วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เมื่อ คืนเกิดเหตุการณ์อะไร

คำตอบจากฝ่ายที่ตกเป็นจำเลยนอกจากสายตาที่แสดงถึงความสับสนงุนงงฉายชัด
"๓3โ]0โ3๓ มันมึฤทธกล่อมประสาท ถ้าร่างกายได้รับในปริมาณมากมันก็เกิด อันตรายทำให้หัวใจวายได้ ซึ่งมันตรงกับอาการของคุณป้าตอนที่เสีย"
กาชะลองนิ่งอึ้ง สับสนงุนงงถึงที่สุด กา8โ]0โลกา น่ะหรือจะมีฤทธิรุนแรง ถึงเพียงนี้ คิดไปถึงดิสธร เป็นไปได้หรือที่เขาจะคิดมุ่งร้ายคุณยาย ในเมื่อเขา ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรสักอย่าง หญิงสาวนั่งคว้างอยู่บนเตียง ความเจ็บปวด สับสนจากเหตุการณ์หลายอย่างทำให้ไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกไปได้
แค'จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อคืนหล่อนเผลอหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว ผิดปกติวิสัย พร้อมกับได้กลิ่นดอกปีบกรุ่นกำจายรุนแรง หลังจากนั้นก็ไม่ รับรู้อะไรอีกเลย คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด พยายามรื้อฟืน... แว่นตากันแดด
คุณพันธ์รพีมองภาพตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้สุดขีด แม่หลานสาวคน เดียวสมกับเป็นดาราเจ้าบทบาท ตีหน้าซื่อราวกับไม่รู้เรื่องอะไรทั้งๆ ที่ตัวมันเองแท้ๆ เป็นคนลงมือ
คิดไปถึงเรื่องพินัยกรรม เคยเตือนคุณพี่ไปแล้วแต่ก็ไม่เคยเชื่อ แล้วเห็นมั้ย ผลเป็นอย่างไร สุดท้ายก็ถูกหลานสุดที่รักสนองคุณ พิศมองดูใบหน้าเรียบเฉย ก็แอบเบ้ปากค่อนออกมาดังๆ ■เป็นนักวางแผนดีนี่ สมกับที่เล่นละครมาเยอะ ทำร้ายคุณพี่แล้วก็แกล้งทำเป็นกินยานอนหลับ  ไม่รู้เรื่องอะไร*
"คุณยายเล็ก..." เสียงกาซะลองสั่นเครือ อยากจะบอกว่าสิงที่เกิดขึ้นก็ทำให้ หล่อนเจ็บปวดจนรับไม่ไหว  กรุณาอย่าทำให้เจ็บปวดมากไปกว่านี้ แต่ก็พูดไม่ออก
"ผมว่าตอนนี้ให้คุณปีบพักผ่อนก่อนดีกว่านะครับ" ศกรแทรกขึ้น ยิ่งเห็น สีหน้าเผือดขาวของกาซะลองก็ยิ่งสงสารอย่างจับจิต เรื่องทั้งหมดหากหล่อนไม่ใชั ผู้กระทำก็น่าเห็นใจ...แต่หากว่าใช่... ผู้กองหนุ่มพูดต่อ "เรื่องทั้งหมดหากมี ข้อสงสัยหรือคิดว่าการตายของคุณปรียางค์ศรีจะเป็นการฆาตกรรม ทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจจะเป็นฝ่ายจัดการเอง" แว่นกันแดด
"อย่านะนายศก!" นายแพทย์สฤษด์คุณเอ่ยขึ้น หน้าที่เคร่งเครียดอยู่แล้วยิ่ง ล่ออาการเครียดได้อย่างชัดเจน แต่ผู้เป็นแม่กลับมีสีหน้าสงสัย คุณพันธุรพีเอ่ย ถามลูกชายอย่างขัดใจ
"คุณยายเล็ก ทำไมถามปีบอย่างนี้คะ"
"ยังจะมาตีหน้าซื่อ ก็แกกับแฟนแกรวมหัวกันทำอะไรคุณพี่ล่ะ"
"อะไรคะน้าฤษด์ ปีบไม่เข้าใจ" หญิงสาวหันไปถามผู้มีศักดิ้เป็นน้า นายแพทย์สฤษด์คุณมีสีหน้าเครียด
"คุณป้าเสีย ผลการตรวจพบปริมาณของยากล่อมประสาทในเส้นเลือดมาก ผิดปกติ"
"คุณยายเสีย" เหมือนหัวใจจะหยุดเต้น ภาพความฝืนฉายชัด ในที่สุด ฝืนร้ายก็กลายเป็นจริง ราวกับทำนบนํ้าตามันพังทลาย หญิงสาวรํ่าไห้จนตัวโยน ศกรมองภาพตรงหน้าด้วยความอดสู ความเสียอกเสียใจที่อีกฝ่ายมีดูเหมือนเขา จะซึมซับได้ไม่ยาก ด้วยเขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กันกับการสูญเสียประมุขของคุ้ม ภูคากาซะลอง
แต่เจ็บปวดยิ่งกว่าตรงที่หญิงสาวที่นอนสะอื้นปานจะขาดใจอยู่ตรงหน้า..-ถูกสงสัยว่าเป็นผู้กระทำ
กาซะลองปวดหนึบที่อก การสูญเสียคุณยายคือความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ แต่ชํ้าร้ายกว่านั้น หล่อนกลับเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายคุณยาย
"ปีบ...ปีบ..:
''ไม่ต้องพูด เสียแรงที่คุณพี่ทั้งรักและไว้ใจ แต่แกกลับทำร้ายคุณพี่ แกกลัว นักใช่มั้ยว่าแกจะไม่ได้มรดก แม่ปีบ" คุณพันธุรพีแทบจะถลันเข้ามาหา ดีที่ ผู้เป็นลูกกระชากฉุดร่างไว้ กาซะลองหน้าซีดเผือด 'แาตาท่วมหน้า หญิงสาวเค้น คำพูดออกมาด้วยหัวใจที่ร้าวราน
"มรดก...นี่คุณยายเล็กคิดว่าปีบทำร้ายคุณยายจริงๆ หรือคะ" แว่นตา
"ก็ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร ในเมื่อผลการตรวจฤทธยากล่อมประสาท
มันมาจากชา   ๓8โ]0โ8กา"
"๓3โ](วโ8๓...ชา   ๓3โ]0โ8๓  มาเกี่ยวอะไรด้วยคะ"
"ยังจะมาตีหน้าซื่อ" คุณพันธุรพีกรีดร้องจนศกรต้องเป็นฝ่ายติงให้ใจเย็น
ทั้งสงสารและเห็นใจกาซะลอง   แต่  ณ นาทีนี้ที่ความจริงยังเป็นเงื่อนงำปริศนา
เขาจำเป็นต้องนี่งสงบ
"นี่ไม่รู้จริงๆ   หรือยัยปีบ"  นายแพทย์สฤษด์คุณเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น ไม่มี
แว่นตา

โปรดบุรุษ ที่ชื่อศกรไม่น้อย

ดีนะ ตอนที่เรายังเด็ก เวลาฝนตกทีไรนายศกเป็นต้องป้นจักรยานจากโรงเรียน
มาส่งทู้กที พอโตขึ้นมาฝนตก นายศกก็ยังเป็นคนขี่มอเตอรIซค์มาส่งอีก หรือ ว่าเราจะต้องมีนายศกคอยดูแลไปตลอดนะแม่ปีบ"
ท้ายประโยคกาซะลองรู้ดีว่าคุณยายตั้งใจที่จะยั่วเย้าหล่อนโดยเฉพาะ อยากจะทำปากขมุบขมิบกัดฝายนั้นเสียหน่อยค่าที่สาระแนไม่เลิกตั้งแต่เด็กยันโต แต่ดูเหมือนคุณยายจะไม่สนใจ ท่านพูดต่อเป็นการบอกเล่ากลายๆ ว่าโปรดบุรุษ ที่ชื่อศกรไม่น้อย แว่นตากันแดด
"ยายกั๊ได้นายศกนี่แหละเป็นเพื่อน...อ้อ แล้วก็ยังมีนายฤษด์อีกคน" ท้ายประโยคมีอีกคนเพราะเกรงว่าฝ่ายที่นั่งสนทนาด้วยจะน้อยใจ คุณปรียางค์ศรี หันไปมองผู้มีสักดิ้เป็นน้อง คุณพันธุรพียิ้มอ่อนๆ
"ก็เรามีกันแค่นี้นี่คะคุณพี่ นายฤษด์ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ลูกดิฉันก็หลาน
คุณพี่"
"แต่พูดจริงๆ นะ" นี้าเสียงเริ่มเจือแววเศร้าจนผู้เป็นหลานจับความรู้ถึก ได้ทันที "พี่ไม่อยากให้นายฤษด์มาหาเท่าไหร่ เพราะมาทีไรแปลว่าพี่ต้องเจ็บปวย ทุกที"
ภาพฝืนร้ายผุดขึ้นมาในมโนนึก...คมมีดวาววับ คุณปรียางค์ศรีเลือด ท่วมร่าง แว่นกันแดด
กาซะลองถามอย่างร้อนรน "คุณยาย...นี่คุณยายเป็นอะไรหรือเปล่าคะ"
เปิดประตูอย่างเงียบกริบเมื่อส่องผ่านฝ็ากระจกจากภายนอกแล้วเห็นผู้เป็น ยายนอนหลับสนิท หญิงสาวจรดฝืเท้าอย่างแผ่วเบาเคลื่อนกายไปหยุดยืนอยู่ ข้างเตียง
ร่างผอมเกร็งหายใจอย่างสมํ่าเสมอภายใต้ผ้าแพรเนื้อนุ่ม ใบหน้าซีดตอบ ปราศจากความมีชีวิตชีวาจนเห็นริ้วรอยของความเหนื่อยล้าได้อย่างชัดเจน เกิดความรู้สืกผิดขึ้นท่วมท้นใจ
นี่หล่อน1เล่อยให้คุณยายอยู่คนเดียวนานเกินไIเหรือเปล่า...นานจนมี เรื่อง■ราวบางอย่างเกิดขึ้นโดยที่หล่อนไม่รู้
กลับห้องตัวเองด้วยความหม่นเศร้าและนอนไม่หลับอีกเลย จวบจนรุ่งเช้า จึงเคลิ้มหลับไปครู่ มาสะดุ้งตื่นเมื่อรับสัมผัสอ่อนนุ่มที่หน้าผาก แว่นตา
แม้ไม่คุ้นเคยแต่ก็ปลุกให้ตื่นจากภวังค์หลับใหลได้ กาซะลองลืมตาขึ้นมอง ก็เห็นร่างของสตรีนางหนึ่งนั่งอยู่ หญิงสาวพนมมือไหว้แทบไม่ทัน
"คุณยายเล็ก!"
คุณพันธุรพียิ้มอ่อนหวานขณะรับไหว้หลานสาว ทรุดตัวลงนั่งริมขอบเตียง อย่างถือวิสาสะ
"เมื่อวานคุณพี่โทรไปบอกว่าปีบมาที่นี่แต่ไม่สบาย  ยายเลยรีบมาเยี่ยม"
"คุณยายไม่น่าลำบากเลย ปีบแค่รถล้มนิดหน่อย นี่ก็ตั้งใจว่าจะอยู่เป็นเพื่อน คุณยายซักวันสองวัน แล้วจะแวะไปกราบคุณยายเล็กถึงที่บ้านเลยค่ะ"
"ไม่ต้องหรอกปีบ" คุณพันธุรพีโบกมือว่อน "ช่วงนี้คุณพี่ยิ่งไม่ค่อยสบาย อยู่ด้วย นายฤษด์ต้องแวะเวียนมาดูประจำ ปีบมาก็ดีแล้ว จะได้ช่วยกันดูแล"
"คุณยายเป็นอะไรคะ ไม่เห็นมีใครบอกปีบ"
"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก...โรคคนแก่น่ะลูก"
"แต่ทีคุณยายเล็กยังดูแข็งแรงอยู่เลยนี่คะ"
คุณพันธุรพีโปรยยิ้ม คำชมนี้Iด้ยินอยู่บ่อยๆ เพราะแม้วัยจะห่างจากคุณ ปรียางค์ศรีไม่ถึงห้าปี แต่ผู้ที่มีสักดี้เป็นน้องกลับดูสดสาวอ่อนวัยกว่ามากมาย ร่าง ระหงบอบบางดูราวกับต้นสีสิบ ทั้งที่ความจริงอีกเพียงปีสองปีเท่านั้นเลขหกก็จะ มาเยือน
ใบหน้าเรียวรูปไข่ที่กาซะลองถอดแบบมาดูเต็มอิ่ม รอยยิ้มหวานกระจ่าง
แว่นกันแดด

ปีบเป็นห่วงคุณยายค่ะ

"เป็นอะไรไปลูก ถามซะน่ากลัว อย่างนี้เดี๋ยวคุณยายก็หัวใจวายตายเสีย ก่อนเท่านั้นเอง...นะคะคุณพี่"
คุณพันธุรพีติง ริมฝิปากแย้มยิ้มอย่างเอ็นดู แต่ดวงตาเฉียบคมมองมา อย่างตำหนิหน่อยๆ กาซะลองจึงได้สติ
มันเป็นแค่ความฝืน มันไม่ใช่ความจริง
"ปีบเป็นห่วงคุณยายค่ะ"  แว่นตากันแดด
"ถ้าห่วงกั๊กลับมาอยู่นี่เลยดีมั้ยลูก กลับมาอยู่กับยาย"
หญิงสาวได้แต่นิ่งเงียบ มองผู้เป็นยายอย่างเกรงใจ คุณปรียางค์ศรีมอง หลานสาวอย่างแสนรัก
"ยายรู้ว่าปีบยังติดงานอยู่ เอาเถอะ ถ้าเบื่องานนักสดงนักแสดงอะไรนั่น เมื่อไหร่ค่อยกลับมา"
"แต่...ปีบรักและเป็นห่วงคุณยายมากนะคะ"
ผู้เป็นยายแย้มยิ้มอย่างพึงใจ 1ม่เสียแรงที่รักใคร่เลี้,ยงดูกันมา สำหรับ ผู้เป็นยาย กาซะลองยังเป็นหลานที่น่ารักเสมอ
ดวงหน้าเรียว ตาคม จมูกโด่งถอดแบบมาจากคุณบดินทร์ผู้เป็นพ่อที่มี
มักระบายอยู่บนสีหน้าเป็นนิจ ดูราวกับเจ้าตัวไม่เคยพานพบความทุกข1ศกใดๆ
"ปีบกั๊รู้ว่าพี่ใหญ่ไม่ชอบออกไปพบปะสังสรรค์กับผู้คน คนแก่นี่ลูก อยู่เฉยๆ ไม่ดีนักหรอก อย่างยายยังต้องคอยออกงานอยู่ปอยๆ" แว่นกันแดด
ข้อนี้กาซะลองพอรู้ เพราะข่าวต่างๆ ของคุณพันธุรพีปรากฎอยู่ตามหน้า นิตยสารบ่อยๆ บางงานยังเคยเจอะเจอกับหล่อนที่กรุงเทพฯ ด้วยซา
ผิดกับคุณปรียางค์ศรีที่ชอบใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน 'คุ้มภูคากาซะลอง' ที่ แวดล้อมด้วยปาเขาลำเนาไพร ธรรมชาติที่ห่างไกลจากผู้คน ด้วยเหตุนี้เมื่อหล่อน เลือกที่จะประกอบอาชีพในแวดวงบันเทิงจึงดูห่างเหินจากผู้เป็นยายไปโดยปริยาย ทั้งๆ ที่หลังจากสินบุญผู้บังเกิดเกล้าจากอุบัติเหตุก็มีแต่ท่านเท่านั้นที่คอยดูแล แว่นตา
หญิงสาวออกมานั่งรับลมที่ระเบียง รอจนคุณปรียางค์ศรีตื่นจึงเข้าไปพบ พร้อมกับคุณพันธุรพี
"ปีบ...เป็นยังไงบ้างลูก" นี้าเสียงบอกถึงความห่วงใยไม่เคยห่างหาย พลอยทำให้คนฟังแทบจะนี้าตาปริ่ม ดูเอาเถิด ขนาดพัวท่านเองก็เจ็บปวยกาย ยังมีแก่ใจมาถามหล่อน
"ปีบคิดถึงคุณยายค่ะ"
คุณปรียางค์ศรียิ้มอ่อนหวาน อ้าแขนออกรับร่างบอบบางที่เข้ามาซุกใน อ้อมกอด ไม่ว่าจะเป็นเด็กหญิงกาซะลองหรีอกาซะลอง ดาราโด่งดังคับฟ้า...ดอกปีบ ก็ยังเป็นหลานรักของหล่อนดังเดิม
"จะมาก็ไม่บอก ยายจะได้ให้คนไปรับ"
"ปีบอยากมาเชอรั้ไพรส์คุณยายค่ะ"
"แล้วเป็นไงล่ะ เชอรIพรสัจนได้เรื่อง" นาเสียงสัพยอกเอ็นดูอย่างเห็นได้ชัด กาชะลองยิ้มแหย...แต่ต้องรีบหุบเมื่อท่านพูดต่อ "นี่ถ้าไม่ได้นายศกจะเป็นยังไงหือ แม่ปีบ"
คนที่ถูกถามได้แต่อึ้ง ถอนตัวออกจากอ้อมกอดมาตั้งหลัก แต่คุณพันธุรพี
ที่ยืนฟังอยู่นานกลับเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น
"นายศก...ผู้กองศกรที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนของหนูปีบหรือคะคุณพี่" "ก็จะมีใครเสียอีกล่ะ นอกจากผู้กองศกร ศุภเศรษฐ์ที่เฝ็าแวะเวียนมา
หายายบ่อยๆ นี่ถ้ายายยังสาวๆ อยู่ สงสัยได้เกิดความเข้าใจผิดเป็นแน่...แปลก
แว่นตากันแดด

