซึ่งควรเสนอสู่ประชาชน<br /><br />คนเรามีปากเพื่อทำหน้าที่สองอย่าง หนึ่งคือกิน ล'องคือพูด นี่เป็นหน้าที่หลักครับ<br /><br />เรื่องกินนั้นแน่นอน ถึงเวลาหิวเมื่อไร ก็ต้องกินเมือนั้น บางที ไม่หิวก็ยังกินเพราะความอยากกิน<br /><br />ส่วนเรื่องพูดนั้น แล้วแต่บุคคลครับ บางคนพูดมากไม่ยอมหยุด บางคนพูดน้อย บางคนไม่ยอมพูดเอาเสียเลย <b>แว่นตากันแดด</b><br /><br />เร็ว ๆ นี้ ผมร่วมกับเพื่อนตั้งบริษัทขายบริการในการสรัาง ภาพลักษณให้กับบริษัท ให้กับองค์การที่ต้องการพ้ฒนาภาพลักษณ์ ตนเองให้เห็นว่าสินค้า บริการ หรือแม่'แต่บริษัทหรือองค์การนั้นๆ มีคุณ ค่าที่น่าสนใจ ซึ่งควรเสนอสู่ประชาชน <b>แว่นตา</b><br /><br />พบกับเพื่อนนักธุรกิจ ผมก็คุยให้ฟังว่า ผมมีบริการอย่างนี้ธุรกิจ ของเขาถ้าหากไต้สร้างภาพลักษณ์ไปในแนวไหนต้วยสื่อประชาสมพันธ์ อย่างไร ก็จะทำให้เกิดคุณค่าทางลังคมขึ้นมา<br /><br />ในที่สุด เพื่อนคนนี้ก็กลายเป็นลูกค้าของบริษัทผมไป เพราะเขา เห็นว่าเขาจะไต้รับผลประโยชน์คุ้มค่า<br /><br />พูดอย่างนี้ขึ้นมาไม่ใช่ต้องการคุยว่าผมเก่งกาจอะไรครับ ผม อยากจะเสนอท่านว่า ทุกขณะ ทุกย่างก้าว เราสามารถจะขายตัวเองไต้ นักธุรกิจบางคนไม่ยอมเผยตัวเองว่าทำธุรกิจอะไร คือพอใจในสภาพ อันมีขอบเขตจำกัดของตนเอง อยู่กับใครก็ไม่ยอมพูด ไม่ยอมแนะนำ <b>แว่นกันแดด</b><br /><br />ระหว่างการเดินทางไกลกลางทะเลทรายของเจ้าชายแขกผู้ ทรงอำนาจพระองค์หนึ่ง ปรากฏว่าไต้สูญเสียม้าไป ๑ ตัว เจ้าชาย ออกคำสั่งให้ทหารคนสนิทไปเลือกม้าพนธุดีมาแทน<br /><br />ในที่สุดไต้ม้าสองตัวมาพร้อมกับเจ้าของม้าสองคน เจ้าของม้า ต่างเกี่ยงกัน โดยอ้างว่าม้าของตนแก่แล้วและอ่อนแอ ไม่เหมาะกับ กองคาราวานของเจ้าชาย ทั้งนี้ก็เนื่องจากเจ้าของม้าต่างไม่อยากจะให้ ม้าของตนไปกับเจ้าชาย<br /><br />เจ้าชายจึงร้'บสั่งว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ลองแข่งกันดูซิ แล้ว ข้าจะเลือกเอาตัวที่ชนะ"<br /><br />นายทหารคนสนิทไต้ยินเช่นนั้น ก็กระซิบเจ้าชายว่า "ขอเดชะ วิธีนี้เราไม่มีทางรูใต้เลยว่าม้าตัวไหนวิ่งเร็วกว่า เพราะเจ้าของม้าแต่ละ คนต่างก็จะดึงม้าของตนเองไว่ไม่ให้ชนะ"<br /><br />เจ้าชายแขกทรงพระสรวลแล้วตอบว่า "เจ้าไม่ร้อะไร ข้ารับรอง ว่าพวกเขาจะต้องแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อเอาชนะใหได้ ทั้งนี้ก็เพราะว่าข้าจะออกคำสั่งให้เขาสลับม้ากันขี่"<br /><br />นิทานเรื่องนี้หยิบยกขึ้นมาคุยกันก็เพื่อที่จะเสนอแง่มุมว่า ปัญหา ต่าง ๆ ที่ดูเหมือนว่าพบกับทางตันนั้น แท้ที่จริงเราสามารถต้นหา ทางออกให้กับปัญหานั้น ๆ ไต้ ถ้าเรารู้จักหาแง่มุมในการมองและ พยายามที่จะไปเอาชนะมัน<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/154/victoriabeckham">แว่นกันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-19960506865439845472015-12-17T00:21:00.001-08:002015-12-17T00:21:25.108-08:00เพื่อยกระดับจิตสำนึก ความรับผิดชอบ ของลูกน้องให้ดียิ่งขึ้นลูกน้องมีความรับผิดชอบตํ่า ทำอย่างไรดีครับ มอบหมายงานไปแล้ว ก็ละลายหายเหมือนคลื่นกระทบฝัง หรือถ้าจะทำ ก็ทำอย่างขอไปที ได้ผลงานตํ่ากว่ามาตรฐานมาก ลูกน้องบางคน ไม่ใช่แต่ตัวเองไม่รับผิดชอบเท่านั้น ยังพาให้<br />
เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ เสียงานไปด้วยก็มีให้เห็นทั่วไป<br />
การชี้แจงจุดมุ่งหมาย การสอนแนะนำงาน การแกอบรมอะไร<br />
ต่าง ๆ ก็คงด้องทำกนไปนะครับ เพื่อยกระดับจิตสำนึก ความรับผิดชอบ<br />
