ประวัติศาสตร์ของ Ray-Ban Aviator

ประวัติความเป็นมา[แก้ไข]

ประวัติศาสตร์ของ Ray-Ban Aviator วันที่กลับไปช่วงทศวรรษที่ 1930 เมื่อเครื่องบินใหม่ที่ได้รับอนุญาตให้คนที่จะบินได้สูงและไกลออกไป หลายกองทัพอากาศสหรัฐบริการนักบินรายงานว่าแสงจ้าจากดวงอาทิตย์ก็ให้พวกเขามีอาการปวดหัวและเจ็บป่วยระดับความสูง ในปี 1929 สหรัฐฯกองทัพอากาศพลโทจอห์น MacCready ถาม Bausch & Lomb, โรเชสเตอร์, นิวยอร์กตามผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการสร้างแว่นกันแดดการบินที่จะช่วยลดอาการปวดหัวและคลื่นไส้ประสบการณ์โดยนักบินซึ่งจะเกิดจากการที่รุนแรงสีฟ้าและสี เฉดสีสีขาวของท้องฟ้า, [2] [3]เป็นชนิดใหม่ของแก้วถูกนำมาใช้ ต้นแบบที่สร้างขึ้นในปี 1936 และเป็นที่รู้จักเป็น 'ป้องกันแสงสะท้อน' มีกรอบพลาสติกและเลนส์สีเขียวที่สามารถตัดออกจากแสงจ้าโดยไม่ปิดบังวิสัยทัศน์. [4]แว่นตากันแดดที่ได้รับการออกแบบที่มีกรอบโลหะในปีต่อไปและแบรนเป็น ' Ray-Ban Aviator ' เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 1937, Bausch & Lomb เอาออกสิทธิบัตรและนักบินเกิด. [4]

ในปี 1939, Ray-Ban เปิดตัวรุ่นใหม่ของนักบินที่เรียกว่า Outdoorsman มันถูกออกแบบมาสำหรับกลุ่มที่เฉพาะเจาะจงเช่นการล่าสัตว์การถ่ายภาพและผู้ที่ชื่นชอบการตกปลาและให้ความสำคัญเป็นแถบด้านบนที่เรียกว่า "บาร์เหงื่อ" ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อจับเหงื่อตกไปอยู่ในสายตา พวกเขายังให้ความสำคัญชิ้นท้ายวัดจะแตกต่างจากนักบินมาตรฐาน. [ต้องการอ้างอิง]ไม่กี่ปีต่อมาในปี 1940 เลนส์ไล่โทนสีถูกนำมาใช้ เหล่านี้ถูกสะท้อนเลนส์ซึ่งเป็นจุดเด่นของการเคลือบพิเศษที่ส่วนบนของเลนส์สำหรับการป้องกันที่เพิ่มขึ้น แต่เลนส์เคลือบผิวที่ต่ำกว่าสำหรับมุมมองที่ชัดเจนของแผงหน้าปัดเครื่องบิน. [4]

ในปี 1952, Ray-Ban สร้างขึ้นอีกสไตล์คลาสสิกที่Ray-Ban Wayfarerครั้งนี้มีกรอบพลาสติก ไม่ช้าพวกเขากลายเป็นที่นิยมในฮอลลีวู้ดและสามารถมองเห็นได้บนเจมส์ดีนในปี1955 ของรัฐบาลโดยสาเหตุ ในขณะนี้ได้มาตรฐาน G-15 เลนส์สีเขียวและสีเทาถูกนำมาหนึ่งปีหลังจากที่ Wayfarer ในปี 1953 [4]

นอกจากนี้ บริษัท ยังเป็นผู้บุกเบิกในแก้วห่อรอบ: ในปี 1965 โอลิมเปีย I และ II ถูกนำ; พวกเขากลายเป็นที่นิยมเมื่อปีเตอร์ดาสวมพวกเขาในภาพยนตร์เรื่อง1969 กาฝาก ในปี 1968, Ray-Ban ปล่อย Balorama ซึ่งเป็นที่รู้จักดีในฐานะแฮร์รี่สิทธิชัยของแว่นตากันแดด 1973 ในภาพยนตร์Magnum กองทัพ. [4] [ไม่ได้อยู่ในการอ้างอิงได้รับ]แบรนด์ที่ยังคงเป็นที่นิยมในช่วงยุค 60 และยุค 70 และได้รับความนิยมในช่วง 1980 ขอบคุณการจัดการตำแหน่งที่ร่ำรวยด้วยจี้ในภาพยนตร์บลูส์บราเธอร์ส (1980) ความเสี่ยงทางธุรกิจ (1983) และท็อป (1986). [4]

ใน 90s, Ray-Ban กลายเป็นเหยื่อของฟันเฟืองกับแฟชั่นปี 1980 และคู่แข่งเช่นOakleyได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าที่มีอายุน้อยกว่า Ray-Ban เริ่มที่จะต่อสู้และในปี 1999 เจ้าของ Bausch & Lomb ขายแบรนด์เพื่อแว่นกันแดด บริษัท อิตาเลียนLuxotticaสำหรับ . $ 640,000,000 [1]เพื่อแข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่น Ray-Ban ออกมาพร้อมกับชุดของนวัตกรรมและเงามองหาการออกแบบที่วิจิตรแสดงในซีรีส์ของรุ่นต่อไปนี้: ล่า, ความเฉื่อยทำนาย, แกสบี้, แม้แต่ข้างถนนหนทางและตัดแว่นตากันแดด