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ท้วมก้าวพ้นออกไปจึงพูดขึ้น

"คุณยายไม่ใช่ผีใช่สางค่ะ เอาเป็นว่าครบร้อยวัน เผาคุณยายเมื่อไร คุณยาย เล็กก็ดำเนินการขายได้เลย ปีบไม่มีป้ญหาค่ะ"
อีกครั้งที่คำสร้อยหน้าซีด ไม่อยากเชื่อว่าสันบุญคุณ1Iรึยางค์ศรีแล้วทุกอย่าง มันจะง่ายดายถึงเพียงนี้ การตัด3นใจของคุณปีบเป็น3งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน มันง่ายเกินไป ทุกอย่างดูเหมือนจะง่ายเกินไป
กาซะลองผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ เห็นสีหน้าคนเก่าแก่ของคุณปรียางค์ค่รื หล่อนก็พอจะเดาความรู้สืกออก มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนแม้1แต่ตัว หล่อนเองว่าจะมีการขายคุ้มภูคากาชะลอง
"เสร็จงานศพคุณยายแล้ว ฉันจะรับแพรสาไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ว่า จะส่งให้แกเรียนต่อที่นั่น ส่วนป้าคำสร้อยถ้าอยากจะไปอยู่ด้วยกันฉันก็ไม่ขัดข้อง แต่ถ้าไม่ ฉันจะให้เงินสักก้อน ไม่มากไม่มายอะไรหรอก แต่ถ้าไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ป้าก็จะมีเงินไว้ดูแลตัวเองตลอดชีวิต"
คนเก่าแก'ของคุณปรียางค์ศรีได้แต่ทำตาปริบๆ ก่อนกระถดตัวและถอย ออกไป  คุณพันธุรพีรอจนร่างท้วมก้าวพ้นออกไปจึงพูดขึ้น แว่นตากันแดด
"ปีบคงไม่ว่ายายนะที่ทำแบบนี้ ก็เพื่อเราทุกคน คุณพี่คงไม่พอใจนักหรอก ถ้าคุ้มจะต้องตกไปเป็นของนายดิสธร ปีบก็รู้ว่าบ้านนั้นถังแตกกันทั้งบ้าน"
กาซะลองยิ้มเย็น ไม่ได้มีทีท่าว่าโกรธเคืองกับคำพูดของผู้เป็นยายเล็ก หญิงสาวเพียงแต่กล่าวเนิบๆ "นั่นมันไม่ใช่สาระสำคัญหรอกค่ะ มันสำคัญตรง ที่สมบัติของบรรพบุรุษ คนรุ่นเรารักษาไวไม่ได้ต่างหาก"
เหมือนกับจะตอกยาความเจ็บปวด กั๊มันจริงมิใช่หรือ สมบัติของบรรพบุรุษ หลายชั่วอายุคนกลับต้องปล่อยให้หลุดหายไปในคนยุคนี้ มันเพราะอะไรหนอ ความโลภโมโทลัน กิเลสที่ไม่มีวันหมดของคนบางคน หรือเพราะความอ่อนแอ ของหล่อนเอง แว่นกันแดด
คุณพันธุรพีลากลับพร้อมกับความอิ่มเอมในใจ เรื่องที่คิดว่ายากจริงๆ แล้วกลับง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ไม่เพียงแต่จะไม่คัดค้าน กาซะลองกลับ ไม่มีท่าทางยินดียินร้ายเสียด้วยซํ้า บางทีสฤษด์คุณอาจจะดูคนผิด เอาเข้าจริง แล้วหลานสาวก็ไม่ได้รักผูกพันผู้เป็นพี่สักเท่าไร
เคลื่อนรถมาถึงประตูและสายตาคมกริบก็เห็นร่างบอบบางของเด็กสาวที่
แม่กลับมาบ้านด้วยความชื่นมื่น มันเป็นความรื่นรมย์ที่เขาไม่เห็นมานาน แล้วนับตั้งแต่ฐานะทางการเงินของแม่ยอบแยบลงทุกรัน นัยนตาฝัามัรมี^ระก'1ย แจมใสเหมือนนัยน์ตาเด็กลาวที่เพื่'งเจอะเจอ^ก^ฬม่ ทุกอย่างมั^คือความ ตนเต้นงดงาม คือความหวัง คือความฝัน การขายคุ้มภูคากาซะลองดูเหมือนจะ เป็นความหวังเพียงสิงเดียวที่จะทำให้สลานะทางการเงินของแม่กลับมาเหมือนเสิม
"เสร็จงานคุณป้าแล้ว แม่ว่าจะไปอยู่ต่างประเทศซักพักนะฤบด์ 1 ใม่ไหว ปวดหัวมานานแล้ว ขอพักนานๆ หน่อยเถอะ" เหมือนแม่จะรู้ว่าขืนอยู่ที่นี่ต่อไปคง ไมแคล้วการเป็นขี้ปากชาวบ้าน 'พี่สาวเสียไม่ทันไรจัดการขายทรัพย์สินเลร็จสรรพ' แว่นตา
มนเป็นสิงที่ทุกคนคาดไม่ถึงในสิงที่'กาซะลองต้ดสิน^จ  อาจจะรรมกึงสัว ชองแม่เอง
"แม่ไม่แปลกใจบ้างหรือครับ ว่าทำไมปีบถึงตัดสินใจขายคุ้มอย่างง่"1ยๆ" นับเป็นครั้งแรกที่คุณพันธุรพีฉุกคิดขึ้นมาลึงลารตัดสินใจของหล'1นลาว
สฤษด์คุณพูดถูก บางทีอาจจะมีบางสิงเคลือบแคลงไว้ก็ได้ กาซะลอง^ซ่คน
ฉาบฉวย ความคิดความอ่านของหลานต้องมีเหดุผลเลมอ "แล้วฤษด์คิดว่ายัยปีบกำลังทำอะไร"
แว่นตา

แพรสากับไอ้หน้าปลาจวดนั่น

"ไม'ทราบสิฮะ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้คุยกับปีบ"
เป็นเหตุผลส่วนตัวที่ไม่ไดIปที่คุ้มนั้น เหตุการณ์ที่เกิดกับไอ้หน้าปลาจวด ยังเจ็บแค้นอยู่มิหาย ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น แพรสาไม่น่าทำอย่างนี้ จะมี3งใดบ้างที่ สามารถกำจัด 'มัน' ออกไปให้พ้นนอกเส้นทางได้ สิงที่ 'ลงทุน' ดูเหมือนจะไม่ เป็นดังที่หวัง ตัวเขาเองเสียอีกที่เกือบพลาดพลั้งเสียที
สายตาของเพื่อนเก่าดอกปีบบอกความฉงนสงสัยเมื่อมองดูหน้า 'ดิสธร1 เมื่อคืน แมIม่ปงบอกชัดเจนว่าจดจำได้แม่นยำแต่ก็แฝงความเคสือบแคสงอยู่ในที ยกมือขึ้นลูบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกชํ้าดำเขียว และคุณพันธุรพีก็หันมาเห็นเข้า พอดี
"อ้าว! แล้วหน้าไปโดนอะไรมาล่ะนั่น"
เป็นคำถามที่ถามไปอย่างนั้น เป็นข้อดีอีกอย่างของแม่ที่ไม่มีความละเอียด รอบคอบ'ในลิ''ง'ใด แม่เพียงแต่พยักหน้าเมื่อเขาให้เหตุผลว่ามีอุบัติเหตุนิดหน่อย ไม่มีคำถามต่อ มีแต่เพียง 'ปัญหา' ที่ยังค้างคาใจแม่อยู่ตลอด
"ว่างๆ ก็แวะไปที่คุ้มบ้างสิ ไปเลียบๆ เคียงๆ ถามยยป็บด บอกตรงๆ พอแม่ได้ยินที่แกพูด แม่ก็คิดมากเหมือนกัน ปกติยัยปีบไม่น่าที่จะขายคุ้ม
อย่างง่ายๆ มีแผนอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้!"
เป็นสิ่งที่ต้องกลับมาคิดหนัก เรื่องที่คิดว่าง่ายกลับย่อเค้าความยุ่งยากขึ้น มารางๆ เหลือบตามองดูลูกชายก็เห็นแววตาเขามีเรื่องครุ่นคิดอยู่ตลอด ก็ไม่ รู้ว่ามีเรื่องคิดอะไรกันมากมาย ในเมื่อปัญหาที่อยู่ตรงหน้าก็ยังขบคิดกันไม่ตก ตัดสินใจแหย่เรื่องนายดิสธรกับยัยเด็กนั่น บางทีอาจจะเป็นสิงช่วยกระตุ้นให้ ลูกชายอยากไปที่คุ้มภูคากาซะลองขึ้นมาบ้าง
แววตาของสฤษด์คุณเป็นประกายเมื่อได้ยินสิ่งที่แม่พูด สิงที่หวั่นเกรงเริ่ม มีเค้าความจริง
แพรสากับไอ้หน้าปลาจวดนั่น  แว่นตากันแดด
"นี่แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่ายัยปีบมันจะทำยังไง ถ้าคนรักไปป้นใจให้คน อื่นโดยเฉพาะกับเด็กในบ้าน แม่ว่าฤษด์แวะไปดูปีบหน่อยก็ดี ยังไงยัยปีบก็ เป็นหลาน" รู้ว่าลูกอาจจะเจ็บแสนเจ็บ แต่ ณ เวลานี้ใจของกาซะลองเป็นสิ่งที่ อยากรู้มากกว่า หลานสาวคิดจะทำอะไรจะได้มีทางแก้ทางออก
เป็นบาดแผลที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ร่างกำยำสูงใหญ่มีเค้าของความเหนื่อย อ่อน เหมือนคนปวยที่ยังไม่แข็งแรง ใจคิดไปถึงสิ่งที่กำลังสงสัยอยู่กับศกร คนที'กำลังตามหาอาจจะอยู่'ไม่ไกล
เหมือนอีกฝ่ายจะยังไม่รู้ตัวว่าถูกลอบมอง นายแพทย์สฤษด์คุณตะเบ็งเสียงลั่น "ปีบช่วยเอาคนของปีบไปไกลๆ หน่อยไดไหม ไม่รู้เป็นบ้าอะไรมาขวางทางอยู่ได้"
"น้าฤษด์ต้องการอะไรหรือคะ บอกให้ป้าคำสร้อยไปจัดการให้ก็ได้"
"น้าต้องการพบแพรสา" แว่นกันแดด
ชัดถ้อยชัดคำ คราวนี้ดูเหมือนนายแพทย์ใหญ่จะปิดบังความรู้สีกไวไม่ได้ ท่าทางเหมือนคนบ้า ดูก็รู้ว่ากำลังอยู่ในอาการหึงหวง อารมณ์อย่างนี้รังแต่จะทำให้ พังกับพัง
กาซะลองบุ้ยใบ้ไปทางคนเก่าแก่ "ไปตามแพรสามาพบน้าฤษด์" "น้าจะไปหาเอง"
นํ้าเสียงเด็ดเดี่ยวบอกให้รู้ว่า ณ เวลานี้เอาช้างมาฉุดก็คงไม่อยู่ เหลือบ มองไปทางป้าคำสร้อยก็เห็นทำหน้าจ๋อยพยายามบุ้ยใบ้บอกบางสิ่ง เพียงเห็น สายตาของฝ่ายนั้นกาซะลองก็เข้าใจ ก็คงมีอะไรบางอย่าง ป้าคำสร้อยถึงได้ ทัดทานไม่ให้เข้าไป
"อย่าลำบากเลยค่ะน้าฤษด์ ให้ป้าคำสร้อยไปตามแพรสามาดีกว่า น้าฤษด์ มาช่วยปีบดูเอกสารเถอะ คุณยายเล็กบอกว่าเผาคุณยายเมื่อไหร่จะเข้ามาจัดการ ขายทรัพย์สิน เราตรวจดูตอนนี้จะได้รู้ว่ามูลค่าทรัพย์สินมีเท่าไหร่" แว่นตา
อารมณ์หึงหวงมีมากกว่าสิ่งที่คุณพันธ์รพีบอกให้มาจัดการ มรดกทรัพย์สิน มันก็แค่ชองนอกกาย สิ่งที่เขาต้องการคือแพรสาต่างหาก นายแพทย์ใหญ่ตะเบ็ง เสียงลั่น
"จิตใจแกมันทำด้วยอะไรปีบ รู้บ้างมั้ยว่าตอนนี้ในบ้านมันเกิดอะไรขึ้น ไอ้ดิสธรมันกำลังจะนอกใจ แกยังจะมานั่งตรวจทรัพย์สินบ้าบออยู่ได้" "น้าฤษด์พูดอะไรคะ ปีบว่าตอนนี้น้าฤษด์ใจเย็นๆ ดีกว่า" "ไม่ยงไม่เย็นมันแล้ว น้าจะบอกแกนะ ถ้าแกไม่ไล่แฟนแกกลับกรุงเทพฯ น้าจะฆ่ามันเอง"
"น้าฤษด์!" ได้แต่ยืนครางมองร่างสูงใหญ่เดินตุ่มไปที่ครัว ป้าคำสร้อยยิ่ง
แว่นกันแดด

โวยวายจนคนที่อยู่ภายใน

ยิ้มละมุนฉายขึ้นที่ใบหน้าเมื่อเห็นลูกชายผลุนผลันขับรถออกจากบ้านไป ที่สุดมันก็ต้องเป็นอย่างนี้ อารมณ์ความรู้สักเป็นสิงที่ฉาบฉวย ฐานะความมั่นคง ต่างหากเป็นสิงที่จะยืนยงอยู่เป็นนิรันดร์เเละเมื่อถึงวันนั้นสฤษด์คุณอาจจะเจ็บไม'นาน
เป็นอารมณ์ขึ้งเคียดที่เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นไปได้ขนาดนี้ เรื่องที่แม่บอก ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นสิงที่ตอกยํ้าใจให้เจ็บปวด ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้แพรสา เป็นของใคร ในเมื่อแพรสาเป็นของเขา หล่อนเป็นของเขา และต้องเป็นของเขา แต่เพียงผู้เดียว
เลี้ยวรถเข้าไปจอดในคุ้ม และป้าคำสร้อยที่กำลังงกๆ เงิ่นๆ เก็บดอกปีบ อยู่ก็แทบหัวใจวาย เมื่อนายแพทย์ใหญ่หยุดรถแทบจะชนกับตัวบ้าน ร่างสูงใหญ่ ก้าวลงมาจากรถในลักษณะหุนหัน ถามเสียงดัง
"แพรสาอยู่ไหน"
ได้แต่ตะกุกตะกัก พักหลังๆ ชักเห็นท่าทีแบบนี้บ่อย เริมแน่Iจแล้วกับ อาการหึงหวงของคุณหมอ นายแพทย์สฤษด์คุณตกหลุมรักเด็กแพรสาแน่นอน แต่จะบอก,!ค้อย่างโรว่าตอนนี้เด็กสาวที'คุณหมอหลงรักกำลังอยู่กันดามลำพังกับ ลูกชายท่านรัฐมนตรี
"ว่าไงป้า แพรสาอยู่ไหน"
ตะคอกถามซํ้า อาการของป้าคำสร้อยนั่นยิ่งทำให้เขาหวาดหวั่น คนเก่า คนแก่ของคุ้มเหมือนจะมีพิรุธ ท้ายสุดเมื่อปิดบังไม่ได้ก็จำต้องบอก "อยู่...อยู่ในครัวค่ะ"
เท่านั้นร่างสูงใหญ่ก็ทำท่าจะตรงดิ่งเข้าไปในครัว ป้าคำสร้อยรีบเข้าไปห้าม อย่างน้อยเป็นการถ่วงเวลาก็ยังดี ไม่อย่างนั้นคงไม่แคล้วเกิดเรื่องใหญ่ และนั่น ก็ยิ่งทำให้นายแพทย์สฤษด์คุณโมโห หนุ่มใหญ่เอะอะโวยวายจนคนที่อยู่ภายใน ต่างได้ยิน
กาซะลองสาวเท้าออกมาที่หน้าบ้าน เสียงเอะอะโวยวายทำให้ต้องละมือจาก การตรวจเอกสารบัญชีทรัพย์สินของคุณปรียางค์ศรี หญิงสาวเพียงแต่เก็บเข้า ลิ้นชักอย่างลวกๆ แล้วรีบออกมา ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้ดวงหน้าเรียวได้แต่ ขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้นผู้เป็นน้าถึงได้ทำท่าเป็นหมาบ้าอย่างนี้
แต่สิ่งที่สะดุดตา ดวงหน้าขาวมีรอยฟกชํ้าดำเขียวอยู่ถ้วนทั่ว เหมือน
ลนลานบอกนายสาวเสียงสัน "เกิดเรื่องใหญ่แน่ค่ะคุณปีบ" แว่นตากันแดด
สินเสียงของผู้สูงวัยกว่า กาซะลองก็รีบสาวเท้าตามนายแพทย์สฤษด์คุณ ไปทันทีโดยมีป้าคำสร้อยวิ่งตามมาติดๆ
เหมือนใจจะเร็วกว่าเท้า แม้จะสาวเท้าเร็วเท่าไหร่ก็ช่างไม่ทันใจสักที ยิน เสียงร้องวี้ดว้ายของแพรสาดังลั่น และเมื่อไปถึงหญิงสาวก็เห็นบุรุษสองนายกำลัง ตะลุมบอนกันใหญ่ ร่างบางตรงเข้าไปห้าม แต่ดูเหมือนยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ บุรุษ ทั้งคู่ต่างแลกหมัดกันนัวเนีย
"หยุดนะ! แพรบอกให้หยุด" แว่นกันแดด
ยินเสียงของเด็กสาวเหมือนยิ่งทำให้ไฟในใจนายแพทย์สฤษด์คุณเดือด พล่าน คิดถูกแล้วที่ตามมาเห็นให้ชัดกับตา แพรสากับไอ้หน้าปลาจวดกำลังอิง แอบชิดใกล้ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นโรงครัว ปานนี้คงเตลิดกันไปถึงไหนต่อไหน นี่ก็ คงจะห่วงชู้รักถึงได้มาตะเบ็งเสียงร้องกรี๊ดๆ
กำหมัด^ดเปรี้ยงดั่งแรงพญาช้างสาร นาทีนั้นที่ดิสธรรู้สืกว่าโลกหมุนติ้ว ชา ไปทั้งหน้า สัมผัสเหมือนนํ้าอุ่นๆ ไหลออกมาเต็มปากเต็มจมูก เอามือปาดดูก็ เห็นเลือดสดๆ สีแดงคลํ้าแตกพลั่ก เพียงเท่านั้นลูกชายท่านรัฐมนตรีก็คอพับ คออ่อนทำท่าเหมือนสติไม่สมประดี แต่ขนาดนั้นก็ยังชี้มือเร่าๆ ไปทางนายแพทย์ สฤษด์คุณอย่างโกรธจัด กล่าวอาฆาตมาดร้ายด้วยถ้อยคำรุนแรง ก่อนจะคอพับ คออ่อนไปจริงๆ
แพรสารีบวิ่งเข้าไปประคอง และนั่นก็เหมือนเป็นจุดที่ทำให้อารมณ์หึงหวง พุ่งขึ้นถึงขีดสุด
"ห่วงมันนักใช่มั้ยแพร" แว่นตา
นั้าเสียงร้าวรานบ่งบอกความร้าวลึก นาทีนั้นแพรสาไม่ได้สนใจ หล่อนรู้แต่ เพียงว่าคุณหมอเหมือนอันธพาลไIเหตุผลสันดี เด็กสาวจ้องหน้าสบดวงตาแข็งกร้าว ไม'หวาดหวั่น
"ใช่! แพรเกลียดคุณหมอ เกลียดที่สุด"
"แพร แพรพูดออกมาได้ยังไง แพรเป็นเมียฉันนะ ฉันรักแพร"
"แต่แพรเกลียดคุณหมอ ได้ยินมั้ย แพรเกลียดคุณหมอ แพรรักคุณดิสธร"
แว่นตากันแดด