ของลูกน้องให้ดียิ่งขึ้น<b>แว่นตากันแดด</b><br />
นี่ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารอยู่แล้ว<br />
ยังมีอีกวิธีหนึ่งครับที่ได้ผลตรงเป้าตามต้องการ นั่นคือการตั้ง<br />
เปิาหมายและกำหนดวิธีการ รวมทั้งกำหนดวันเวลา<br />
นายลี ไอ เอ คอกคา นักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ชาวอเมริกันใชวิธีตั้ง * คำถามกับลูกน้องเสมอๆ ว่า<br />
"คุณมีแผนงานที่จะทำอะไรใน ๓๐ วัน อะไรคืออันดับความ<br />
สำคัญของคุณ คุณหวังว่าจะไดัอะไรจากแผนงานนี้และคุณจะได้มัน<br />
มาด้วยวิธีใด"<br />
นายลีได้ชี้ให้เห็นครับว่าวิธีนี้จะช่วยให้ลูกน้องของคุณเดินตรง ไปตามเป็าหมาย และยังช่วยให้ลูกน้องของคุณเป็นคนรู้จักรับผิดชอบ ทั้งต่อเจ้านายของเขาและต่อตัวของเขาเอง<br />
ทำธุรกิจพูดโดยรวมๆ แล้วดูจะต้องออกแรงมากกว่าทำราชการ เพราะเป็นข้าราชการนั้น เป้าหมายของการทำงานค่อนข้างจะเป็น นามธรรม มองไม่เห็นว่าผลที่เกิดจะเป็นรูปธรรมอย่างไร แต่ทำธุรกิจ นี่ด้วเลขขาดทุนกำไรมันฟัองถึงฟืมือในการทำงานครับ<b>แว่นกันแดด</b><br />
ผู้บริหารจะต้องรับผิดชอบต่อเจ้าของกิจการและผู้ถือหน ถ้า ปีไหนทำกำไรไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ แสดงว่าประสิทธิภาพตํ่า ปีไหนขาดทุน ก็ยิ่งส่อแสดงว่า ไม่มีความสามารถ<br />
นักบริหารธุรกิจจึงต้องมีความรู้อย่างน้อย ๔ อย่างด้วยกันครับ<br />
๑. ความรู้เกี่ยวกับสินค้า ต้องรู้รูปพรรณสัณฐาน นํ้าหนัก ขนาดคุณภาพ จุดดี จุดต้อย ประโยชนIช้สอย การบำรุงรักษาและอื่นๆ<b>แว่นตา</b><br />
๒. ความรู้เกี่ยวกับบริษัท เช่น ระเบียบกฎเกณฑ์ นโยบาย บริษัทสายงาน การบังคับบัญชา อำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ เป็นต้น รวมถึงเงื่อนไขในการให้เครดิต การชำระเงินต่างๆ ต้วย<br />
๓. ความรู้เกี่ยวกับลูกค้า เป็นเรื่องสำคัญมาก ลูกค้ามีฐานะ แค่ไหน มีอำนาจซื้อหรือไม่ ลูกค้าอยู่ที่ไหน จะเข้าถึงลูกค้าไต้อย่างไร<br />
๔. ความรู้เกี่ยวกับคู่แข่งขัน ผู้บริหารหลายคนยังให้ความสนใจ น้อยไปกับความรู้นี้<br />
บริษัทเรายืนอยู่ตรงไหน มีส่วนแบ่งตลาดเท่าไร จุดอ่อนจุดแข็ง<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/category/22/levi">แว่นตา</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-14103098228870627662015-12-17T00:19:00.002-08:002015-12-17T00:19:58.728-08:00หนักหน่อยก็ภาคทัณฑ์เอาไว้สมชายกำลังขยับปากกาเขียนโครงการใหม่ที่เจ้านายมอบหมาย<br />
ให้ทัน<br />
บังเอิญจะต้องค้นเอกสารเก่ามาอ้างอิง ก็พบว่าเอกสารของตน จัดไม่เป็นระเบียบ วางสุมๆ ไว้ ไม่แยกแยะใส่แฟ้มให้หาง่าย จึงหัน ไปจัดแฟ้มของตัวใหม่ ใช้เวลาไปตลอดเช้าในการจัดแฟิม<br />
ตกม่ายเพื่อนโทรศัพท์มาหาขอมาคุยด้วยจึงนั่งคุยเรื่องส่วนตัว กับเพื่อนสักชั่วโมงหนึ่ง พอเพื่อนไปแล้ว เปิดลิ้นชักโต๊ะออกมาจะหยิบ กล่องนามบัตร ก็พบว่าในลิ้นชักมีข้าวของเกะกะเต็มไปหมด จึงใช้เวลา รื้อลิ้นชักใหม่ทั้ง ๓ ลิ้นชัก หมดไปอีก ๑ ชั่วโมง<br />
เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่งปกขาดกะรุ่งกะริ่ง จึงตกลงใจ ไปหยิบสกอดเทปมาจัดแจงซ่อมปกหนังสือให้เรียบร้อย ห่อปกใหม่อย่างดี <b>แว่นตากันแดด</b><br />
เห็นจดหมายเพื่อนวางอยู่บนโต๊ะ ๒ จันแล้วบังไม่ได้ตอบสักที จึงจัดแจงรีบตอบจดหมาย<br />
ดูเผินๆ สมชายก็เป็นคนขยันดีนะครับ ทำทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่างานเล็ก งานใหญ่ สำคัญไม่สำคัญ ขอไหได้ทำ<br />