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

หวาดหวั่น แว่นตากันแดด

และเขา...ต้องช่วยหล่อน
ผู้กองหนุ่มอดแปลกใจไม่ได้ที่มีโทรสัพท์จากคุ้มภูคากาซะลองมาตอนกลางดึก ปลายสายที่โทรมาหาไฝใช่คุณปรียางค์ศรีหรือหลานสาวคนโปรดที่ชื่อกาซะลอง แต่กลับกลายเป็นเด็กสาวแพรสา คนที่มองเขาด้วยสายตาแห่งความรักภักดีคนนั้น
หล่อนบอกว่ามีเรื่องสำคัญที่จะปรึกษา รบกวนขอร้องให้ไปพบที่หลังคุ้ม ภูคากาซะลองคํ่าพรุ่งนี้ เดินวนเวียนคิดหนักเพราะยังไม'รู้ถึงเจตนาของอีกฝ่ายและ คำนึงไปถึงความเหมาะสม แต่คำพูดสุดท้ายที่แพรสาบอกยังก้องอยู่ในหู
'คุณศกต้องมานะคะ คุณศกเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยแพรได้1 เสียง ของหล่อนสันเครือบอกถึงความหวาดหวั่น แว่นตากันแดด
แพรสามีปัญหาอย่างหนัก เด็กสาวกำลังเดือดร้อนเรื่องอะไร
ตัดสินใจที่จะไปพบตามนัด แต่วันรุ่งขึ้นเมื่อไปถึงสถานีตำรวจ ศรานตา ก็โทรมาหา
"แย่แล้วล่ะค่ะศก...จ่าเมฆ...จ่าเมฆเสียแล้ว ศกต้องมาที่โรงพยาบาลเดี๋ยว นี้นะคะ" พยาบาลสาวละลํ่าละลักบอก แม้จะเห็นความเป็นความตายเป็นเรื่อง ธรรมดา แต่ก็อดใจหายไม่ได้เพราะก่อนหน้านี้จ่าเมฆมีอาการกระเตื้องขึ้น แต่แล้วจู่ๆ ก็กลับทรุดหนักอย่างไม่รู้สาเหตุ
หญิงสาวเดินวนเวียนรอผู้กองหนุ่มอยู่ที่หน้าห้องคนปวยระยะวิกฤต ร้อนใจ เป็นที่สุดเพราะผู้กองหนุ่มเพิ่งบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับจ่าเมฆ
แม้ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ด้วยหน้าที่และด้วยความรับผิดชอบ รู้สีกเหมือน ตัวเองกำลังทำงานบกพร่อง เหมือนนานแสนนานกว่าศกรจะมาถึง แต่ทันทีที่ ผู้กองหนุ่มมาที่โรงพยาบาลก็ได้รับคำตอบ
"ศกคะ เจ้าหน้าที่เพิ่งเอาศพจ่าเมฆไปเก็บแล้วค่ะ เมื่อกี้นี้เอง"
ศรานตาแลเห็นดวงตาเข้มมีความเคร่งเครียดอย่างเด่นชัด ศกรขบกราม แน่นเหมือนกำลังใช้ความคิด ชั่วครู่จึงได้บอก แว่นกันแดด
"ผมขอดูศพจ่าเมฆ"
"ค่ะ อุ๊จะพาไป พี่คะ" หันไปพูดกับพยาบาลรุ่นพี่ที่เข้าเวร "อุ๊ขออนุญาต พาผู้กองศกรไปดูศพจ่าเมฆนะคะ"
"ไม่ได้นะคะคุณอุ๊ คุณหมอลังไว้ว่าจ่าเมฆเกิดติดเชื้ออย่างรุนแรง ไม่ควร
จะเร่งให้เขาเกิดความถวิลหา หนุ่มหน้าตี๋กระซิบเสียงแผ่ว
"ปล่อยทำไม ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอเลย ก็แค่...ขอจับมือเท่านั้น" บอกพลาง ยกมือนุ่มนิ่มนั้นขึ้นหมายจะจรดริมฝืปากลงไป แต่ต้องหยุดแค่นั้นเมื่อปรากฏ มีบุคคลที่สาม
"ปล่อยแพรสาเดี๋ยวนี้!" เสียงแข็งเฉียบขาดที่ดังขึ้นมีผลให้แขกผู้มาเยือน ของคุ้มภูคากาซะลองหน้าซีดเผือด ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเป็นเสียงใคร แพรสารีบ ฉวยโอกาสนั้นก้าวเดินหนี นึกสมนั้าหน้าหนุ่มชาวกรุงในใจ
ดี...ให้คุณปีบเอาเลือดชั่วออณ3ยบ้าง จะไดไม่ทำรุ่มร่ามอีก
"ปีบ....ผม..."
"ไม'ต้องพูดอะไร คุณไม่สมควรที่จะทำกิริยาแบบนี้กับเด็กของปีบ ใน บ้านของปีบ"
"ผม...ไม่ได้ตั้งใจ...แพรสา..."
"อย่ามาโทษเด็กของปีบ ปีบรู้นิสัยคุณดี" กาซะลองเน้นเสียง โกรธจน เลือดขึ้นหน้า นี่หรือคนที่เรียกตัวเองว่าชนชั้นสูง ยกตัวเองว่าอยู่เหนือกว่าคน
อื่น ที่'แท้จิตใจกลับตกตาชนิดที่ทำเรื่องน่าอดสูนั้Iด้
"พรุ่งนี้คุณต้องกลับกรุงเทพฯ!" "ปีบ...ผม"
"โดยไม่มีข้อแม้...พรุ่งนี้!" แว่นตา
ได้แต่ยืนเหงื่อกาฬแตกพลั่กพูดอะไรไม่ถูก กาซะลองเป็นคนเฉียบขาด แต่ไหนแต่ไรเขาย่อมรู้ดี หากไม่ขออ้อนวอนยืนกรานในความเป็นเพื่อน หล่อนก็ คงไม่สานสัมพันธ์ต่อ คราวนี้คงหมดโอกาสที่จะเริ่มใหม่ในเมื่อดวงตากลมโตมอง เขาอย่างอดสูใจ สีหน้าบ่งบอกถึงความผิดหวังอย่างชัดเจน ร่างระหงเดินหันหลัง กลับโดยไม่มีแม้แต่จะชายตามอง
ดิสธรยืนคอตก ใจคอเหี่ยวแห้ง ไม่เคยนึกว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะทำให้ เขากับกาซะลองต้องขาดจากกัน ชายหนุ่มเดินหน้าแห้งกลับที่พักโดยมีสายตา ของคนคนหนึ่งมองตาม
ทันทีที่ร่างสูงโปร่งลับตา คำสร้อยก็ทิ้งมือที่เลิกม่านหน้าต่างลง หญิงวัย กลางคนหันมาบอกเด็กสาวที่เดินถือหมอนใบหนึ่งเข้ามา
แว่นกันแดด

ไม่ได้ยินหรอก แต่ท่าทางคุณปีบโกรธน่าดู

"คุณปีบกับคุณดิสธรอะไรนั่นทะเลาะกันใหญ่เลยแพรสา"
"ป้าได้ยินบ้างมั้ยว่าคุณปีบพูดอะไรบ้าง" ถามด้วยความอยากรู้ ใ2คออด เต้นระทึกไม่ได้ แม้จะรู้ว่าการกระทำของดิสธรผิดเต็มประตู แต่ก็ไม'อยากให้ หนุ่มหน้าตี๋กับนายสาวต้องแตกหัก อย่างน้อยกาชะลองก็เป็นนาย
"ไม่ได้ยินหรอก แต่ท่าทางคุณปีบโกรธน่าดู มันก็น่าจะโกรธอยู่หรอก แฟนทั้งคนกลับมาทำๅเมร่ามกับเด็กในบ้าน ดีไม่ดีข้าว่าอาจจะพานเลิกกันไปเลย ก็ได้ คุณปีบเธอไม่ง้อใครง่ายๆ หรอก คุณสมบัติออกครบถ้วนขนาดนั้น หรือ ไม่ก็...บางที..." คราวนี้คำสร้อยหันมามองหน้าเด็กสาว "ถ้าเขาไม่เลิกกันก็อาจเป็น แกก็ได้ที่โดนไล่ออก ไม่มีใครพอใจหรอกใช่มั้ยที่จะให้คู่รักไปสนใจผู้หญิงอื่น หูตาคุณดิสธรแกก็แพรวพราวเหลือเกิน มองแกแต่ละทีตางี้หวานฉํ่า ขนาดข้าไม่ ใช่คุณปีบเห็นแล้วยังอดหมั่นไส้ไม่ได้ แล้วตัวคุณปีบเองจะเหลือเรอะ" หญิงวัย กลางคนทำท่าหวาดหวั่น แต่พอมองไปเห็นเด็กสาวนั่งหน้าซีดก็ยิ้มแหย รีบตบ ที่นอนพลางบอก "ไม่มีอะไรหรอก ข้าก็พูดไปยังงั้นแหละ คีนนี้เอ็งนอนที่นี่ก็ แล้วกันแพรสา จะได้หมดห่วง อย่างน้อยจะได้ไม่มีใครย่องเข้าหา" แว่นตากันแดด
แพรสาล้มตัวลงนอนข้างป้าคำสร้อย ไฟทุกดวงดับสนิทแต่เด็กสาวยังลืม ตาโพลง คุณดิสธรก็คงอยู่ที่นี่ให้ใจหายใจควํ่าอีกไม่นาน แต่นายแพทย์สฤษด์คุณ นั่นต่างหากที่เด็กสาวยังนึกกังวลอยู่ แววตาที่เต็มไปด้วยความรุ่มร้อนมุ่งมาด นั่นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผู้เป็นนายคงไม่ยอมรามืออย่างง่ายๆ
ก็ยังดีที่เรื่องราวอันน่าอับอายที่นายแพทย์สฤษด์คุณกระทำไม่มีใครล่วงรู้ ไม่งั้นคงต้องทุกข์ใจมากกว่านี้
นํ้าตาไหลอาบแก้ม พยายามกลั้นสะอื้นไม่ให้เสียงได้ยินไปถึงคนที่นอน ข้างๆ คิดถึงพ่อขึ้นมาจับจิต ขาดพ่อก็เหมือนขาดร่มโพธิ๋ร่มไทรไร้ที่ซึ่งจะปกป้อง พักพิง ชีวิตหล่อนต้องตกอยู่ท่ามกลางอันตรายแบบนี้อีกนานแค่ไหน แล้วจะมี ใครคอยดูแลปกป้อง วูบนั้นที่คิดถึงศกรขึ้นมา คุณศกจะว่าอย่าง1รบ้างหนอ หาก1ดรบรู้ชะตากรรมที่แสนเลวร้ายของหล่อน เหลือบสายตาหันไปมองคนข้างๆ ก็เห็นป้าคำสร้อยหลับสนิท ลมหายใจผ่อนออกมาเป็นช่วงๆ แพรสาตัดสินใจเลิก ผ้าห่มขึ้นค่อยๆ ย่องออกไปโทรสัพท์หาศกร
ผู้ชายคนเดียวโน[ลกที่หล่อนจะรักและไว แว่นกันแดด
พอมองตา แพรสาก็รีบหลบ
"ไม่ใช่ใบชานี้จ้ะ ชา  ฌลโ]0โล๓ ที่คุณดิสธรเอามาฝาก"
"อ๋อ ป้าคำสร้อยแกเห็นเป็นของพิเศษน่ะค่ะ เลยเก็บไว้ในตู้อีกใบ เดี๋ยว แพรเดินไปหยิบให้นะคะ"
กาซะลองมองตามร่างของเด็กสาวที่รีบสาวเท้าเดินไป นึกสังหรณ์ใจ บางอย่าง เพราะจากท่าทางที่เห็น แพรสาดูตื่นตระหนกผิดปกติ ด้วยความเป็น ห่วงเมื่อแพรสาเดินกลับมาอีกทีจึงถาม  "แน่ใจนะว่าไม่มีอะไร'
เด็กสาวนิ่งเงียบไปแต่แล้วก็รีบปฏิเสธ  บอกไ11แล้วคุณปีบจะเชื่อหรือ
ในเมื่อนายแพทย์สฤษ4คุณก็มีศกดิเป็นญาติ ส่วนหล่อนเป็นใคร ก็แค่เด็กใน บ้าน อย่างนี้แล้วใครจะเห็นขี้ดีกว่าไส้ จึงได้แต่ถือห่อใบชาในมือบอกผู้เป็นนายว่า "คุณปีบรอเดี๋ยวนะคะ เดี๋ยวแพรจะชงชาให้"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง แพรรีบไปเปลี่ยนเสือผ้าเถอะ อากาศเย็น อย่างนี้เดี๋ยวจะไม่สบาย"
ลังเลอยู่ครู่ก่อนยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรีบเดินเลี่ยงออกไปโดยเร็ว หวัง เพียงอย่างยิ่งว่าจะไม่เจอนายแพทย์สฤษด์คุณดักรออยู่ แพรสาถอนหายใจ อย่างโล่งอกเมื่อผ่านบริเวณพุ่มไม้นั้นแล้วไม่เห็นร่างท้วมใหญ่ของผู้เป็นนาย แต่ แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อปรากฏร่างผอมสูงของใครคนหนึ่งยืนอยู่
"คุณดิสธร!" แว่นตา
"ไปอาบนํ้าเสียดึก ระวังจะไม่สบายนะจ๊ะ" แววตากรุ้มกริ่มกวาดมองไป ทั่วร่างผอมบางกลมกลึง ขนาดมีผืนผ้าปกปีดเด็กสาววัยละอ่อนยังงดงามขนาดนี้ แล้วหากปราศจากเลือผ้าล่ะ หล่อนจะงดงามขนาดไหน
แพรสาสะบัดหน้าหนีจากสายตาแทะโลมนั้น เด็กสาวบอกเสียงแข็ง "คุณปีบ อยู่ในโรงครัวค่ะ"
"ฉันไม่ได้ต้องการพบปีบ ฉัน...ต้องการพบเธอต่างหาก"
"แพรไม่ว่างค่ะ ขอตัว" รีบเดินหนี แต่กลับถูกมือแข็งแรงคว้าไว้ก่อน "ปล่อยค่ะ" แพรสาสะบัด ครั้งนี้โกรธเป็นร้อยเป็นพันเท่า นี่หรือคู่รักของคุณฮบ หยาบคายตํ่าช้าเหลือเกิน
ดิสธรก้มหน้าลงไปจนเกือบชิดแก้มนวล ความนุ่มของมือนิ่มยิ่งดูเหมือน
แว่นกันแดด

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ปานนี้หล่อนก็คงจะเข้ากรุงเทเฉิดฉายเป็นดาว

ซ้วยสวย ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าตอนเด็กๆ ยังถูกล้ออยู่เลยว่าเป็นลูกเป็ดขี้เหร่" ป้าเสียงขบขัน เพราะตอนยังเด็กแม่ลูกเป็ดขี้เหร่ช่างขี้เหร่สมชื่อ ตัวผอมแห้งแขนขา ยาวเก้งก้าง หากเทียบกับหล่อนที่เป็นดาวโรงเรียนก็ไม่^™สามารถเทียบได้ สักนิด นี่ถ้าหากว่าพ่อไม่บังคับไเรียนพยาบาลเพื่อมาช่วยดู"ล^คหัวโจของท่าน แว่นตากันแดด
ปานนี้หล่อนก็คงจะเข้ากรุงเทเฉิดฉายเป็นดาว8งคมข่มแม่นั่นไบ่แส้ว
ศรานตาช้อนสายตามองดูผู้กองหนุ่มอย่างแอบจับสังเกต  เขาจะรู้สืก
อย่างไรกับกาซะลอง เขาจะเสียดายมั้ยที่แม่ลูกเป็ดขี้เหร่คนนั้นตอนนี้กลายเป็น
หญิงสาวแสนสวยชื่อเสียงโด่งดัง เพราะเคยได้ยินมาบ้างว่าตอนเด็กๆ ทั้งคู่ถูกจับคู่กัน แต่ก็ใจชิ้นขึ้นมาหน่อยเมื่อศกรยังคงตอบราบ1■รียบ "ก็...ตอนเด็กๆ  เป็นยังไง ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้นครับ" "งั้น...นัดทานข้าวกันหน่อยดีมั้ยคะ จะได้คุยกันให้ชุ่มปอด อุ๊เองก็คิดถึงปีบ
อยู่เหมือนกัน" อดเสนอไม่ได้ อย่างน้อยหล่อนเองน่าจะได้เห็นถับ®า ไม่งั้นศกรจะ
แวะไปหาคุณปรียางค์?1รีทำไมบ่อยๆ นอกจากไปถามข่าวคราวของ™ปี®ง 1 "เอางั้นหรือครับ" ผู้กองหนุ่มลังเล มันจะดีหรือ เพราะไม่มีครั้ง1หนที่แม่
ลูกเป็ดขีไหร่คนนั้นจะยอมพูดจาดีๆ กับเขา ดี1มดคราวนี้อาจจะIดนหนักหาก พ่วงใครไปอีกคน
"ดีมั้ยคะ" เอ่ยเสียงหวานด้วยท่าทางกระตือรีอร้นที่จะไปเจอ ศกรหันมา มองใบหน้าหวาน ความอ่อนเชื่อมในสายตาท่าให้คร้านที่จะปป็เสธ ศรานตามี คุณสมบัติพิเศษอยู่อย่างคือหล่อนมักไม่ยอมแพ้อ^รโดย^าย หากไม่ท่าตามก็ คงต้องมองตาหวานๆ อีกนาน แว่นตา
ตัดสินใจท่าตาม แต่ชักไม่มั่นใจเหมือนกันว่าที่ตอบตกลงเป็นเพราะ ศรานตาหรือเพราะ...อยากไปเจอลูกเป็ดขี้เหร่ศนนั้นกัน1-เน่1
กาซะลองอดนึกแปลกใจไม่ได้เมื่อศรานตาโทรมาหา ฝ่ายนั้นทักทายตาม มารยาทก่อนบอก
"ทานข้าวกันหน่อยนะปีบ จะได้คุยกัน" แว่นกันแดด
"ได้สิ เมื่อไหร่ล่ะอุ๊" เอ่ยปากถามทั้งที่ใจจริงยังนึกสงสัย มานัดทานข้าวทำ1ม ในเมื่อปกติสมัยเรียนก็ไ&ได้สนิทถัน ศรานตาหัวเราะร่วนมากับสายเสียงหวานเชื่อม
คนที่คลีนิกไม่ค่อยมี" สฤษด์คุณอธิบายต่อ ดวงตาฉายแววเหนื่อยหน่าย
"แล้วงานที่บริษัทฤษด์ล่ะ" พันธุรพีเอ่ยถาม ยังพอมีความหวังอยู่บ้างเพราะ กิจการส่งออกของเด็กเล่นปีหนึ่งๆ ทำเงินให้บุตรชายไม่น้อย สฤษด์คุณมี พรสวรรค์ในการออกแบบและประดิษฐ์ของเล่นแปลกๆ ให้โดนใจเด็ก เพราะ ไปดูงานต่างประเทศบ่อยเลยมีไอเดียไม่ชํ้าแบบใคร คิดอย่างง่ายๆ เงินไม่กี่แสน ยังไงก็น่าจะมี
"เศรษฐกิจยังฟุบฮะ แล้วยังอยู่ในช่วงเปิดเทอมอีก ยอดขายตกลงไปมาก ผมต้องเอาเงินที่เหลือไปหมุน"
คุณพันธุรพีหน้าซีดด้วยไม่คิดว่าจะได้ยินคำตอบนี้จากลูกชาย นายแพทย์ สฤษด์คุณพยายามไม่มองหน้ามารดา นึกเหนื่อยหน่าย...แม่น่าจะรู้ว่าอะไรเป็น
อะไร การทำตัวหรูหราฟุมเVเอยมันไม่ต่างอะไรกับการค่อยๆ กัดแทะเนื้อตัวเอง ชายหนุ่มขอตัวขึ้นห้องเปลี่ยนเสือผ้าไปรับเวรต่อที่โรงพยาบาล พอไปถึงกั๊เจอ ศรานตายีนหน้าแฉล้ม
"วันนี้มาเร็วจังค่ะคุณหมอ"
เร็วที่ว่าก็เกือบเที่ยงคืน หล่อนยิ้มหวานทักด้วยนี้าเสียงใสกังวาน ผู้หญิง คนนี้สวย ดูอย่างไรก็สวยหวานไปทั้งตัว ไม่เหมือนทนายดำรงที่เป็นพ่อสักนิด ฝ่ายนั้น ดูดุเขี้ยวไม่น่าคบหา แตกต่างกับศรานตาที่พร้อมจะเป็นมิตรกับทุกคน หากไม่เลือก มาสวมหมวกขาว  หล่อนอาจเข้าวงการบันเทิงเป็นดารานางแบบได้สบาย
"อยากรีบมาดูจ่าเมฆน่ะ   อาการเป็นยังไงบ้าง"   เขาเอ่ยถามพลางหยิบ เสือคลุมกันเชื้อมาสวม   ศรานตารีบกุลีกุจอยื่นแฟ้มรายงานให้พลางบอก
"ดีขึ้นค่ะ รู้สีกตัวเป็นช่วงๆ แต่ยังหายใจเองไม่ได้ ต้องให้ออกซิเจนช่วยอยู่ นี่ผู้กองศกรก็แวะมาดูนะคะ อุ๊อนุญาตเป็นพิเศษ เพราะตอนกลางวันเห็นผู้กองไม,ว่าง" บอกอย่างสนิมสนม แววตาฉายประกายแห่งความพึงใจเปิดเผย ซึ่งไม่แปลกเพราะ เท่าที่รู้ ศกรและศรานตารู้จักกันตั้งแต่เด็ก อาจจะมากกว่าที่กาซะลองรู้จักด้วยซํ้า อย่างน้อยตอนนี้ทั้งคู่ก็อยู่ในจังหวัดเดียวกัน ไม่เหมือนกับหลานสาว กาซะลอง ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองกรุงจนเพื่อนฝูงแทบจะลืมหน้าหากไม่ใช่ดารานักแสดงชื่อดัง
สาวเท้ายาวๆ ไปที่ห้องคนปวยขั้นวิกฤตโดยมีศรานตาเดินตาม พอไปถึง ก็เห็นผู้กองหนุ่มกำลังพยายามพูดคุยกับคนไข้
แว่นตา

'นอนหลับฝืนดี แล้วคิดถึงกันในฝืนนะคะ...อุ๊'

"วันนี้เลยเป็นไง แต่ขอเป็นตอนเย็นแล้วกัน ตอนนี้ขอนอนก่อน เราเพิ่ง ออกเวร"
"ได้ งั้นเดี๋ยวเจอกัน"
"เดี๋ยวสิปีบ" รีบบอกเมื่อกาซะลองทำท่าเหมือนจะวางสาย รอยยิ้มเยื้อน ผุดขึ้นที่ริมสปากได้รูปสวย ตัดบัวทั้งทีมันต้องไม่ให้\เหลือใยทั้งกาซะลองและศกร "ศกจะมากับเราด้วยนะ"
คำบอกเล่าสันๆ แต่มผลทำให้คนที่กำลังฟังอยู่หัวใจชาวาบ หมอนใบสวย ที่เห็นในรถแวบเข้ามาในความคิด
'นอนหลับฝืนดี แล้วคิดถึงกันในฝืนนะคะ...อุ๊' แว่นกันแดด
มันจะลือความหมายใดได้อีก หากเขาทั้งคู่ไม่ใช่... พยายามสลัดความคิด ออก ใครจะมากับใครก็ช่างเขาปะไร หล่อนไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยสักนิด พยายาม ไม่คิด แต่เหมือนคนที่อยู่ปลายสายจะยา
"ปีบก็รู้นี่ ว่าเราไปไหนศกก็ต้องไปด้วย มันก็แปลกแปลกนะ ตามมาตั้ง แต่เด็กจนโตไม่ยักเบื่อ" เหมือนคนพูดจะพูดด้วยความชุ่มชื่นหัวจิตหัวใจเป็น ล้นพ้น กาซะลองทาทางตัดบทวางสาย ไม่อยากฟงนานๆ มันแสนหวานจนเลี่ยน... แต่อีกใจหนึ๋งก็ไม่อยากหลอกตัวเอง...หล่อนเจ็บทุกครั้งที่เห็นเขาคู่กัน...
วางสายจากศรานตาพร้อมใจที่รับรู้ อีกไม่นานเขาทั้งคู่ก็จะควงกันมา อีกครั้ง...เหมือนเคย
คุณปรียางค์ศรีกระเถิบตัวออกให้เหลือที่ว่างมากขึ้น เมื่อผู้เป็นหลานสาว เดินเข้ามานั่งด้วยที่โซฟาหวายตัวยาว สีหน้าของกาชะลองดูซีดเซียวหม่นหมอง แต่เจ้าตัวยังฟืนยิ้มให้กับนายแพทย์สฤษด์คุณและลูกชายรัฐมนตรีชื่อดิสธรที่นั่ง ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย แว่นตากันแดด
ประมุขของคุ้มลูบเนึ้อลูบตัวหลานสาวอย่างแสนรัก "ใครโทรมาหรือปีบ มีอะไรหรือเปล่า"
กาซะลองมองผู้เป็นยาย นึกแปลกใจในคำถาม นี่หล่อนมีพิรุธอะ,1ร "คุณยายถามแปลกๆ ทำไมคะ ปีบดูเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจหรือคะ" "ถามได้ ก็เราหน้าซีดเซียวเหี่ยวแห้งเหลือเกินน่ะสิยัยปีบ คุณป้าเขาถึง ได้ถาม เป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่า" แว่นตา
ทัศนียภาพของสองฝีงแม่นํ้ากกดูร่มรื่นด้วยตลอดแนวเป็นปาเขาที่ชุ่มชื่น เขียวขจี พื้นนํ้าสีเขียวใสจนมองเห็นเงาสะท้อนของสิงที่อฝูเหนือกว่า ซึ่งมองเห็น เป็นเรือลำเล็กที่บรรทุกนักท่องเที่ยวเกือบเต็มลำ แต่กระนั้นก็ยังมีที่ว่างพอที่จะ จัดสรรเป็นมุมอาหารขันโตกให้บรรดานักท่องเที่ยวได้ดื่มกินอาหารแกล้มกับการ ดื่มดํ่ากับธรรมชาติอันงดงาม
กาซะลองถอยตัวออกห่างจากกราบเรือเมื่ออาหารถูกลำเลียงมาจนเต็มโตก กลิ่นนาพริกหนุ่มหอมยั่วกระเพาะจนต้องหยิบแคบหมูมาจิ้มพอบรรเทาความหิว
สีส้มแกมเหลืองเป็นมันย่องของแกงฮังเลดูข้นคลั่กน่ากินจนอดไม่ได้ที่จะ ตักมาลองลิ้มชิมรส แต่อาการเจริญอาหารพลันสะดุดเมื่อเสียงหวานเชื่อมเอ่ยถาม
"ไม่นึกว่าปีบจะกล้ากินของมันๆ เลี่ยนๆ แบบนี้ เพราะปกติเห็นดาราเขา ชอบรักษาหุ่นกัน ขนาดอุ๊เองยังไม่ค่อยกล้ากิน"
ไม่มีเสียงตอบจากกาซะลองเพราะเผอิญมีเสียงคนอื่นตอบแทน 'คนอื่น' ที่ทำให้กาซะลองค้อนตาแทบกลับ
"อย่างคุณอุ๊น่ะกินได้อีกเยอะครับ ผอมบางออกอย่างนี้กินเท่าไหร่กั๊ไม่อ้วน ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"
แว่นกันแดด

กาซะลองเผลอยกมือลูบหน้าลูบตาตัวเอง

กาซะลองเผลอยกมือลูบหน้าลูบตาตัวเอง ยิ้มซีดเซียว "สงสัยเมื่อคืนนอน ไม่ค่อยหลับ ไม่ได้เป็นอะไรหรอกค่ะน้าฤษด์ เออ คุณยายคะ เย็นนื้อุ๊เขาชวนปีบ ไปทานข้าวค่ะ" รีบบอก แต่ผู้เป็นยายกลับตั้งคำถาม
"อุIหน"
กาซะลองทำหน้าเหลอหลา ทำไมคุณยายไม่รู้จัก^ ในเมื่อศรานตาบอก
ว่าทุกครั้งที่ไปไหนศกรจะต้องไปด้วย   อีกทั้งบิดาของฝายนั้นก็เป็นกึ^น^ย ประจำคุ้ม
"ลูกสาวทนายดำรงไงครับคุณป้า ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กกับยัยปีบ" สฤษด์คุณ ตอบแทน เขาเองก็พอจะรู้จักมักคุ้นกับศรานตาเพราะเข้าเวรด้วยกันบ่อย^ โรงพยาบาล   แต่ไม่คิดว่าฝ่ายนั้นจะสนิทสนมกับหลานสาวด้วย แว่นกันแดด
"เมื่อคืนนายศกกับอุ๊เขาเจอกัน คงชวนกันมาเยี่ยมเรามั้ง" ผู้เป็นน้าพูดต่อ สีหน้าแสดงความราบเรียบ หนุ่มใหญ่กวาดสายตามองไปทางเรือนครัวบ่อยๆ แต่ก็ไม่เห็นร่างเล็กบอบบางของแพรสา
กาซะลองยิ้มเจื่อน รีบเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากฟังเรื่องของคนคู่นั้นอีก หญิงสาวหันไปชวนดิสธรคุย อย่างน้อยลูกชายรัฐมนตรีคนนี้ก็เป็นเพื่อน ที่สำคัญหล่อนรู้สีกว่าชักทิ้งเขาให้อยู่นอกวงสนทนามากเกันใป แค่นายศกจะ มาทานข้าวที่บ้านใจคอไม่น่าจะเลื่อนลอยถึงเพียงนี้ เลื่อนถ้วยชาให้ผู้เป็นยาย ทำให้ดิสธรสบโอกาสรีบบอก
"ชา ๓3ฤ0โอ๓ ครับ คุณแม่เอามาจากโรมาเนีย เห็นว่าเป็นสมุนไพรที่ ดีมากเลย  ช่วยคลายเครียด   ผมเลยเอามาฝากคุณยาย" แว่นตากันแดด
"ชื่อแปลกดีนะ"  คุณปรียางค์ศรีพูดแค่นั้นก็ก้มลงจิบ กลิ่นชาที่หอมคล้าย มิ้นท์ทำให้ต้องจิบอีกครั้งอย่างชื่นใจ   ดิสธรยิ้มกับกาซะลองอย่างปลาบปลี้ม อย่างน้อยเรื่องที่กังวลก็ไม่มึป้ญหา  ท่าทางคุณปรียางค์ศรีก็ออกจะต้อนรับเขาด 1 นายแพทย์หนุ่มขอตัวไปเดินเล่น ไม่มีใครจับสังเกตนอกจากกาชะลองที่ พอจะรู้ว่าน้าชายออกไปเดินเล่นเพื่อวัตฤประสงค์ใด
หญิงสาวชวนแขกผู้มาเยือนไปเที่ยวนอกคุ้ม กว่าจะกลับเข้ามาก็จวนเจียน ถึงเวลานัดเต็มที   เก็บของลงจากรถยังไม่ทันเสร็จ   แพรสาก็เข้ามารายงาน
"ผู้กองมาหาค่ะ  มากับผู้หญิงคนหนึ่ง   เธอให้เรียนคุณปีบว่าชื่อศรานตา"
"ศกก็พูดเกินไป ถึงอุ๊ไม่ใช่ดารานางแบบอย่างปีบ แต่ขึ้นชื่อว่าผู้หญิงยังไง ก็ต้องดูแลตัวเองหน่อยค่ะ ขืนปล่อยตัวกั๊กลายเป็นหมูพะโล้กันพอดี ต้องอย่าง ศกสิ กินได้อีกเยอะ" ตาหวานเชื่อมช้อนขึ้นสบตาผู้กองหนุ่ม ในขณะที่มือเรียว งามก็ตักแกงฮังเลให้คนที่บอกว่ายังกินได้อีกเยอะ
แต่สำหรับกาซะลอง อาหารบนโต๊ะดูจะฝืดคอไปในทันทีเมื่อเห็นภาพ สวีทหวานแหววที่อยู่ตรงหน้า หญิงสาวพยายามเมินไม่มองภาพที่พยาบาลสาว คนสวยคอยเอาอกเอาใจดูแลผู้กองหนุ่มอย่างเปิดเผย หากป้อนกันถึงปากได้ก็คง จะไม่ลังเลเป็นแน่แท้ ชิ.' อย่างนี้คุณยายน่าจะมาเห็น จะไดโม่เข้าใจผิดคิดว่า เขามาหลง ใหลได้ปลื้มหล่อน แว่นตา
เอื้อมมือไปตักอาหารใส่จานให้ดิสธรบ้าง อย่างน้อยเขาก็เป็น 'แขก' คนที่หล่อนควรดูแล
ศกรมองคนตรงหน้าอย่างนึกขวาง หากอยากหานข้าวกัฆคู่รักกันสองคน ทำไมต้องนัดเขากับศรานตามาวันนี้ด้วย...ถ้ารู้'ล่วงหน้าว่าต้องมาเจอไอ้ลูกชาย รัฐมนตรีคนนี้คงไม่มา!
"เป็นอะไรกันคะ เงํ่ยบเงียบ นานๆ เจอกันทีไม่เห็นจะพูดคุยอะไรกัน เลย" ศรานตาเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มหวานมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างไร้เดียงสา เป็นอย่างที่คาดไ7'ชัดๆ ศกรต้องคิดอะไรกับแม่ลูกเป็ดขี้เหร่นี่ ไม่งั้นคงไม่นั่งตา ขวางกับหนุ่มคนนั้นหรอก พิศมองหน้าแม่ดาราชื่อดังชัดๆ ก็ยังเห็นเค้าโครงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง อาจจะขาวขึ้น สูงขึ้น และหุ่นที่เคยผอมเก้งก้างก็มีเนื้อมีหนัง ขึ้น ผมสีนํ้าตาลอ่อนที่เคยยาวสลวยถูกดัดเป็นคลื่นเล็กๆ น่ามอง มันช่างรับ กับจมูกโด่งปลายรั้นที่เมื่อก่อนหล่อนแอบค่อน เพราะมันทำให้แม่ลูกเป็ดขี้เหร่ คนนี้หน้างายิ่งกว่าเก่า
สรป...ก็ดูดีขึ้น แต่อย่างไรก็สวยหวานสู้หล่อนไม่ได้อยู่ดี...วงการบันเทิง นี่ก็แปลก ชอบพิสมัยของแปลกประหลาด
"ว่าไง คุยกันหน่อยสิ"
"ปกติเราก็คุยไม่เก่งอยู่แล้ว ฟังอุ๊คุยดีกว่า เพลินดี" ออกตัวไปอย่างนั้น ทำเอาพยาบาลสาวหัวเราะเสียงใส
"อุ๊ก็ไม่รู้จะคุยอะไร  เพราะปกติก็คุยกับศกทุกวันอยู่แล้ว  คุยเรื่องของ
แว่นตากันแดด

วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เป็นอันว่าสามสูตรนี้พูดดีไต้หมด

ปรากฏการณ์อย่างเดียวกัน มองได้สองอย่าง มองดีก็ได้ มองร้ายก็ได้ครับ ขึ้นอยู่กับจิตใจของคนมองเป็นสำคัญ
เพื่อนเรามีลูกสองคน เป็นชายหญิงเพศละคน เราบอกว่า "แหม....พอดีเลย มีลูกสองคนกำลังเหมาะได้ทั้งชายทั้งหญิงเลยนะ"
ถ้าเขามีลูกสองคน แต่เป็นชายทั้งคู่ เราก็บอกว่า "มนต้องได้ อย่างนี้ซิ เด็กผู้ชายกับผู้ชาย ความสนใจมันเหมือนกัน เป็นเพื่อนเล่น กันได้ ยิ่งได้ผู้ชายทั้งคู่ยิ่งดี จะได้สืบสกุลต่อไป"
ถ้าเขาเกิดได้ผู้หญิงทั้งคู่ เราก็บอกว่า "เหมาะมาก กำไรรูไหม จะได้ลูกเขยตั้งสองคน ไม่ต้องเสียสินสอดทองหมั้นอะไร" แว่นกันแดด
เป็นอันว่าสามสูตรนี้พูดดีไต้หมด ทีนี้ลองมาฟังใหม่
เพื่อนไต้ลูกชายคนหญิงคน เราก็บอกว่า "มันน่าจะไต้ลูกชาย ทั้งคู่ถึงจะดี ไม่น่ามีหรอกลูกผู้หญิงสมัยนี้น่ะ"
ถ้าเขาไต้ชายทั้งคู่ เราบอกว่า "เสียดายนะ ไต้ลูกผู้หญิงสกคน ก็ดีซิไม่น่าทำหมันเลย"
เกิดไต้ผู้หญิงทั้งคู่ เราก็บอกว่า "นี่คุณไม่รู้เรอะ โบราณเขาว่า มีลูกผู้หญิงเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบานน่ะ"
เป็นอันว่าสามสูตรนี้พูดให้ดีก็ไต้พูดให้เลวก็ไต้ทั้ง ๆ ที่ปรากฏ-การณ์ก็ไม่มีอะไรต่างกันเลยครับ
วิเชียรเป็นพนักงานขับรถของบริษัทแห่งหนึ่ง เจ้านายถามว่า
"วิเชียร ว่างไหม ช่วยขับรถไปนครปฐมหน่อย" แว่นตากันแดด
วิเชียรว่า"ว่างครับ"
"พรุ่งนี้ล่ะ ไปอยุธยาไหวมั้ย"
"ไหวครับ"
ไม่ว่าจะเป็นเวลา เช้า สาย ม่าย เย็น คํ่า หรือแม้แต่วนหยุด วิเชียรจะมีคำตอบว่า "ว่างครับ ยินดีครับ พร้อมครับ ไต้ครับ"
เป็นคนที่ไม่รู้จักมีปัญหาเอาเสียเลย ไม่ว่าในสถานการณ์ แบบไหน
คนประเภทนี้บางทีถูกหาว่าเป็นคนเซ่อไม่รู้จักเอาตัวรอด บาง
ก็ถูกหาว่าเป็นคนสอพลอเจ้านายเพื่อเอาหน้าก็มี แว่นตา
มีคนบางคนที่คิดว่าการทำงานมาก ทำให้เสี่ยงต่อการผิดพลาด บางก็บอกว่า ทำงานมากไป ทำให้เสียเปรียบนายจ้าง บางคนว่า ทำงานมากทำให้เป็นตัวของตัวเองน้อยลง ใครจะว่าอย่างไรก็ตาม วิเชียรไม่สนใจ วิเชียรตั้งใจทำหน้าที่
ของตนให้ดีที่สุด
แล้ววิเชียรก็พบว่า   ความเจริญรุ่งเรืองนั้นจะมาพร้อมกับ
การทำงานมากขึ้นเท่านั้น จันตรายที่สำคัญต่อความสำเร็จก็คือความ
เกียจคร้าน
แว่นตากันแดด

มันเป็นความผิดของวิศิษฐ์

เวลามีปัญหาผิดพลาดในการทำงานขึ้นมา สิ่งที่มักได้ยิน ตามหลังจากคนทำงานก็คือ
"ไม่ไหวครับ วัตถุดิบมาไม่ทน จะผลิตทันได้ยังไง"
หรือว่า "จำเป็นจริง ๆ ครับ ลูกน้องผมท้องเสียทั้งแผนก ลา หยุดกันเกือบหมด ผมไม่มีปัญญาทำเองคนเดียวหรอก"
หรือว่า "มันเป็นความผิดของวิศิษฐ์ เลินเล่อไปหน่อย วัสดุ สูญเสียจึงมีมาก"
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคำแก้ตัวทั้งนั้นครับ แว่นกันแดด
จะแก้ตัวยังไงก็ตาม ความผิดพลาดก็ได้เกิดขึ้นแล้ว เรียกคืน ก็ไม่ได้บางคนไม่หยุดอยู่เพียงวงแคบ กลับพูดคำแก้ตัวนึ้ใปถึงคนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยเพื่อดึงตัวเองออกมาจากความผิดพลาด
ทางที่ดีกว่าคือการมุ่งหน้าแกไข ไม่ใช่มุ่งแก้ตัว
ความผิดพลาดบางอย่าง ก่อนที่จะปรากฏผลผิดพลาด มักจะมี การตั้งเค้ามาก่อนให้สามารถคาดคะเนได้
เช่นลูกค้าที่จ่ายเช็คคืนม่อย ๆ อย่างนี้ก็ด้องรีบหาทางตัดเครดิต ไม่ส่งของให้จนกว่าจะชำระเงินที่ค้างเรียบร้อยเสียก่อนเรียกว่าตัดไฟเสีย แต่ตันลม ไม่ใช่เห็นเค้าอย่างนี้แล้ว ก็ยังยอมตามใจลูกค้าไปหมดทั้งๆ ที่มีลางบอกเหตุไม่ดีอย่างที่ว่า แว่นตากันแดด
ผมได้พบได้ร่วมงานก้บคนมามากพอสมควร ทั้งงานธุรกิจและ งานทางสังคม
ในชีวิตได้พบคนบางคนครับที่มีความเชื่อมั่นตนเองสูงมาก สูง ชนิดที่ไม่ยอมฟังใคร หรือแม้จะฟังแต่ก็ยืนกรานความเห็นของตนอย่าง เด็ดขาด บางครั้งความเห็นก็ถูกต้อง บางครั้งความเห็นก็ไม่ถูกต้อง ข้อพิสูจน์ความถูกต้องหรือไม่ก็คือผลแห่งการปฏิบัติครับ แว่นตา
คนที่ยืนกรานความเห็นของตน จึงต้องมีวิธีปฎิบตต่อเขาครับ ถ้าหากพบว่าความเห็นนั้นไม่ถูกต้อง วิธีพูด วิธีแนะนำอย่างเดียว บางที ยังมองไม่เห็นภาพ ยังรู้สึกเลื่อนลอยอยู่
ถ้าเป็นเรื่องที่จะนำผลเสียหายใหญ่หลวงมาให้ ก็คงต้อง ใช้อำนาจบังตับกัน ถ้าหากเขาไม่ยอมเชื่อฟัง แต่ถ้าเป็นความเห็นที่ ไม่ก่อผลเสียหายมากนก ก็ลองปล่อยให้เขาทำไป ให้เขาชนข้างฝา ด้วยตัวของเขาเอง การที่ต้องชนข้างฝาย่อมต้องเจ็บตัว ซึ่งจะเป็น บทเรียนที่ดีกว่าอะไรอื่น
เพราะยังไม่ชนข้างฝา ก็ยังไม่รู้สึกตัว
คนโดยทั่วไปเป็นคนมีเหตุปีผล ถ้ามีวิธีการแนะนำชี้แจงในทาง สร้างสรรค์และด้วยจิตใจถนอมรัก
วิธีนี้จึงใชไต้กับคนบางคนเท่านั้นครับ และไม่ใช่จะใช้ไต้ม่อย ๆ นาน ๆ ใช้ครั้งหนึ่ง ใช้ม่อยเข้าจะเสียเวลา เสียกำลังคนอื่นที่จะต้อง
แว่นตา

เสร็จก็ไม่ยอมหยุดพัก

ดูจะเป็นที่ยอมรบกันนะครับว่า ทุกคนมีข้อดีและข้อด้อยด้วยกัน ทั้งนั้นไม่ว่าใคร
คนที่ทำงานเก่ง แต่เจ้าโทสะ คนที่เข้ากับใครได้ดี แต่ทำงานเช้าชามเปีนชาม คนที่แต่งตัวดีมาก แต่ใจแคบเหลือเกิน คนที่หยุดอยู่กับที่ ไม่อาจก้าวไปข้างหน้าได้คือคนที่ปราศจาก ความมุ่งมั่นในการแกไขปรบปรุงตนเอง แว่นกันแดด
ผมได้พบเพื่อนบางคนที่ทำงานไม่เก่งนัก แต่ได้ด้นคว้าอ่าน หนังสือ หาวิธีการทำงานที่เป็นระบบ วางแผนการทำงานให้กับ ตนเองอย่างเป็นขั้นตอน จนเดี๋ยวนี้ผ่านมา ๑๐ กว่าปี เขาก้าวหน้าขึ้น มากครับ เก่งขึ้น คล่องขึ้น และคนยอมรับในเ]มือมากขึ้น
ผมได้พบคนขึ้โมโหโทโสที่ยอมรับตนเองตามที่คนอื่นมองแล้ว เขาก็ไปหาหนังสือของพลตรี หลวงวิจิตรวาทการมาอ่านIIกกำลงใจ ให้รู้จักอดทน รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา กลายเป็นคนมีอารมณ์ เยือกเย็นไปได้ครับในเวลาประ มาณ ๓ ปีที่เขาแก่ไขปรับปรุงตัวเอง
พรรคพวกคนหนึ่ง แต่งตัวแสนจะไม่เข้าท่าเข้าทาง ด้วยความ เป็นศิลปินอิสระพอมาทำธุรกิจเพื่อนๆก็พากันขอร้องให้ตัดผมสั้นหน่อย เสื้อผ้าก็รีดเสีย ผูกเนคไทให้เป็น นี่เป็นบุคลิกภายนอกที่จำเป็น
มีผู้จัดการคนหนึ่งครับ เป็นคนตั้งใจทำงานดีเหลือเกิน ขยัน ขันแข็ง ทำงานชนิดหามรุ่งหามคํ่า งานไม่เสร็จก็ไม่ยอมหยุดพัก แว่นตากันแดด
เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปที่รู้จัก
ปัญหาก็คือ ผู้จัดการคนนี้ได้ชักชวนคนอื่นไห'ขยนขันแข็ง ตามตัวเองไปด้วยโดยที่ขาดความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกผู้อื่น แว่นตา
ลูกน้องออกไปทำงานข้างนอก พอกลบเข้ามาถึงสำน้กงาน ตอนสองทุ่มแล้วก็ยังเรียกประชุมต่อไป เลิกประชุมเอาเลยเที่ยงคืน ไปแล้วก็หลายหน
เวลาประชุมก็ดำเนินการประชุมไม่เป็นใข้เวลายืดเยื้อยาวนาน ผู้เข้าประชุมเพลียมาจากงานนอภแล้ว จึงไม่มีแก่ใจจะนั่งประชุมด้วย กลายเป็นว่าผู้จัดการพูดอยู่คนเดียวเป็นส่วนใหญ่
หลายครั้ง อยู่ ๆ ก็สั่งให้ลูกน้องออกต่างจังหจัดโดยกะทันหัน ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้ากันไว้ก่อน
โดยถือว่าตนเองก็นาอดนํ้าทนมากกว่า มีความสมบุกสมบนกว่า เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานว่าคนอื่นจะต้องสามารถทำได้อย่างที่ตนเองทำ จึงสั่งการไปทั้งที่แนความรูสึกของลูกน้อง
บรรยากาศการทำงานจึงน่าเบื่อครับ ลูกน้องพอรู้ว่าต้องประชุม ก็พากันเหนื่อยหน่ายแล้ว ลูกน้องที่ออกต่างจังหจัดแทบไม่มีเวลาเตรียม เสื้อผ้า
แว่นตากันแดด

หัวหน้าสายงานเครื่องยนต์ของเครื่องบิน

ในหนังสือ"อินเซิร์จ ออฟ เอกเซลเลนซ์" หรือชื่อภาษาไทยว่า ดั้นด้น สู่ความเป็นเลิศ ได้พูดถึงบริษัทดีเด่นในอเมริกาไว้ว่าเป็นบริษัท ที่ผู้บริหารมักจะออกไปสัมผสกับการปฎิบตงานที่เป็นจริงของพนักงาน อย่างใกล้ชิด ด้วยความเชื่อที่ว่าด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ทราบ ข้อเท็จจริงและเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้ แว่นกันแดด
นายฮาร์รี เกรย์ หัวหน้าสายงานเครื่องยนต์ของเครื่องบิน ของบริษัทยูไนเด็ด เทคโนโลยี จะไปเยี่ยมเยียนลูกค้าที่สำนักงานลูกค้า อย่างใกล้ชิด ในขณะที่คู่แข่งข้นไม่เคยทำเช่นนั้นเลย
นายเดวิด โอกิลวี เคยกล่าวว่า อย่าเรียกพนักงานมาที่ห้อง ทำงาน เพราะจะทำให้เขาตื่นตกใจ จงออกไปหาพนักงาน จะทำให้ สามารถสัมผัสเนี้อหาที่แท้จริงของงาน และเป็นโอกาสที่พนักงานจะได้ รู้จักกับผู้บริหาร แว่นตากันแดด
นายเอ็ด คาร์ลสัน แห่งบริษัทยูไนเด็ดแอรไลน์ เรียกวิธีเช่นนี้ว่า การบริหารงานแบบมองเห็นความเป็นจริง ด้วยการเดินทางเป็นระยะ ๒๐๐,๐๐๐ ไมล์ต่อปี เขาจะสัมผัสมือพนักงานทุกคนที่พบ ทำให้เกิด ความคุ้นเคย พนักงานก็กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นจริง ๆ ออกมาให้เขา ริบรู้ข้อสำค้ญด้องแสดงความจริงใจว่านั่นไม่ใช่วิธีการจับผิดหากแต่เป็น ความปรารถนาของเขาจริง ๆ ที่จะได้พบได้คุ้นเคยและได้รับรู้ปัญหา
มีหัวหน้าประเภทหนึ่งครับที่ชอบทำร้ายคนอื่นทางวาจา วันไหน ไม่ได้ด่าลูกน้อง วันนั้นท้องขึ้นครับ
ลูกน้องทำงานไม่เสร็จตามกำหนด ยงไม่ทันไต่ถามสาเหตุ หัวหน้าเล่นงานก่อนแล้วว่า "ทำงานชุ่ยอย่างนี้ จะเอาต้วรอดไต้ยังไง"
ลูกน้องมีป้ญหาเกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบดงานหัวหน้าบอกว่า "คุณสร้างปัญหาขึ้นมาเอง คุณก็ต้องแก้เอง อย่ามายุ่งกับผม" แว่นกันแดด
ลูกน้องมีเรื่องขัดแย้งกับหน่วยงานอื่น หัวหน้าว่า "มีกันอยู่ไม่ กี่คนแค่นี้ทะเลาะกันด้วยหรือ"
หลายครั้งหลายหนปัญหาที่เกิดขึ้นด้นตอของปัญหาคือหัวหน้า คนนั้นนั่นแหละครับ อนุมัติงานไปแล้ว ผลออกมาไม่ดีก็โยนความผิด ให้ลูกน้องก่อน เพราะวิธีเช่นนี้ทำให้ดูเหมือนว่าตนเองไม่ต้องรับผิดชอบ ต้วย ลูกน้องที่หัวอ่อนอาจจะยอมตามไต้แต่ถ้าหากลูกน้องที่เป็นคนจริง หัวหน้าก็อาจต้องหงายหลังเอาบ้างเหมือนกัน
นี่คือปัญหาวิธีการปฏิบตต่อลูกน้องครับ
ถ้าเป็นหัวหน้าที่มุ่งความสะใจตนเองในการไต้ด่าลูกน้อง ก็ต้อง พบเหตุการณ์แบบนี้ม่อย ๆ ใครเป็นลูกน้องหัวหน้าแบบนี้ก็รับกรรมไป
หัวหน้าที่ดี เมื่อเกิดปิญหาขึ้น เขาจะมุ่งไปสู่ตัวงานเป็นลำดับ แรกครับ
ปัญหานั้นเกิดจากอะไร ถ้าเกิดจากเหตุสุดวิสัย เขาจะมองข้าม
แว่นตากันแดด

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เลี้ยงชีพไม่ต้องห่วงอะไร



นอกเหนือจากการทำงานเพื่อให้ได้เงินมาเป็นปัจจัยในการ ดำรงชีวิตอยู่ ความต้องการอีกอย่างหนึ่งของคนก็คือ ต้องการความ มั่นคงในการทำงาน