งานก็เสร็จละครับแต่ไม่ใช่งานหลักที่เสร็จ กลายเป็นงานย่ออ งานที่ไฝสำคัญ ไฝเร่งด่วน<br />
จะต้องเอาเช็คเข้าบัญชีธนาคารให้ทันก่อน ๑๐ นาฬิกา กลับไป<br />
พนักงานทำผิด ขาดความรับผิดชอบ ทำงานออกนอกแนว ปฏิบัติที่วางไว้ เกิดผลเสียต่อบริษัท สิ่งที่ผู้จัดการถนัดทำคือ เรียก พนักงานมาเตือน หนักหน่อยก็ภาคทัณฑ์เอาไว้<br />
การตักเตือนแต่เพียงอย่างเดียวบังไม่พอครับ เพราะไม่ไต้ก่อ ให้เกิดความเติบโตทางสติปัญญาอะไรขึ้นมา สิ่งที่ควรจะตามมาต่อจาก การตักเตือนคือ วิธีที่ถูกต้องเป็นอย่างไร<b>แว่นกันแดด</b><br />
ผู้จัดการจะต้องมั่นใจด้วยว่า สิ่งที่ตนสอนและแนะนำไปนั้น เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงความสามารถของพนักงานให้มีมากขึ้นตังนั้น วิธีสอนแนะนำจึงต้องการคำอธิบายที่ละเอียดชัดเจน<br />
เมื่อสอนและแนะนำไปแล้ว พนักงานรับปากแต่คำว่า "ครับ" ก็ยังแน่ใจไม่ไต้ว่าเขาเข้าใจแล้ว เพราะเขาอาจจะครับอย่างขอไปทีก็ไต้<b>แว่นตา</b><br />
ตังนั้น ผู้จัดการจึงต้องเปิดโอกาสให้พนักงานออกความเห็น โต้แย้งไต้เพื่อให้เขาไต้รับการชี้แจงที่ละเอียดแจ่มแจ้งยิ่งขึ้นไปอีก<br />
เมื่อตักเตือนและแนะนำไปแล้ว ผู้จัดการยังจะต้องติดตามผล ด้วยว่า เขาได้ปฏิบตตามคำแนะนำหรือเปล่า ผลเป็นอย่างไร ต้องรู้จัก ชมเชย ถ้าเห็นเขาทำงานไต้ดีขึ้น ที่สำคัญก็คือ ผู้จัดการจะต้องเชื่อมั่น ว่าสิ่งที่สอนและแนะนำไปนั้นจะเป็นผลดี ถ้าไม่เชื่อมั่นเช่นนี้แล้ว พนักงานก็จะไม่มีความมั่นใจในผู้จัดการคนนั้นไต้<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/275/%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%94-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%88-52-16-135">แว่นกันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-29893140177893622282015-12-17T00:17:00.000-08:002015-12-17T00:17:32.357-08:00 สวัสดิการของเรายังไม่ดีเท่าบริษัทอื่นมีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับการรับคนเข้าทำงานใหม่ ที่มัก จะเสียใจภายหลังว่า "เขาไม่ดีอย่างที่คิด" "เขาไม่เก่งอย่างที่หวัง" - ทั้งนี้เพราะกระบวนการในการคัดเลือกคนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไม่อาจ ตดสินได้แม่นยำเต็มที่<br />
พนักงานใหม่จำนวนมาก เมื่อตอนสัมภาษณ์ก็รับปากรับคำได้<br />
ทุกอย่าง<br />
ทำงานเกินเวลาได้มั้ย-ได้ครับ<br />
เงินเดือนตํ่ากว่ามาตรฐานมีปัญหาไหม - ไม่เป็นไรครับ<br />
ออกต่างจังหวัดนานๆ จะมีปัญหากับครอบครัวไหม - ไม่มี<br />
ปัญหาครับ<br />
ห้องทำงานแคบไปหน่อยนะ - เรื่องเล็กครับ สวัสดิการของเรายังไม่ดีเท่าบริษัทอื่น - ไม่สำคัญครับ เรียกว่าสามารถจะรับได้ทุกอย่าง จนแทบจะไม่รับเงินเดือนเลย<br />
ก็คงจะเอา ขอแต่เพียงให้1ด้ทำงานก็พอใจ<b>แว่นตากันแดด</b><br />
ระยะทดลองงานสามเดือนนี่ เอาการเอางานที่สุดครับ ทำงาน<br />
ยังกับพายุบุแคม เรียกว่าไม่ไล่ไม่อยากกลับบ้านกันทีเดียว<br />
ทันทีที่ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำเท่านั้นแหละ<br />
ลวดลายก็เริ่มแสดงออกตั้งแต่วันแรกที่ได้รับบรรจุทำงานเลย คนคนเดียวกัน<br />
เพื่อนร่วมสถาบันศึกษาเก่าของผมรํ่ารัองจะจัดงานสังสรรค์ มาหลายปีแล้ว จนแล้วจนรอดก็ยังจัดไม่ได้สักที เพราะมัวแต่คิดและ "ว่าจะ" จัดกัน วันหนึ่งได้เจอเพื่อนในงานศพ เพื่อนก็ปรารภว่า อยากจะจัด ทำอย่างไรดี<b>แว่นตา</b><br />
ผมรีบเปิดปฏิทินดูวันเวลาที่สะดวกของผมแล้วกำหนดลงไปว่า เย็นวันที่เท่าไร วันอะไร เพื่อนผมตกลงด้วย แล้วก็ช่วยกันทำงาน ปรากฏว่าเป็นการชุมนุมร่นที่มีเพื่อนมามากที่สุดกว่าครั้งใด ๆ ที่ผ่านมา<br />
งานมันเริ่มเดินตั้งแต่มีกำหนดวันที่แน่นอนครับ ถ้าไม่ได้ กำหนดวัน ปานนี้ก็ยังไม่ได้จัด กำหนดวันลงไปแล้วทุกอย่างก็จะตามมา ได้วันแล้วต้องหาสถานที่ ได้สถานที่แล้วด้องออกจดหมายเวียน ด้อง โทรศัพท์ตาม ต้องวางแผนว่าจะจัดงานวันนั้นอย่างไร สภาพบังคับให้ ทำงานมันเริ่มจากมีกำหนดวันที่แน่นอนนั่นเอง<b>แว่นกันแดด</b><br />
มีหลายคนยังทำงานกนโดยไม่กำหนดวันเวลา คิดจะทำอะไร สักอย่างหนึ่งก็ได้แต่คิดได้แต่ฝ็นอยู่นั่นแล้วเมื่อไม่มีกำหนดเวลาก็ปล่อย เลยตามเลย ไม่เสร็จก็ไม่เป็นไร ไม่ทำก็ไม่เป็นไร ผลงานจึงเกิดไม่ได้<br />
แม้แต่ในที่ประชุมขององค์การของบริษทของสมาคมหลายแห่ง ที่ผมไต้พบมา มีการเสนอแผนงานสวยหรูน่าสนใจมาก แต่ไม่บอกว่า จะทำเสร็จเมื่อไร แล้วในที่สุดงานนั้นก็ไม่ไต้ทำครับ<br />
ผู้จัดการหรือประธานในที่ประชุมที่ทำงานเป็นเขาจัดตั้งคำถาม<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/10/%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%99ksubi-%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99-bellatrix">แว่นกันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-8042908411544573932015-12-16T01:19:00.003-08:002015-12-16T01:19:46.387-08:00ตามที่ตน มุ่งหวัง<br /><br />กรรมสยอว สนองกันถา!<br /><br />00<br /><br />ของเธอก็ล้วนแต่เป็นผู้มีฐานะดีพอทึ่จะพึ่งพาและฝากชีวิตจิ91ใจเอาไว้ กับใ^คคลตระกูลนIด้<br /><br />จึงเป็นอันว่าจะยอมอยู่ ณ หมู่บ้านนี้ แล้วเตรียมตัวเดินทาง ไปแจ้งพ่อแม่ให้มาส่ขอนางสาวมะสิวรรณ (นามสมมติ) ตามที่ตน มุ่งหวัง <b>แว่นตา</b><br /><br />ขณะที่นายนิตย์ไปบอกพ่อแม่นั้น ฝายพ่อของนางสาว มะลิวรรณได้ปวยโดยกะทันหันและได้เสียชีวิตไป ยังคงเหลือแต่แม่ และนางสาวมะลิวรรณกับน้องสาวรวมอีกเป็น ๓ ชีวิต<br /><br />เมื่อนายนิตย์นำพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ มาสู่ขอนางสาว มะลิวรรณตามที่ถูกที่ควร ข้างฝายแม่และหมู่ญาติก็ไม่ขัดข้อง จัดการ ตามประเพณวิวาห์มงคลให้ตามประสงค์<b> แว่นตากันแดด</b><br /><br />นายนิตย์ได้แต่งงานกับนางสาวมะลิวรรณแล้ๆ^มุ่งมๅ^อดทน ต่อการประกอบอาชีพโดยไม่เห็นแก่ความรู้ที่รํ่าเรียนมา จะเป็นการท่านา ทำไร่ก็ดี อดทนกัดฟันต่อสู้เพื่อจะกอบกูฐานะความเป็นอยู่ของตนให้ดี ยิ่งๆ ขึ้น งานหนักก็เอางานเบาก็สู้ ไม่ยอมให้เวลาล่วงเลยไปโดยมิได้ ประโยชน์อะไร<br /><br />ถึงคราวโรงเรียนปิดภาคเรียนชาๆบ้านเพื่อนฝูงออกค้ๅขๅยเข ออกค้าขาย มีเครื่องหวายต่างๆ ที่นอน เสื้อผ้า ๆลๆ<br /><br />เขาเป็นผู้มีความขยันหมั่นเพียร งานหลวงมิให้ขาดงานราษฎร์ มิให้เสีย คบเพื่อนก็เลีอกคบแต่คนที่จะแนะนำประโยขนIห้<br /><br />บุหรี่ สุรา การพนัน ไม่แตะต้อง เข้าว้ดปฏิบัติธรรม สร้างกุศล ผลบุญตามเยี่ยงอย่างอรียประเพณีของหมู่บ้าน แม่ยายและภรรยา<br /><br />กรรมสขอว สชอ0กันตาI 0๕<br /><br />ไรหนอเราจะได้นาง (เพียงแต่คิดอยู่ในใจของตนแต่ผู้เดียว ไม่สามารถ จะไปเปิดเผยให้ผู้อื่นทราบ)<br /><br />อีกอย่างทรัพย์ซึ่งเป็นมรดกของแม่ยายที่ตายไปนั้น มีที่นา ประมาณ ๖๐ กว่าไร่ ที่อยู่อาศัยประมาณ ๘ ไร่ ที่สวนปลูกพึขไร่ประมาณ ๑๐๐ กว่าไร่ มีสิงปลูกสร้างอีกคือป้านที่อาศัย ฉางเก็บข้าวเปลือก สิง เหล่านี้หากเราได้น้องของเมียเอามาเป็นเมียอีก ทรัพย์มรดกก็จัก ไม่ต้องแบ่ง คงอยู่ในความปกครองของเราคนเดียว