ความมั่นคงในที่นี้คือการมองออกจากต้วเอง คือมองไป ที่องค์การที่สังก้ดหลายคนจึงอยากทำราชการ เพราะราชการให้ ความรูสึกที่มั่นคงดี เข้าทำราชการไต้ก็เท่ากับฝากชีวิตไวไต้ปลดเกษียณ ก็มีบำนาญเลี้ยงชีพไม่ต้องห่วงอะไร แว่นกันแดด

ถ้าไม่ไต้เข้าราชการ ก็ขอให้ไต้อยู่รัฐวิสาหกิจที่ดี ๆ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย หรือมิฉะนั้น ก็ขออยู่บริษัทใหญ่ๆ ที่มีหล'กฐานมั่นคง เช่น ปูนชีเมนดํไทย ธนาคาร กรุงเทพ การบินไทย เป็นต้น เพราะบริษัทเหล่านี้แลดูมั่นคงดี

นี่คือทัศนะที่คนเราฝากความมั่นคงไว้กับองค์การ

เรามามองความมั่นคงกันในแง่มุมใหม่ คือความมั่นคงที่เกิดขึ้น ในจิตใจของเราเอง

แม้จะอยู่บริษัทเล็กที่สุดก็สามารถมีความมั่นคงไต้ แว่นตากันแดด

ความมั่นคงที่ว่านี้ ประกอบด้วย ๒ อย่างที่สำคัญคือความ สามารถกับคุณธรรม

ใครก็ตามที่สามารถสั่งสมความสามารถในการทำงานไว้มากๆ และสั่งสมคุณธรรมไว้กำกับการดำเนินชีวิตของตนเอง ย่อมเท่ากับ

บนเส้นทางสู่ความสำเร็จที่กำลงก้าวเดินอยู่นั้น ย่อมมีโอกาส พลาดพลั้งกันไต้ทุกคนนะครับ ในเมื่อ "สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ ยังรู้พลั้ง สองขาโด่เด่ก็ต้องเซไปบ้าง" เป็นธรรมดา

แต่ทุกครั้งที่ล้มลง หรือชนกำแพงเข้าก็จะให้บทเรียนใหม่ที่ ทำให้ต้องปรับตัว และหาวิธีการใหม่มาใช้เพื่อเบิกทางไปสู่ที่หมาย เบี้องหน้า

การกระทำที่ถูกต้อง จะถูกบนทึกลงไปในสมองครั้งใหม่ เพราะ ว่าการเรียนรูไต้เกิดขึ้นและการจัดรูปแบบของการทำงานใหม่ก็จะเกิด ตามมาแว่นตา

ในหนังสือ กฎทองแห่งความสำเร็จ ไต้แนะนำไว้ว่า

๑. จงมีภาพที่แน่นอนแจ่มชด ไม่ใช่เพียงความปรารถนาที่สลัว รางของสิ่งที่ท่านลัองการ

๒. ตั้งเปีาหมายและกระทำสนองมันไปทีละข้อ

๓. เรียนรู้จากความล้มเหลว

๔. เคลื่อนไหวเสมอ อย่าหยุดนิ่งเป็นอนขาด

๕. จงทำในสิ่งที่ใหญ่ขึ้นและดีขึ้นอีกเล็กน้อยเสมอ

๖. อย่าดกเป็นเหยื่อของการนินทาว่าร้ายหรือการกล่าว ถ้อยคำที่ทำให้ท่านรู้สึกตํ่าต้อยลงไป

๗. จำไว้ว่า ความสำเร็จมิไต้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืนแว่นกันแดด

ซึ่งควรเสนอสู่ประชาชน



คนเรามีปากเพื่อทำหน้าที่สองอย่าง หนึ่งคือกิน ล'องคือพูด นี่เป็นหน้าที่หลักครับ

เรื่องกินนั้นแน่นอน ถึงเวลาหิวเมื่อไร ก็ต้องกินเมือนั้น บางที ไม่หิวก็ยังกินเพราะความอยากกิน

ส่วนเรื่องพูดนั้น แล้วแต่บุคคลครับ บางคนพูดมากไม่ยอมหยุด บางคนพูดน้อย บางคนไม่ยอมพูดเอาเสียเลย แว่นตากันแดด

เร็ว ๆ นี้ ผมร่วมกับเพื่อนตั้งบริษัทขายบริการในการสรัาง ภาพลักษณให้กับบริษัท ให้กับองค์การที่ต้องการพ้ฒนาภาพลักษณ์ ตนเองให้เห็นว่าสินค้า บริการ หรือแม่'แต่บริษัทหรือองค์การนั้นๆ มีคุณ ค่าที่น่าสนใจ ซึ่งควรเสนอสู่ประชาชน แว่นตา

พบกับเพื่อนนักธุรกิจ ผมก็คุยให้ฟังว่า ผมมีบริการอย่างนี้ธุรกิจ ของเขาถ้าหากไต้สร้างภาพลักษณ์ไปในแนวไหนต้วยสื่อประชาสมพันธ์ อย่างไร ก็จะทำให้เกิดคุณค่าทางลังคมขึ้นมา

ในที่สุด เพื่อนคนนี้ก็กลายเป็นลูกค้าของบริษัทผมไป เพราะเขา เห็นว่าเขาจะไต้รับผลประโยชน์คุ้มค่า

พูดอย่างนี้ขึ้นมาไม่ใช่ต้องการคุยว่าผมเก่งกาจอะไรครับ ผม อยากจะเสนอท่านว่า ทุกขณะ ทุกย่างก้าว เราสามารถจะขายตัวเองไต้ นักธุรกิจบางคนไม่ยอมเผยตัวเองว่าทำธุรกิจอะไร คือพอใจในสภาพ อันมีขอบเขตจำกัดของตนเอง อยู่กับใครก็ไม่ยอมพูด ไม่ยอมแนะนำ แว่นกันแดด

ระหว่างการเดินทางไกลกลางทะเลทรายของเจ้าชายแขกผู้ ทรงอำนาจพระองค์หนึ่ง ปรากฏว่าไต้สูญเสียม้าไป ๑ ตัว เจ้าชาย ออกคำสั่งให้ทหารคนสนิทไปเลือกม้าพนธุดีมาแทน

ในที่สุดไต้ม้าสองตัวมาพร้อมกับเจ้าของม้าสองคน เจ้าของม้า ต่างเกี่ยงกัน โดยอ้างว่าม้าของตนแก่แล้วและอ่อนแอ ไม่เหมาะกับ กองคาราวานของเจ้าชาย ทั้งนี้ก็เนื่องจากเจ้าของม้าต่างไม่อยากจะให้ ม้าของตนไปกับเจ้าชาย

เจ้าชายจึงร้'บสั่งว่า "เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ลองแข่งกันดูซิ แล้ว ข้าจะเลือกเอาตัวที่ชนะ"

นายทหารคนสนิทไต้ยินเช่นนั้น ก็กระซิบเจ้าชายว่า "ขอเดชะ วิธีนี้เราไม่มีทางรูใต้เลยว่าม้าตัวไหนวิ่งเร็วกว่า เพราะเจ้าของม้าแต่ละ คนต่างก็จะดึงม้าของตนเองไว่ไม่ให้ชนะ"

เจ้าชายแขกทรงพระสรวลแล้วตอบว่า "เจ้าไม่ร้อะไร ข้ารับรอง ว่าพวกเขาจะต้องแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อเอาชนะใหได้ ทั้งนี้ก็เพราะว่าข้าจะออกคำสั่งให้เขาสลับม้ากันขี่"

นิทานเรื่องนี้หยิบยกขึ้นมาคุยกันก็เพื่อที่จะเสนอแง่มุมว่า ปัญหา ต่าง ๆ ที่ดูเหมือนว่าพบกับทางตันนั้น แท้ที่จริงเราสามารถต้นหา ทางออกให้กับปัญหานั้น ๆ ไต้ ถ้าเรารู้จักหาแง่มุมในการมองและ พยายามที่จะไปเอาชนะมันแว่นกันแดด

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เพื่อยกระดับจิตสำนึก ความรับผิดชอบ ของลูกน้องให้ดียิ่งขึ้น

ลูกน้องมีความรับผิดชอบตํ่า ทำอย่างไรดีครับ มอบหมายงานไปแล้ว ก็ละลายหายเหมือนคลื่นกระทบฝัง หรือถ้าจะทำ ก็ทำอย่างขอไปที ได้ผลงานตํ่ากว่ามาตรฐานมาก ลูกน้องบางคน ไม่ใช่แต่ตัวเองไม่รับผิดชอบเท่านั้น ยังพาให้
เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ เสียงานไปด้วยก็มีให้เห็นทั่วไป
การชี้แจงจุดมุ่งหมาย การสอนแนะนำงาน การแกอบรมอะไร
ต่าง ๆ ก็คงด้องทำกนไปนะครับ เพื่อยกระดับจิตสำนึก ความรับผิดชอบ
ของลูกน้องให้ดียิ่งขึ้นแว่นตากันแดด
นี่ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารอยู่แล้ว
ยังมีอีกวิธีหนึ่งครับที่ได้ผลตรงเป้าตามต้องการ นั่นคือการตั้ง
เปิาหมายและกำหนดวิธีการ รวมทั้งกำหนดวันเวลา
นายลี ไอ เอ คอกคา นักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ชาวอเมริกันใชวิธีตั้ง *   คำถามกับลูกน้องเสมอๆ ว่า
"คุณมีแผนงานที่จะทำอะไรใน ๓๐ วัน อะไรคืออันดับความ
สำคัญของคุณ คุณหวังว่าจะไดัอะไรจากแผนงานนี้และคุณจะได้มัน
มาด้วยวิธีใด"
นายลีได้ชี้ให้เห็นครับว่าวิธีนี้จะช่วยให้ลูกน้องของคุณเดินตรง ไปตามเป็าหมาย และยังช่วยให้ลูกน้องของคุณเป็นคนรู้จักรับผิดชอบ ทั้งต่อเจ้านายของเขาและต่อตัวของเขาเอง
ทำธุรกิจพูดโดยรวมๆ แล้วดูจะต้องออกแรงมากกว่าทำราชการ เพราะเป็นข้าราชการนั้น เป้าหมายของการทำงานค่อนข้างจะเป็น นามธรรม มองไม่เห็นว่าผลที่เกิดจะเป็นรูปธรรมอย่างไร แต่ทำธุรกิจ นี่ด้วเลขขาดทุนกำไรมันฟัองถึงฟืมือในการทำงานครับแว่นกันแดด
ผู้บริหารจะต้องรับผิดชอบต่อเจ้าของกิจการและผู้ถือหน ถ้า ปีไหนทำกำไรไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ แสดงว่าประสิทธิภาพตํ่า ปีไหนขาดทุน ก็ยิ่งส่อแสดงว่า ไม่มีความสามารถ
นักบริหารธุรกิจจึงต้องมีความรู้อย่างน้อย ๔ อย่างด้วยกันครับ
๑. ความรู้เกี่ยวกับสินค้า ต้องรู้รูปพรรณสัณฐาน นํ้าหนัก ขนาดคุณภาพ จุดดี จุดต้อย ประโยชนIช้สอย การบำรุงรักษาและอื่นๆแว่นตา
๒. ความรู้เกี่ยวกับบริษัท เช่น ระเบียบกฎเกณฑ์ นโยบาย บริษัทสายงาน การบังคับบัญชา อำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ เป็นต้น รวมถึงเงื่อนไขในการให้เครดิต การชำระเงินต่างๆ ต้วย
๓. ความรู้เกี่ยวกับลูกค้า เป็นเรื่องสำคัญมาก ลูกค้ามีฐานะ แค่ไหน มีอำนาจซื้อหรือไม่ ลูกค้าอยู่ที่ไหน จะเข้าถึงลูกค้าไต้อย่างไร
๔. ความรู้เกี่ยวกับคู่แข่งขัน ผู้บริหารหลายคนยังให้ความสนใจ น้อยไปกับความรู้นี้
บริษัทเรายืนอยู่ตรงไหน มีส่วนแบ่งตลาดเท่าไร จุดอ่อนจุดแข็ง
แว่นตา

หนักหน่อยก็ภาคทัณฑ์เอาไว้

สมชายกำลังขยับปากกาเขียนโครงการใหม่ที่เจ้านายมอบหมาย
ให้ทัน
บังเอิญจะต้องค้นเอกสารเก่ามาอ้างอิง ก็พบว่าเอกสารของตน จัดไม่เป็นระเบียบ วางสุมๆ ไว้ ไม่แยกแยะใส่แฟ้มให้หาง่าย จึงหัน ไปจัดแฟ้มของตัวใหม่ ใช้เวลาไปตลอดเช้าในการจัดแฟิม
ตกม่ายเพื่อนโทรศัพท์มาหาขอมาคุยด้วยจึงนั่งคุยเรื่องส่วนตัว กับเพื่อนสักชั่วโมงหนึ่ง พอเพื่อนไปแล้ว เปิดลิ้นชักโต๊ะออกมาจะหยิบ กล่องนามบัตร ก็พบว่าในลิ้นชักมีข้าวของเกะกะเต็มไปหมด จึงใช้เวลา รื้อลิ้นชักใหม่ทั้ง ๓ ลิ้นชัก หมดไปอีก ๑ ชั่วโมง
เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่งปกขาดกะรุ่งกะริ่ง จึงตกลงใจ ไปหยิบสกอดเทปมาจัดแจงซ่อมปกหนังสือให้เรียบร้อย ห่อปกใหม่อย่างดี แว่นตากันแดด
เห็นจดหมายเพื่อนวางอยู่บนโต๊ะ ๒ จันแล้วบังไม่ได้ตอบสักที จึงจัดแจงรีบตอบจดหมาย
ดูเผินๆ สมชายก็เป็นคนขยันดีนะครับ ทำทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่างานเล็ก งานใหญ่ สำคัญไม่สำคัญ ขอไหได้ทำ
งานก็เสร็จละครับแต่ไม่ใช่งานหลักที่เสร็จ กลายเป็นงานย่ออ งานที่ไฝสำคัญ ไฝเร่งด่วน
จะต้องเอาเช็คเข้าบัญชีธนาคารให้ทันก่อน ๑๐ นาฬิกา กลับไป
พนักงานทำผิด ขาดความรับผิดชอบ ทำงานออกนอกแนว ปฏิบัติที่วางไว้ เกิดผลเสียต่อบริษัท สิ่งที่ผู้จัดการถนัดทำคือ เรียก พนักงานมาเตือน หนักหน่อยก็ภาคทัณฑ์เอาไว้
การตักเตือนแต่เพียงอย่างเดียวบังไม่พอครับ เพราะไม่ไต้ก่อ ให้เกิดความเติบโตทางสติปัญญาอะไรขึ้นมา สิ่งที่ควรจะตามมาต่อจาก การตักเตือนคือ วิธีที่ถูกต้องเป็นอย่างไรแว่นกันแดด
ผู้จัดการจะต้องมั่นใจด้วยว่า สิ่งที่ตนสอนและแนะนำไปนั้น เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงความสามารถของพนักงานให้มีมากขึ้นตังนั้น วิธีสอนแนะนำจึงต้องการคำอธิบายที่ละเอียดชัดเจน
เมื่อสอนและแนะนำไปแล้ว พนักงานรับปากแต่คำว่า "ครับ" ก็ยังแน่ใจไม่ไต้ว่าเขาเข้าใจแล้ว เพราะเขาอาจจะครับอย่างขอไปทีก็ไต้แว่นตา
ตังนั้น ผู้จัดการจึงต้องเปิดโอกาสให้พนักงานออกความเห็น โต้แย้งไต้เพื่อให้เขาไต้รับการชี้แจงที่ละเอียดแจ่มแจ้งยิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อตักเตือนและแนะนำไปแล้ว ผู้จัดการยังจะต้องติดตามผล ด้วยว่า เขาได้ปฏิบตตามคำแนะนำหรือเปล่า ผลเป็นอย่างไร ต้องรู้จัก ชมเชย ถ้าเห็นเขาทำงานไต้ดีขึ้น ที่สำคัญก็คือ ผู้จัดการจะต้องเชื่อมั่น ว่าสิ่งที่สอนและแนะนำไปนั้นจะเป็นผลดี ถ้าไม่เชื่อมั่นเช่นนี้แล้ว พนักงานก็จะไม่มีความมั่นใจในผู้จัดการคนนั้นไต้
แว่นกันแดด

สวัสดิการของเรายังไม่ดีเท่าบริษัทอื่น

มีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับการรับคนเข้าทำงานใหม่ ที่มัก จะเสียใจภายหลังว่า "เขาไม่ดีอย่างที่คิด" "เขาไม่เก่งอย่างที่หวัง" - ทั้งนี้เพราะกระบวนการในการคัดเลือกคนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันไม่อาจ ตดสินได้แม่นยำเต็มที่
พนักงานใหม่จำนวนมาก เมื่อตอนสัมภาษณ์ก็รับปากรับคำได้
ทุกอย่าง
ทำงานเกินเวลาได้มั้ย-ได้ครับ
เงินเดือนตํ่ากว่ามาตรฐานมีปัญหาไหม - ไม่เป็นไรครับ
ออกต่างจังหวัดนานๆ จะมีปัญหากับครอบครัวไหม - ไม่มี
ปัญหาครับ
ห้องทำงานแคบไปหน่อยนะ - เรื่องเล็กครับ สวัสดิการของเรายังไม่ดีเท่าบริษัทอื่น - ไม่สำคัญครับ เรียกว่าสามารถจะรับได้ทุกอย่าง จนแทบจะไม่รับเงินเดือนเลย
ก็คงจะเอา ขอแต่เพียงให้1ด้ทำงานก็พอใจแว่นตากันแดด
ระยะทดลองงานสามเดือนนี่ เอาการเอางานที่สุดครับ ทำงาน
ยังกับพายุบุแคม เรียกว่าไม่ไล่ไม่อยากกลับบ้านกันทีเดียว
ทันทีที่ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำเท่านั้นแหละ
ลวดลายก็เริ่มแสดงออกตั้งแต่วันแรกที่ได้รับบรรจุทำงานเลย คนคนเดียวกัน
เพื่อนร่วมสถาบันศึกษาเก่าของผมรํ่ารัองจะจัดงานสังสรรค์ มาหลายปีแล้ว จนแล้วจนรอดก็ยังจัดไม่ได้สักที เพราะมัวแต่คิดและ "ว่าจะ" จัดกัน วันหนึ่งได้เจอเพื่อนในงานศพ เพื่อนก็ปรารภว่า อยากจะจัด ทำอย่างไรดีแว่นตา
ผมรีบเปิดปฏิทินดูวันเวลาที่สะดวกของผมแล้วกำหนดลงไปว่า เย็นวันที่เท่าไร วันอะไร เพื่อนผมตกลงด้วย แล้วก็ช่วยกันทำงาน ปรากฏว่าเป็นการชุมนุมร่นที่มีเพื่อนมามากที่สุดกว่าครั้งใด ๆ ที่ผ่านมา
งานมันเริ่มเดินตั้งแต่มีกำหนดวันที่แน่นอนครับ ถ้าไม่ได้ กำหนดวัน ปานนี้ก็ยังไม่ได้จัด กำหนดวันลงไปแล้วทุกอย่างก็จะตามมา ได้วันแล้วต้องหาสถานที่ ได้สถานที่แล้วด้องออกจดหมายเวียน ด้อง โทรศัพท์ตาม ต้องวางแผนว่าจะจัดงานวันนั้นอย่างไร สภาพบังคับให้ ทำงานมันเริ่มจากมีกำหนดวันที่แน่นอนนั่นเองแว่นกันแดด
มีหลายคนยังทำงานกนโดยไม่กำหนดวันเวลา คิดจะทำอะไร สักอย่างหนึ่งก็ได้แต่คิดได้แต่ฝ็นอยู่นั่นแล้วเมื่อไม่มีกำหนดเวลาก็ปล่อย เลยตามเลย ไม่เสร็จก็ไม่เป็นไร ไม่ทำก็ไม่เป็นไร ผลงานจึงเกิดไม่ได้
แม้แต่ในที่ประชุมขององค์การของบริษทของสมาคมหลายแห่ง ที่ผมไต้พบมา มีการเสนอแผนงานสวยหรูน่าสนใจมาก แต่ไม่บอกว่า จะทำเสร็จเมื่อไร แล้วในที่สุดงานนั้นก็ไม่ไต้ทำครับ
ผู้จัดการหรือประธานในที่ประชุมที่ทำงานเป็นเขาจัดตั้งคำถาม
แว่นกันแดด

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ตามที่ตน มุ่งหวัง



กรรมสยอว สนองกันถา!