หากเราให้น้องเมีย ไปมีสามีเป็นคนอื่นนั้นบางทีอาจจะมาขัดใจกับเราอีกก็เป็นได้<br /><br />นี่แหละคีอต้วตัณหาความทะเยอทะยานอยาก ดิ้นรนในวัตถุ ที่พอใจชวนให้รักใคร่ เมื่อได้แล้วก็หมกมุ่นอยู่ในวัตถุนั้น ที่ไม่ได้ ก็ชวนให้อยากใคร่นี้เป็นกามตัณหา <b>แว่นกันแดด</b><br /><br />ท่านให้พิจารณาคือความสันโดษยินดีในของทิ่มีอยู่ พอใจแต่ เฉพาะของๆ ตนทิ่มอยู่ หากทะยานเอาของผู้อื่นมาเป็นของตนเมื่อไม่ได้ ก็เป็นทุกข์<br /><br />บังเอิญครั้งนั้นนางมะลิวรรณได้จ้างคนงานไปถางหญ้าที่ไร่ซึ่ง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๑๐ กิโลเมตร จึงบอกให้สามีของตนและ น้องสาวไปช่วยดูความเรียบร้อยของคนงานที่ตนจ้างไปนั้นว่าจะละเอียด ถี่ถ้วนหรือไม่ เพราะตนเองจ้างเป็นงานเหมาไม่ใช่เป็นรายวัน<br /><b><a href="http://www.vanlnw.com/category/4/karen-walker">แว่นกันแดด</a></b><br />นายนิตย์พร้อมด้วยนางสาวกัญนิกาขับรถกระบะคู่ชีพไปยังไร่ ตามค่าส่งของเมีย ในขณะขับรถไปนั้นนายนิตย์ก็ส่งจตคิดมโนภาพ ว่าน้องเมียก็คือเมียของเรา หากเราได้น้องเมียมาเป็นภรรยาอีก เรา จะมีความสุขจนหาสิ่งอันใดมาเปรียบมิได้จึงกล่าวขึ้แว่าAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-58789704385989637372015-12-16T01:17:00.004-08:002015-12-16T01:17:32.220-08:00เกิดมาอย่างภาคภูมิเต็มที่<br /><br />กรรมสยอง สชอวกันถา!<br /><br />คอ<br /><br />ผู้อื่นลัก<br /><br />๓. กาเมสุ[มิจฉาจาร ห้ามมิให้ล่วงเกินในลูก พ่อ สามี ภรรยา ของท่านผู้อื่น<br /><br />๔. ^สาวาท ห้ามมิให้กล่าวคำเท็จ คอคำไม่จริง ล่อลวงอำพราง ท่านผู้อึ่น<br /><br />๕. สุราเมรย ห้ามมิให้ดื่มนํ้าเมา คือสุราและเมรัย อันเป็นเหตุ ที่ตั้3แห่งความประมาท<br /><br />ศลทั้งห้าข้อนี้จะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ามนุสธรรม คือธรรมที่ทำ ให้เป็นมนุษย์ <b>แว่นตา</b><br />^คคลทั้งหลายที่เกิดมานี้ต้องอาศัยประพฤติธรรมนี้จึงได้เกิด มาเป็นมนุษย์ ฉะนั้นเราระลึกนึกถึงคณของธรรมข้อนี้ด้วยการปฏิบัติ ตาม จึงจะได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่มีความกตัญญกตเวทีต่อคุณธรรมที่แต่ง ให้เราเกิดมาอย่างภาคภูมิเต็มที่<br /><br />แต่ที่ได้เกิดมาแล้วกลบทำแต่ความชั่ว ทำตัวให้เลว ตกตํ่า ถลำ เข้าไปหาแต่สิงที่เป็นทุกขโทษมิได้ทำให้เป็นประโยชน์แก่คุณธรรมเลย ก็จะต้องได้รับผลของการกระทำนั้น ดังเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วเช่นเรื่องนี้ เป็นตัวอย่างซึ่งเป็นเรื่องจริง<br /><br />นายนตย์ (นามสมมติ) เป็นคนมาจากถิ่นอื่น ภูมิลำเนาของเขา เกิดที่จังหวัดลพบุรี<br /><br />เหตุทิ่มาอยู่ ณ หมู่บ้านนี้เพราะทางราชการสอบบรรจุครูในเขต จังหวัดนครราชสีมา เขาสอบได้คะแนนที่ดีเยี่ยมจึงมีสิทธึ้เลีอกโรงเรียน ตามใจชอบของตน เขาได้เลือกเอาโรงเรียน ณ หม่บ้านแห่งหนึ่ง<br /><br />กรรมสยอง สนอวกัชถา!<b>แว่นตากันแดด</b><br />๒๗<br /><br />กิโลเมตร สาโรจน์ก็มิได้ระแวงประการใดไม่ คนโดยสารก็รู้จัก ที่จะไป ก็พอมีคนรู้จักและเคยไปเที่ยวมาแล้ว พูดง่ายๆ ว่าในเขตบ้านของตัวเอง ไม่รู้จะไปกลัวอะไร<br /><br />แต่ขึ้นชื่อว่าโจรแล้วย่อมจะคิดแต่ได้ฝายเดียว ไม่คิดถึงเรื่อง ของผู้อื่น จะอย่างไรก็ต้องเอาให้ไดไว้ก่อน เรื่องอื่นๆ ไม่ยอมคิด ค่อยว่ากันทีหลัง<br /><br />ออกจากตลาดก็วิ่งรถไปเรื่อย ผ่านบ้านบางนอนซึ่งเป็นบ้าน ของสาโรจน์เอง ผ่านบ้านนํ้าตกไปจนกระทั่งถึงทางแยกซ้ายมือ มิป้าย