00

ของเธอก็ล้วนแต่เป็นผู้มีฐานะดีพอทึ่จะพึ่งพาและฝากชีวิตจิ91ใจเอาไว้ กับใ^คคลตระกูลนIด้

จึงเป็นอันว่าจะยอมอยู่ ณ หมู่บ้านนี้ แล้วเตรียมตัวเดินทาง ไปแจ้งพ่อแม่ให้มาส่ขอนางสาวมะสิวรรณ (นามสมมติ) ตามที่ตน มุ่งหวัง แว่นตา

ขณะที่นายนิตย์ไปบอกพ่อแม่นั้น ฝายพ่อของนางสาว มะลิวรรณได้ปวยโดยกะทันหันและได้เสียชีวิตไป ยังคงเหลือแต่แม่ และนางสาวมะลิวรรณกับน้องสาวรวมอีกเป็น ๓ ชีวิต

เมื่อนายนิตย์นำพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ มาสู่ขอนางสาว มะลิวรรณตามที่ถูกที่ควร ข้างฝายแม่และหมู่ญาติก็ไม่ขัดข้อง จัดการ ตามประเพณวิวาห์มงคลให้ตามประสงค์ แว่นตากันแดด

นายนิตย์ได้แต่งงานกับนางสาวมะลิวรรณแล้ๆ^มุ่งมๅ^อดทน ต่อการประกอบอาชีพโดยไม่เห็นแก่ความรู้ที่รํ่าเรียนมา จะเป็นการท่านา ทำไร่ก็ดี อดทนกัดฟันต่อสู้เพื่อจะกอบกูฐานะความเป็นอยู่ของตนให้ดี ยิ่งๆ ขึ้น งานหนักก็เอางานเบาก็สู้ ไม่ยอมให้เวลาล่วงเลยไปโดยมิได้ ประโยชน์อะไร

ถึงคราวโรงเรียนปิดภาคเรียนชาๆบ้านเพื่อนฝูงออกค้ๅขๅยเข ออกค้าขาย มีเครื่องหวายต่างๆ ที่นอน เสื้อผ้า ๆลๆ

เขาเป็นผู้มีความขยันหมั่นเพียร งานหลวงมิให้ขาดงานราษฎร์ มิให้เสีย คบเพื่อนก็เลีอกคบแต่คนที่จะแนะนำประโยขนIห้

บุหรี่ สุรา การพนัน ไม่แตะต้อง เข้าว้ดปฏิบัติธรรม สร้างกุศล ผลบุญตามเยี่ยงอย่างอรียประเพณีของหมู่บ้าน แม่ยายและภรรยา

กรรมสขอว สชอ0กันตาI 0๕

ไรหนอเราจะได้นาง (เพียงแต่คิดอยู่ในใจของตนแต่ผู้เดียว ไม่สามารถ จะไปเปิดเผยให้ผู้อื่นทราบ)

อีกอย่างทรัพย์ซึ่งเป็นมรดกของแม่ยายที่ตายไปนั้น มีที่นา ประมาณ ๖๐ กว่าไร่ ที่อยู่อาศัยประมาณ ๘ ไร่ ที่สวนปลูกพึขไร่ประมาณ ๑๐๐ กว่าไร่ มีสิงปลูกสร้างอีกคือป้านที่อาศัย ฉางเก็บข้าวเปลือก สิง เหล่านี้หากเราได้น้องของเมียเอามาเป็นเมียอีก ทรัพย์มรดกก็จัก ไม่ต้องแบ่ง คงอยู่ในความปกครองของเราคนเดียว หากเราให้น้องเมีย ไปมีสามีเป็นคนอื่นนั้นบางทีอาจจะมาขัดใจกับเราอีกก็เป็นได้

นี่แหละคีอต้วตัณหาความทะเยอทะยานอยาก ดิ้นรนในวัตถุ ที่พอใจชวนให้รักใคร่ เมื่อได้แล้วก็หมกมุ่นอยู่ในวัตถุนั้น ที่ไม่ได้ ก็ชวนให้อยากใคร่นี้เป็นกามตัณหา แว่นกันแดด

ท่านให้พิจารณาคือความสันโดษยินดีในของทิ่มีอยู่ พอใจแต่ เฉพาะของๆ ตนทิ่มอยู่ หากทะยานเอาของผู้อื่นมาเป็นของตนเมื่อไม่ได้ ก็เป็นทุกข์

บังเอิญครั้งนั้นนางมะลิวรรณได้จ้างคนงานไปถางหญ้าที่ไร่ซึ่ง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๑๐ กิโลเมตร จึงบอกให้สามีของตนและ น้องสาวไปช่วยดูความเรียบร้อยของคนงานที่ตนจ้างไปนั้นว่าจะละเอียด ถี่ถ้วนหรือไม่ เพราะตนเองจ้างเป็นงานเหมาไม่ใช่เป็นรายวัน
แว่นกันแดด
นายนิตย์พร้อมด้วยนางสาวกัญนิกาขับรถกระบะคู่ชีพไปยังไร่ ตามค่าส่งของเมีย ในขณะขับรถไปนั้นนายนิตย์ก็ส่งจตคิดมโนภาพ ว่าน้องเมียก็คือเมียของเรา หากเราได้น้องเมียมาเป็นภรรยาอีก เรา จะมีความสุขจนหาสิ่งอันใดมาเปรียบมิได้จึงกล่าวขึ้แว่า

เกิดมาอย่างภาคภูมิเต็มที่



กรรมสยอง สชอวกันถา!

คอ

ผู้อื่นลัก

๓. กาเมสุ[มิจฉาจาร ห้ามมิให้ล่วงเกินในลูก พ่อ สามี ภรรยา ของท่านผู้อื่น

๔. ^สาวาท ห้ามมิให้กล่าวคำเท็จ คอคำไม่จริง ล่อลวงอำพราง ท่านผู้อึ่น

๕. สุราเมรย ห้ามมิให้ดื่มนํ้าเมา คือสุราและเมรัย อันเป็นเหตุ ที่ตั้3แห่งความประมาท

ศลทั้งห้าข้อนี้จะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ามนุสธรรม คือธรรมที่ทำ ให้เป็นมนุษย์ แว่นตา
^คคลทั้งหลายที่เกิดมานี้ต้องอาศัยประพฤติธรรมนี้จึงได้เกิด มาเป็นมนุษย์ ฉะนั้นเราระลึกนึกถึงคณของธรรมข้อนี้ด้วยการปฏิบัติ ตาม จึงจะได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่มีความกตัญญกตเวทีต่อคุณธรรมที่แต่ง ให้เราเกิดมาอย่างภาคภูมิเต็มที่

แต่ที่ได้เกิดมาแล้วกลบทำแต่ความชั่ว ทำตัวให้เลว ตกตํ่า ถลำ เข้าไปหาแต่สิงที่เป็นทุกขโทษมิได้ทำให้เป็นประโยชน์แก่คุณธรรมเลย ก็จะต้องได้รับผลของการกระทำนั้น ดังเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วเช่นเรื่องนี้ เป็นตัวอย่างซึ่งเป็นเรื่องจริง

นายนตย์ (นามสมมติ) เป็นคนมาจากถิ่นอื่น ภูมิลำเนาของเขา เกิดที่จังหวัดลพบุรี

เหตุทิ่มาอยู่ ณ หมู่บ้านนี้เพราะทางราชการสอบบรรจุครูในเขต จังหวัดนครราชสีมา เขาสอบได้คะแนนที่ดีเยี่ยมจึงมีสิทธึ้เลีอกโรงเรียน ตามใจชอบของตน เขาได้เลือกเอาโรงเรียน ณ หม่บ้านแห่งหนึ่ง

กรรมสยอง สนอวกัชถา!แว่นตากันแดด
๒๗

กิโลเมตร สาโรจน์ก็มิได้ระแวงประการใดไม่ คนโดยสารก็รู้จัก ที่จะไป ก็พอมีคนรู้จักและเคยไปเที่ยวมาแล้ว พูดง่ายๆ ว่าในเขตบ้านของตัวเอง ไม่รู้จะไปกลัวอะไร

แต่ขึ้นชื่อว่าโจรแล้วย่อมจะคิดแต่ได้ฝายเดียว ไม่คิดถึงเรื่อง ของผู้อื่น จะอย่างไรก็ต้องเอาให้ไดไว้ก่อน เรื่องอื่นๆ ไม่ยอมคิด ค่อยว่ากันทีหลัง

ออกจากตลาดก็วิ่งรถไปเรื่อย ผ่านบ้านบางนอนซึ่งเป็นบ้าน ของสาโรจน์เอง ผ่านบ้านนํ้าตกไปจนกระทั่งถึงทางแยกซ้ายมือ มิป้าย บอกว่าโรงเรียนบ้านหินช้าง รถก็เลี้ยวซ้ายเข้าโรงเรียนบ้านหินช้างก็ยัง ไม่มีเหตุการณ์อะไรผิดปกติ

ทันใดนั้นก็ได้มีชายอีกคนวิ่งพรวดออกมาจากริมปาชายคนนี้ คือเพื่อนร่วมปล้นของอรรณพนั่นเอง

ดังที่บอกแล้วว่าโจรต้องเห็นแก'ตัวเองก่อน อรรณพจึงระเบิด กระสุนใส่สาโรจน์ทันที แต่กระสุนไม่ถูกที่สำคัญให้ถึงกับตายทีเดียว สาโรจน์จึงล้มลงไปนอนครวญครางอยู่ที่พึ้น เพื่อนที่ร่วมปล้นสังให้ฆ่า ให้ตาย อรรณพก็ร้บทำตามทันทีโดยลากเข้าริมปา แว่นกันแดด

แต่แทนที่จะยิงซํ้าอรรณพกลับเสียดายลูกปืน เพราะปืนเป็น ปืนลูกซองสันมีกระสุนอยู่ ๒ นัด ยิงไปแล้ว ๑ นัด ยังอีกนัดบรรจุไว้ ในลำกล้อง จะยิงก็กลัวไม่มีลูกปืนไว้ป้องกันตัว จึงตัดสินใจจับกระบอก ปืนแล้วใช้ด้ามปินตีหัว

ทันใดนั้นจะเป็นด้วยกรรมหรีอความสะเพร่า ขอให้ท่านผู้อ่าน พิจารณากันเองเถิดครับแว่นกันแดด

หนึ่งอันเดียวกันเป็นกลุ่ม



กรรมสยอง สนอวกัชถา! ๐๒

เมื่อมาทำการสอนเด็ก ณโรงเรียนในหมู่ป้านนั้นแล้ว ก็มาพก อ^ที่ม้านพักครูพร้อมด้วยเพื่อนครูที่ยังโสด โดยห&)จากเลิกสอนเด็กแล้ว ก็เที่ยวเยี่ยมและวิสาสะกับเพื่อนป้านตามสภาพของคนที่มาอยู่ใหม่

นายนิตย์ มาทำการสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ ๓ ปีผ่านพ้นไป ความ สนิทสนมกับชาวป้านและเพื่อนฝูงแนบแน่นยิ่งขึ้น คณะครูและเด็ก นักเรียนต่างก็มีความรักใคร่สามัคคีกันยิ่งขึ้น ทั้งชาวป้านและครู และ เพื่อนฝูง แสดงความเป็นกันเองไม่เอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน มี กิจการทางโรงเรียนชาวป้านก็ช่วยจนเต็มความสามารถ ทางวดมีการ บำเพ็ญกุศลตามวาระต่างๆ ทางโรงเรียนและชาวป้านก็สนับสนุน

กลุ่มชาวป้านมีการพัฒนาทางโรงเรียนและทางวัดก็ไม่ทอดทิ้ง ถีอเอาเป็นธุระ อยู่กันด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นกลุ่ม

เป็นก้อนไม่แตกแยก จนหมู่บ้านนี้Iด้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่บานที่มี คณธรรมสูง

ฝ่ายพ่อแม่ของนายนิตย์ มีความประสงค์จะให้ลูกชายกลับ ไปทำการสอนในเขตจังหวัดลพ^รี เพราะเหตุว่าได้ตกลงกับหญิงสาว ทึ่จะหมายมั่แให้เป็นสะใภในอนาคต แต่ยังไม่ได้ตกลงในการหมั้แหมาย เป็นแต่เพียงการทาบทามกันเอาไว้ เพราะลูกชายยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะเอาอย่างไรกันแน่

นายนิตย์ทบทวนแนวความคิดของฝ่ายพ่อแม่ ทิ่จะให้ตัดสินใจ ว่าจะกลับภูมิลำเนาเดิมหรีอจะอยู่ป้านนี้ เพราะว่าได้มองหญิงคนหนึ่ง เอาไว้แล้ว ซึ่งเป็นผู้มีรูปร่างงามพอสมควร ทั้งกิริยามารยาทก็ดีจะพูดจา ปราศยก็ฉลาดหลักแหลม หลักฐานวงส์ตระกูลพ่อแม่และหมู่ญาติ แว่นตา

กรรมสยอว สIเอวกันถา! ๒๘

ปีนก็ระเบิดตูม กระสุนถูกบริเวณขาอรรณพเข้าอย่างจัง ส่วน เพื่อนโจรของอรรณพก็ได้ติดเครื่องรถหายออกไปแล้ว เพราะคิดว่า ตัวเองทำงานสำเร็จแล้วแว่นตากันแดด

มาคราวนี้ที่อรรณพเคยคิดว่าจะเดินกลับป้านทางลัด เพราะที่ ทำการปล้นห่างจากป้านประมาณครึ่งกิโลเมตรเท่านั้นเอง แต่เหตุการณ์ กลับผิดไปจากที่คิดเสียแล้ว จึงต้องจำใจเดินออกถนนใหญ่เพื่อรอ รถประจำทางไปหาหมอทำการรักษาต่อไปด้วยความเจ็บปวด

เหมือนก็'บเป็นกรรมชํ้าเติมหรึออย่างไรไม่ทราบได้ รถช่วงนั้น ขาดช่วงนาน เลึอดจากบาดแผลไหลรินจนกางเกงขายาวเปียกโชก จะรอรถประจำทางก็เสียเวลาไปอีกนานเท่าไรไม่แน่นอน จึงตัดสินใจ

จะโบกรถที่ผ่าน ตั้งใจว่าคันไหนมาก1บกคันนั้น

รถยนต์มาคันแรกก็ถูกอรรณพโบกทันที เจ้าของรถก็ช่างใจดี หชุดรถแล้วลงมาช่วยพยุงขึ้นรถนำส่งโรงพยาบาลทันทีแว่นกันแดด

แต่นั่นแหละครบ ที่ว่ากรรมซาเติมก็เพราะรถที่อรรณพโบกนั้น เป็นรถตำรวจนอกเครื่องแบบ เขาจึงถูกอายัดตัวที่โรงพยาบาล ต่อมา หลังจากสีบสวนจากพยานหลักฐานต่างๆ อรรณพจึงยอมรับสารภาพ ในสิงที่ตนกระทำในครั้งนั้นและยอมรับว่าเคยกระทำลักษณะเดียวกัน นี้มาแล้วไม่น้อยกว่า ๕๐ ครั้ง

จากเรื่องที่นำมาเล่าให้ฟังนี้ แมไม่ทราบชัดนักว่าเหตุที่สาโรจน์ ต้องมาถูกฆ่าตายอย่างนั้น เพราะเคยก่อเวรสร้างกรรมอย่างไรไว้กับใคร แต่สำหรับอรรณพแล้ว แมในครั้งนั้นการกระทำของเขาจะไม่มีใครรู้ ใครเห็นหรือสืบสาวราวเรื่องของเขาได้ แต่ก็มีเหตุนำพาให้เขาต้องไปแว่นกันแดด