บอกว่าโรงเรียนบ้านหินช้าง รถก็เลี้ยวซ้ายเข้าโรงเรียนบ้านหินช้างก็ยัง ไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ<br /><br />ทันใดนั้นก็ได้มีชายอีกคนวิ่งพรวดออกมาจากริมปาชายคนนี้ คือเพื่อนร่วมปล้นของอรรณพนั่นเอง<br /><br />ดังที่บอกแล้วว่าโจรต้องเห็นแก'ตัวเองก่อน อรรณพจึงระเบิด กระสุนใส่สาโรจน์ทันที แต่กระสุนไม่ถูกที่สำคัญให้ถึงกับตายทีเดียว สาโรจน์จึงล้มลงไปนอนครวญครางอยู่ที่พึ้น เพื่อนที่ร่วมปล้นสังให้ฆ่า ให้ตาย อรรณพก็ร้บทำตามทันทีโดยลากเข้าริมปา <b>แว่นกันแดด</b><br /><br />แต่แทนที่จะยิงซํ้าอรรณพกลับเสียดายลูกปืน เพราะปืนเป็น ปืนลูกซองสันมีกระสุนอยู่ ๒ นัด ยิงไปแล้ว ๑ นัด ยังอีกนัดบรรจุไว้ ในลำกล้อง จะยิงก็กลัวไม่มีลูกปืนไว้ป้องกันตัว จึงตัดสินใจจับกระบอก ปืนแล้วใช้ด้ามปินตีหัว<br /><br />ทันใดนั้นจะเป็นด้วยกรรมหรีอความสะเพร่า ขอให้ท่านผู้อ่าน พิจารณากันเองเถิดครับ<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/294/%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%94-%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7-2">แว่นกันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-87820957038377879122015-12-16T01:15:00.000-08:002015-12-16T01:15:44.610-08:00หนึ่งอันเดียวกันเป็นกลุ่ม<br /><br />กรรมสยอง สนอวกัชถา! ๐๒<br /><br />เมื่อมาทำการสอนเด็ก ณโรงเรียนในหมู่ป้านนั้นแล้ว ก็มาพก อ^ที่ม้านพักครูพร้อมด้วยเพื่อนครูที่ยังโสด โดยห&)จากเลิกสอนเด็กแล้ว ก็เที่ยวเยี่ยมและวิสาสะกับเพื่อนป้านตามสภาพของคนที่มาอยู่ใหม่<br /><br />นายนิตย์ มาทำการสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ ๓ ปีผ่านพ้นไป ความ สนิทสนมกับชาวป้านและเพื่อนฝูงแนบแน่นยิ่งขึ้น คณะครูและเด็ก นักเรียนต่างก็มีความรักใคร่สามัคคีกันยิ่งขึ้น ทั้งชาวป้านและครู และ เพื่อนฝูง แสดงความเป็นกันเองไม่เอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน มี กิจการทางโรงเรียนชาวป้านก็ช่วยจนเต็มความสามารถ ทางวดมีการ บำเพ็ญกุศลตามวาระต่างๆ ทางโรงเรียนและชาวป้านก็สนับสนุน<br /><br />กลุ่มชาวป้านมีการพัฒนาทางโรงเรียนและทางวัดก็ไม่ทอดทิ้ง ถีอเอาเป็นธุระ อยู่กันด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นกลุ่ม<br /><br />เป็นก้อนไม่แตกแยก จนหมู่บ้านนี้Iด้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่บานที่มี คณธรรมสูง<br /><br />ฝ่ายพ่อแม่ของนายนิตย์ มีความประสงค์จะให้ลูกชายกลับ ไปทำการสอนในเขตจังหวัดลพ^รี เพราะเหตุว่าได้ตกลงกับหญิงสาว ทึ่จะหมายมั่แให้เป็นสะใภในอนาคต แต่ยังไม่ได้ตกลงในการหมั้แหมาย เป็นแต่เพียงการทาบทามกันเอาไว้ เพราะลูกชายยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะเอาอย่างไรกันแน่<br /><br />นายนิตย์ทบทวนแนวความคิดของฝ่ายพ่อแม่ ทิ่จะให้ตัดสินใจ ว่าจะกลับภูมิลำเนาเดิมหรีอจะอยู่ป้านนี้ เพราะว่าได้มองหญิงคนหนึ่ง เอาไว้แล้ว ซึ่งเป็นผู้มีรูปร่างงามพอสมควร ทั้งกิริยามารยาทก็ดีจะพูดจา ปราศยก็ฉลาดหลักแหลม หลักฐานวงส์ตระกูลพ่อแม่และหมู่ญาติ <b>แว่นตา</b><br /><br />กรรมสยอว สIเอวกันถา! ๒๘<br /><br />ปีนก็ระเบิดตูม กระสุนถูกบริเวณขาอรรณพเข้าอย่างจัง ส่วน เพื่อนโจรของอรรณพก็ได้ติดเครื่องรถหายออกไปแล้ว เพราะคิดว่า ตัวเองทำงานสำเร็จแล้ว<b>แว่นตากันแดด</b><br /><br />มาคราวนี้ที่อรรณพเคยคิดว่าจะเดินกลับป้านทางลัด เพราะที่ ทำการปล้นห่างจากป้านประมาณครึ่งกิโลเมตรเท่านั้นเอง แต่เหตุการณ์ กลับผิดไปจากที่คิดเสียแล้ว จึงต้องจำใจเดินออกถนนใหญ่เพื่อรอ รถประจำทางไปหาหมอทำการรักษาต่อไปด้วยความเจ็บปวด<br /><br />เหมือนก็'บเป็นกรรมชํ้าเติมหรึออย่างไรไม่ทราบได้ รถช่วงนั้น ขาดช่วงนาน เลึอดจากบาดแผลไหลรินจนกางเกงขายาวเปียกโชก จะรอรถประจำทางก็เสียเวลาไปอีกนานเท่าไรไม่แน่นอน จึงตัดสินใจ<br /><br />จะโบกรถที่ผ่าน ตั้งใจว่าคันไหนมาก1บกคันนั้น<br /><br />รถยนต์มาคันแรกก็ถูกอรรณพโบกทันที เจ้าของรถก็ช่างใจดี หชุดรถแล้วลงมาช่วยพยุงขึ้นรถนำส่งโรงพยาบาลทันที<b>แว่นกันแดด</b><br /><br />แต่นั่นแหละครบ ที่ว่ากรรมซาเติมก็เพราะรถที่อรรณพโบกนั้น เป็นรถตำรวจนอกเครื่องแบบ เขาจึงถูกอายัดตัวที่โรงพยาบาล ต่อมา หลังจากสีบสวนจากพยานหลักฐานต่างๆ อรรณพจึงยอมรับสารภาพ ในสิงที่ตนกระทำในครั้งนั้นและยอมรับว่าเคยกระทำลักษณะเดียวกัน นี้มาแล้วไม่น้อยกว่า ๕๐ ครั้ง<br /><br />จากเรื่องที่นำมาเล่าให้ฟังนี้ แมไม่ทราบชัดนักว่าเหตุที่สาโรจน์ ต้องมาถูกฆ่าตายอย่างนั้น เพราะเคยก่อเวรสร้างกรรมอย่างไรไว้กับใคร แต่สำหรับอรรณพแล้ว แมในครั้งนั้นการกระทำของเขาจะไม่มีใครรู้ ใครเห็นหรือสืบสาวราวเรื่องของเขาได้ แต่ก็มีเหตุนำพาให้เขาต้องไป<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/185/rayban-rb-8395-polarized-%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A5">แว่นกันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-67692997651400567332015-12-12T20:51:00.001-08:002015-12-12T20:51:30.370-08:00แว่นตา ชุดที่จะตัดรังสีอัลตราไวโอเลตและแสงสีฟ้าได้<br />มันสามารถติดตั้งจากด้านบนของแก้วที่ขายแว่นตากันแดดใหม่ที่จะตัด 99% ของรังสีอัลตราไวโอเลต<br /><br />SUPLUS 17 พฤศจิกายนจากแว่นตากันแดด "Aiburera" ชุดที่จะตัดรังสีอัลตราไวโอเลตและแสงสีฟ้าได้รับการปล่อยตัวในช่วงแก้ว "Aiburera บวก" (ที่ 20 000 5380 ¥รวมภาษี)<br /><br /><a href="http://news.mynavi.jp/photo/news/2015/11/19/217/images/001l.jpg"><img border="0" src="http://news.mynavi.jp/news/2015/11/19/217/images/001.jpg" /></a><br /><br /><br />"Aiburera บวก" สีดำ (20 000 5380 ภาษีเยนรวม)<br /><br /><br />สินค้าชนิดเดียวกันได้อย่างรวดเร็วนำไปใช้จากด้านบนของ<b>แว่นตา</b>, <b>แว่นตากันแดด</b>ที่ป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต ตามที่ บริษัท ฯ ในช่วงฤดูหนาวจากฤดูใบไม้ร่วงสำหรับระดับสูงของดวงอาทิตย์มาต่ำกว่าช่วงฤดูร้อนที่จะเข้าสู่รังสีดวงอาทิตย์โดยตรงกับนักเรียนที่อ้างถึงเป็นเรื่องง่ายที่จะรู้สึกแสงจ้า "ผมต้องการที่จะใช้<b>แว่นกันแดด</b>เพื่อป้องกันแสงจ้า แต่ไม่ทำงานจากด้านบนของแก้วที่" ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อเสียงของผู้ใช้เช่นแก้ว<br /><br />แม้จะมาจากด้านบนของแก้วเพื่อที่จะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเครียดได้รับการออกแบบโดยเน้นความพอดี กรรมสิทธิ์ "เบ็ด Fit ง่าย" (ในการออกแบบโปรแกรมการลงทะเบียน) เราตระหนักถึงความสะดวกสบายในแบบที่คุณจะหายไปหนึ่งแก้ว วัดเพื่อที่จะไม่รบกวนกรอบแว่นตาที่ใช้สิ่งที่เป็นเบามีความยืดหยุ่น<br /><br /><a href="http://news.mynavi.jp/photo/news/2015/11/19/217/images/002l.jpg"><img border="0" src="http://news.mynavi.jp/news/2015/11/19/217/images/002.jpg" /></a><br /><br /><br />"Aiburera บวก" สีน้ำตาลสีดำ (20 000 5380 รวมภาษีเยน)<br /><br /><br />กรอบพนักงานรอบเพื่อสร้างความประทับใจที่อ่อนนุ่ม ด้านของการจัดการที่มีผลกระทบใบหน้าขนาดเล็กและมีผลบังคับใช้ลิฟท์ขึ้น เลนส์ในดวงตา Brera บวกเฉพาะมัลติฟังก์ชั่เลนส์สีฟ้าตัดยังตัด 99% ของรังสีอัลตราไวโอเลต<br /><br /><a href="http://news.mynavi.jp/photo/news/2015/11/19/217/images/003l.jpg"><img border="0" src="http://news.mynavi.jp/news/2015/11/19/217/images/003.jpg" /></a><br /><br /><br />"Aiburera บวก" ลักษณะของเลนหลังจากที่สวมใส่<br /><br /><br /><a href="http://news.mynavi.jp/photo/news/2015/11/19/217/images/004l.jpg"><img border="0" src="http://news.mynavi.jp/news/2015/11/19/217/images/004.jpg" /></a><br /><br /><br />"Aiburera บวก" ภาพที่สวมใส่<br /><b><a href="http://www.vanlnw.com/category/22/levi">แว่นตากันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5675316195414297869.post-12217262594870229042015-12-12T20:21:00.005-08:002015-12-12T20:21:53.874-08:00ฤดูร้อน 2008 แนวโน้มแว่นตากันแดด<br />ฤดูร้อน 2008 แนวโน้ม<b>แว่นตากันแดด</b><br /><br />เราจะยังคงเป็นครั้งสุดท้ายในครั้งนี้ผมเขียนแว่นตากันแดดของบทความ แว่นกันแดดแม้ว่ามันจะเป็นหลักสูตรที่จะเลือกแว่นตากันแดดที่ดูดีบนใบหน้าของคุณ แต่มันก็ยังควรรวมแนวโน้มของฤดูกาล ดีในปีนี้แนวโน้มแว่นตากันแดดในช่วงฤดูร้อน?<br /><br />มีแนวโน้มในการสวม<b>แว่นกันแดด</b>คือบทความก่อนหน้านี้"จุดของแว่นตากันแดดวงเล็บเลือกดูดี"ในเราจะอธิบายวิธีการเลือกแว่นกันแดดที่มีลักษณะเย็น แว่นกันแดดปรารถนาดีที่สุดคือการเลือกผู้ที่ดูดีของตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่สิ่งที่คุณต้องการที่จะตระหนักถึงแนวโน้มของฤดูกาล ดังนั้นเวลานี้เราจะมาแนะนำแว่นตากันแดดของแนวโน้มปี 2008 บางคนคิดว่า Nante "มี? แนวโน้ม Nante ในแว่นตากันแดด" แต่มีแนวโน้มในการสวมแว่นกันแดด มากโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทุกปีรูปร่างและขนาดของกรอบที่คุณสามารถดูวัสดุที่มีคุณสมบัติในแนวโน้มของยุคเช่นสีของเลนส์<br /><br />กรอบมือถือฟื้น<br /><img border="0" src="http://imgcp.aacdn.jp/img-a/auto/auto/aa/gm/article/1/9/6/5/3/3/me2.jpg" /><br />ขนาด Deca ของแว่นตากันแดดในปีนี้แนวโน้มยังคงเซลล์กรอบ ที่มีกรอบหนามันเป็นในหลาย ๆ กรณีของการออกแบบที่มีสถานะที่แข็งแกร่ง ภาพถ่าย: MODO EYEWEAR (ผลิตภัณฑ์อ้างอิง)<br />ผมอยากจะทราบแนวโน้มที่แว่นตากันแดดในปีนี้ก็เป็นกรอบมือถือโดยใช้วัสดุเช่นอะซิเตท แว่นตากันแดดมีหลักสองประเภทของกรอบโลหะโดยใช้วัสดุดังกล่าวเป็นกรอบมือถือและไทเทเนียม และกรอบมือถือที่ได้กลายเป็นแนวโน้มในปีนี้ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือความหนาแม้ผู้หลักขนาดที่ใหญ่ของกีฬาและเลนส์แว่นกันแดดขนาดใหญ่นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ใหญ่มากจะสะดวกสบายในการซ่อนครึ่งบนของใบหน้า หน้าต่อไปในการดำเนินการต่อไปผมจะแนะนำแนวโน้มของแว่นตากันแดดในปีนี้ [บทความล่าสุด] - จุดดูเย็นของ<b>แว่นตา</b>กันแดดต้องการ - ปมส่วนที่ 2 ของการผูกที่คุณควรรู้, เคล็ดลับจับผูกเลือกส่วนที่ 2<br />
<b><a href="http://www.vanlnw.com/product/287/oakley-radarlock-5%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%8C">แว่นตากันแดด</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/09908627149403560706noreply@blogger.com0