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558

แว่นตา ชุดที่จะตัดรังสีอัลตราไวโอเลตและแสงสีฟ้าได้


มันสามารถติดตั้งจากด้านบนของแก้วที่ขายแว่นตากันแดดใหม่ที่จะตัด 99% ของรังสีอัลตราไวโอเลต

SUPLUS 17 พฤศจิกายนจากแว่นตากันแดด "Aiburera" ชุดที่จะตัดรังสีอัลตราไวโอเลตและแสงสีฟ้าได้รับการปล่อยตัวในช่วงแก้ว "Aiburera บวก" (ที่ 20 000 5380 ¥รวมภาษี)




"Aiburera บวก" สีดำ (20 000 5380 ภาษีเยนรวม)


สินค้าชนิดเดียวกันได้อย่างรวดเร็วนำไปใช้จากด้านบนของแว่นตา, แว่นตากันแดดที่ป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต ตามที่ บริษัท ฯ ในช่วงฤดู​​หนาวจากฤดูใบไม้ร่วงสำหรับระดับสูงของดวงอาทิตย์มาต่ำกว่าช่วงฤดู​​ร้อนที่จะเข้าสู่รังสีดวงอาทิตย์โดยตรงกับนักเรียนที่อ้างถึงเป็นเรื่องง่ายที่จะรู้สึกแสงจ้า "ผมต้องการที่จะใช้แว่นกันแดดเพื่อป้องกันแสงจ้า แต่ไม่ทำงานจากด้านบนของแก้วที่" ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อเสียงของผู้ใช้เช่นแก้ว

แม้จะมาจากด้านบนของแก้วเพื่อที่จะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเครียดได้รับการออกแบบโดยเน้นความพอดี กรรมสิทธิ์ "เบ็ด Fit ง่าย" (ในการออกแบบโปรแกรมการลงทะเบียน) เราตระหนักถึงความสะดวกสบายในแบบที่คุณจะหายไปหนึ่งแก้ว วัดเพื่อที่จะไม่รบกวนกรอบแว่นตาที่ใช้สิ่งที่เป็นเบามีความยืดหยุ่น




"Aiburera บวก" สีน้ำตาลสีดำ (20 000 5380 รวมภาษีเยน)


กรอบพนักงานรอบเพื่อสร้างความประทับใจที่อ่อนนุ่ม ด้านของการจัดการที่มีผลกระทบใบหน้าขนาดเล็กและมีผลบังคับใช้ลิฟท์ขึ้น เลนส์ในดวงตา Brera บวกเฉพาะมัลติฟังก์ชั่เลนส์สีฟ้าตัดยังตัด 99% ของรังสีอัลตราไวโอเลต




"Aiburera บวก" ลักษณะของเลนหลังจากที่สวมใส่





"Aiburera บวก" ภาพที่สวมใส่
แว่นตากันแดด

ฤดูร้อน 2008 แนวโน้มแว่นตากันแดด


ฤดูร้อน 2008 แนวโน้มแว่นตากันแดด

เราจะยังคงเป็นครั้งสุดท้ายในครั้งนี้ผมเขียนแว่นตากันแดดของบทความ แว่นกันแดดแม้ว่ามันจะเป็นหลักสูตรที่จะเลือกแว่นตากันแดดที่ดูดีบนใบหน้าของคุณ แต่มันก็ยังควรรวมแนวโน้มของฤดูกาล ดีในปีนี้แนวโน้มแว่นตากันแดดในช่วงฤดู​​ร้อน?

มีแนวโน้มในการสวมแว่นกันแดดคือบทความก่อนหน้านี้"จุดของแว่นตากันแดดวงเล็บเลือกดูดี"ในเราจะอธิบายวิธีการเลือกแว่นกันแดดที่มีลักษณะเย็น แว่นกันแดดปรารถนาดีที่สุดคือการเลือกผู้ที่ดูดีของตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่สิ่งที่คุณต้องการที่จะตระหนักถึงแนวโน้มของฤดูกาล ดังนั้นเวลานี้เราจะมาแนะนำแว่นตากันแดดของแนวโน้มปี 2008 บางคนคิดว่า Nante "มี? แนวโน้ม Nante ในแว่นตากันแดด" แต่มีแนวโน้มในการสวมแว่นกันแดด มากโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทุกปีรูปร่างและขนาดของกรอบที่คุณสามารถดูวัสดุที่มีคุณสมบัติในแนวโน้มของยุคเช่นสีของเลนส์

กรอบมือถือฟื้น

ขนาด Deca ของแว่นตากันแดดในปีนี้แนวโน้มยังคงเซลล์กรอบ ที่มีกรอบหนามันเป็นในหลาย ๆ กรณีของการออกแบบที่มีสถานะที่แข็งแกร่ง ภาพถ่าย: MODO EYEWEAR (ผลิตภัณฑ์อ้างอิง)
ผมอยากจะทราบแนวโน้มที่แว่นตากันแดดในปีนี้ก็เป็นกรอบมือถือโดยใช้วัสดุเช่นอะซิเตท แว่นตากันแดดมีหลักสองประเภทของกรอบโลหะโดยใช้วัสดุดังกล่าวเป็นกรอบมือถือและไทเทเนียม และกรอบมือถือที่ได้กลายเป็นแนวโน้มในปีนี้ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือความหนาแม้ผู้หลักขนาดที่ใหญ่ของกีฬาและเลนส์แว่นกันแดดขนาดใหญ่นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ใหญ่มากจะสะดวกสบายในการซ่อนครึ่งบนของใบหน้า หน้าต่อไปในการดำเนินการต่อไปผมจะแนะนำแนวโน้มของแว่นตากันแดดในปีนี้ [บทความล่าสุด] - จุดดูเย็นของแว่นตากันแดดต้องการ - ปมส่วนที่ 2 ของการผูกที่คุณควรรู้, เคล็ดลับจับผูกเลือกส่วนที่ 2
แว่นตากันแดด

แนะนำแว่นกันแดดปีนี้


แนะนำแว่นกันแดดปีนี้ BEST5

รอบคราวนี้ดวงอาทิตย์ยังมาเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในวันนี้ มันได้กลายเป็นฤดูที่คุณต้องการแว่นตากันแดด กับที่กล่าวว่าคำแนะนำของแว่นตากันแดดในตอนนี้เราจะมาแนะนำในรูปแบบนับถอยหลัง!
แสงแดดยังรู้สึกค่อนข้างรุนแรงในวันนี้ช่วงเวลาที่ได้รับฤดูใบไม้ผลิที่หายไปผิดปกติของลมแรง แม้แต่คนที่ไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันมันได้กลายเป็นเวลาที่ดีที่สุดของโอกาสที่จะใส่แว่นกันแดดที่ นับตั้งแต่ผมยังช่วยในการปรับปรุงโฉม, ทำไมไม่ลังเลที่จะพยายามที่จะท้าทาย นอกจากนี้คนที่มีอยู่แล้วการใช้แว่นกันแดดที่ควรพบว่ามันง่ายที่จะเปลี่ยนรูปแบบจากปกติหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิที่ กับที่กล่าวว่าผมอยากจะแนะนำแว่นตากันแดดที่แนะนำในขณะนี้ เราเลือกเวลานี้มันเป็นแบรนด์ใหม่ที่สามารถนำมาใช้สามารถเชื่อถือได้โดยไม่คำนึงถึงฤดูกาล แม้ในแง่ของแนวโน้มก็ควรจะสามารถที่จะยังเป็นที่ชื่นชอบยาว มันเป็นเพียงอัญมณียากที่จะพูดซึ่งจะดีกว่า แต่ให้ดูที่รูปแบบการนับถอยหลัง

# 5: กรอบคลาสสิกที่มีปัญญา


70,000 ¥ 8,750 (โอลิเวอร์โกลด์สมิ ธ / พริบโทร: 03-5775-7525) ภาพข่าว: อิชิอิ Yukihisa

และเพื่อปัดเป่าภาพของแว่นตากันแดดที่เรียกว่าเป็นเลนส์แว่นตาที่มีการวางกรอบแสงสีคลาสสิกมันเป็นข้อเสนอที่จะ Miseyo สติปัญญา เลือกยี่ห้อนี้โอลิเวอร์โกลด์สมิ ธ (โอลิเวอร์โกลด์สมิ ธ ) ในตำนานของโลกแบรนด์โดยพายุในปี 1960 และปี 1970 ยังเป็นที่รู้จักโดย Audrey Hepburn เกรซเคลลี่และและไมเคิลเคนและปีเตอร์รักผู้ขาย ความสง่างามที่ไร้กาลเวลาที่คุณมีความสนใจคนดัง แต่ก็ฟื้นขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ความงามของการออกแบบที่ได้รับการสนับสนุนโดยนักแสดงที่ไม่ได้จางหายไปในขณะนี้ยังคง นอกจากนี้ภาพเดียวสายแฟชั่นกูตูร์โดยช่างฝีมือที่ไม่ได้เหลือเพียงคนเดียวในอังกฤษที่บ้าน ศักดิ์ศรีที่ทำด้วยมือโดยได้ลอย มีความรู้สึกของปริมาณในเฟรมกระดองเต่าคลาสสิกคือมีบุคลิกที่อาศัยอยู่เช่นวัดสามมิติ เนื่องจากเลนส์มีขนาดเล็กก็เป็นปัญญาที่เรายังรู้สึก โอลิเวอร์โกลด์สมิ ธ (โอลิเวอร์โกลด์สมิ ธ )ในเพราะยังมีสายสำเร็จรูปที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นก็มีโอกาสที่จะเก็บในอนาคตความสนใจมากยิ่งขึ้น

# 4: สดชื่นแว่นตากันแดดสีฟ้า


30,000 ¥ 9,900 (มีดและรวม / Optical เปลเทย์เลอร์โทร: 03-6418-0577) ภาพข่าว: อิชิอิ Yukihisa

แว่นตากันแดดป่ายังจะอยู่ในความประทับใจที่สดใหม่อย่างเป็นธรรมโดยเพียงแค่การเลือกกรอบมือถือสีฟ้านอกจากนี้แม้เลือกเลนส์ใหญ่ก็ไม่ได้สะท้อนให้เห็นในมากเกินไป และแว่นตากันแดดแบบครบวงจรที่มีสีฟ้าจนถึงเลนส์ว่าเวลานี้เลือก ตั้งแต่มือถือนอกจากนี้ยังมีความรู้สึกของความโปร่งใสอารมณ์สดที่มีการเติบโตมากขึ้น นอกจากนี้สะพานหนาและวัดที่มีความแข็งแรงยังรู้สึกในความรู้สึกของที่ทำด้วยมือที่มีคุณภาพ แบรนด์ที่เปิดตัวในปี 1969 CUTLER และมวลรวม (Gross และมีด) และอุทธรณ์สากลเกินยุคนั้นมันเป็นลักษณะที่ผสมผสานการออกแบบความคิดสร้างสรรค์ ข้อเสนอของการออกแบบที่คลาสสิกความรู้สึกโหมดเต็มแม้ในขณะที่คอลเลกชันพื้นฐานแฟชั่นและภาพยนตร์แม้ในบุคคลที่เพลงได้กลายเป็นเหตุผลสำหรับแฟน ๆ จำนวนมาก หน้าถัดไปในเราจะมาแนะนำตำแหน่งที่สามและตำแหน่งที่สองแว่นตากันแดด

แว่นตาขอบสีดำแฉอีกครั้ง


แว่นตาขอบสีดำแฉอีกครั้ง

ในต้นยุค 80 ของแฟชั่นยุค 90 ที่คุณสามารถมีการฟื้นตัว แต่จะเห็นการเคลื่อนไหวของความคิดถึงยุคเดียวกันยังกระแสแฟชั่นในแก้วของแนวโน้มเช่นแว่นตากันแดด

ผลของแก้วให้ลักษณะที่ดีมาก ในคนที่มีการสวมใส่แว่นตาเมื่อคุณไม่สามารถจำชื่อของคุณและฉันคิดว่าคุณสามารถฉายา Nante โดยไม่ได้ตั้งใจ "คนของแว่นตาเหล่านั้น." ชื่อให้ประทับใจคนเดียวสวมแว่นตาแม้ว่าคุณจะจำไม่ได้ว่าการแสดงผลอื่น ๆ ที่เป็นสิ่งที่ยังคงเรียบร้อย และเช่นแม้ในขณะที่นักสืบปลอมตัวในโทรทัศน์แก้วมักจะใช้เป็นเสา


เรื่องแฉในแก้วขอบสีดำ!


ตอนนี้ความสนใจของคุณต้องการแว่นตาเป็นที่เรียบง่ายของกรอบสีดำนี้ เป็นรายการแฟชั่นที่ขาดไม่ได้ของเด็กผู้ชายที่กินพืชเป็นอาหาร! Abahouse แก้ว¥ 7,350 / Abahouse คำสุดท้ายฮาราจูกุ) ภาพ: Yukihisa อิชิ (mmblue)
จากความประทับใจแรกเป็นหนึ่งในแก้วที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนไปที่ภาพของบุคลิกภาพ แต่แว่นตา = Geek ภาพที่มีความแข็งแรงมันเป็นแว่นตาที่ไม่ได้รับการบันทึกไว้ในรูปแบบที่ดี แต่ก็ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในรายการแฟชั่นในปีที่ผ่านมาในช่วงความบ้าคลั่ง! Frameless กรอบน้ำหนักเบาโดยใช้วิศวกรรมล่าสุดยังรวมถึงการออกแบบป๊อปของกรอบแว่นตาแฟชั่นและยังยังร่วมกับนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ได้รับการกระจายความเสี่ยงแบรนด์ได้เข้าแก๊งตลาดแว่นตาจากตลาดแว่นตากันแดดก็มีช่วงกว้างของทางเลือกในโหมดของแว่นกันแดด ขณะเดียวกันก็ต้องการตอนนี้กล้าที่จะให้ความสนใจ, แว่นตาเส้นขอบสีดำ การพูดของแก้วกรอบขนาดใหญ่สีดำจำได้ว่าตัวละครของซูเปอร์แมน ก่อนที่จะปลอมตัวพระเอกมันเป็นรายการปกติในช่วงเวลาของการปรากฏเงินเดือนร้ายแรง มันเป็นแก้วขอบสีดำสำหรับความรู้สึกคิดถึงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ตอนนี้ในเมืองรวมทั้งนิวยอร์กได้รับการมุ่งเน้นเป็นรายการที่ทันสมัย หน้าถัดไปในมันเข้ามาใกล้ความลึกลับของแว่นตาขอบสีดำการฟื้นคืนพระชนม์ [บทความล่าสุด] - ดูพื้นฐานพื้นฐานของการเลือก - รองเท้าขับรถที่จะสวมใส่ด้วยเท้าเปล่า, กางเกงยีนส์ที่คุณต้องการที่จะรวมอยู่ในตอนนี้มือตรง!แว่นกันแดด

แว่นตากันแดดน้ำตาที่น่าสนใจ


แว่นตากันแดดน้ำตาที่น่าสนใจ
การพูดของรายการที่สำคัญในช่วงฤดู​​ร้อน, แว่นตากันแดด ก่อนหน้านี้จะได้รับไม่เพียงใช้ที่รีสอร์ทเช่นชายหาดเป็นหนุ่มเมืองอยู่ในขณะนี้เป็นที่ยอมรับเป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัย​​ก็มีเพิ่มขึ้นมากยิ่งขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากการที่มีความถี่สูง ถ้าคุณกำลังใช้ในชีวิตประจำวันก็คือสิ่งที่ทุกปีเป็นแว่นตากันแดดใหม่ต้องการคุณจะต้องการซื้อสินค้าหนังสติ๊กทดแทน




โกงจะได้พบกับแว่นตากันแดดที่ชื่นชอบของพวกเขาเป็นสิ่งที่ไม่มากภาพ: Yukihisa อิชิ (mmblue)
ทำให้แว่นกันแดดสไตล์ของตัวเองมันยังเป็นจริงในหลาย ๆ แต่เมื่อพวกเขารู้จักและชื่นชอบและยังคงสิ่งบางอย่างมันจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของตัวเองมันได้กลายเป็นรูปแบบ ไม่รั่วไหลเป็นตัวอย่าง, แว่นตากันแดดนอกจากนี้ยังอาจจะเป็นสิ่งที่สร้างรูปแบบของตัวเองเช่นนั้น การแสดงผลของหน้าของแว่นตากันแดดที่คุณมีที่แตกต่างกันมากโดยรูปทรงและสีของมันคนไล่แพร่ระบาดนอกจากนี้ยังพบแว่นตากันแดดของสไตล์ที่ชื่นชอบดูเหมือนว่าไม่มีความสัมพันธ์ แม้ว่าที่ผ่านมานอกจากนี้ยังมีคู่มือพยายามมากกันแดดตอนนี้เรารักเพียง แต่รูปทรงของแว่นตากันแดดที่มีประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา มันเป็นแว่นตากันแดดหยดน้ำตา เมื่อเร็ว ๆ นี้แว่นตากันแดด Teardrop ย้อนยุคบูมได้รับความสนใจอีกครั้งในช่วงหลายผมเห็นมีบุคคลที่มี แต่ก่อนหน้านี้เป็นที่ขาดหายไปหยดน้ำตาที่เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ว่าจะมีภาพของ Kowaomote เป็นสิ่งที่มันมักจะกล่าวมองกลัว แต่จากเวลากับตัวเองและผมก็รู้สึกว่าพอดีอย่างหยดน้ำตาที่ดีที่สุดทั้งหมดเมื่อคุณซื้อแว่นกันแดดคือหยดน้ำตา ตอนนี้คนรอบแม้ว่าคุ้นเคยนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้ว่ามันเป็นสไตล์ของฉันไม่มีใครไม่พูดอะไร หน้าถัดไปในเราจะอธิบายเสน่ห์ของหยดน้ำตา [บทความล่าสุด],การใช้งานที่ถูกต้องของเสื้อคลุมอาบน้ำหรือไม่? - ฤดูฝนของจุดของการเลือกแจ็คเก็ต - พิมพ์ผ่าตัดชุดถังด้านบนอีกแว่นตากันแดด

คำหลักแว่นกันแดดสำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน


คำหลักแว่นกันแดดสำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนย้อนยุคทางปัญญา

รายการแว่นกันแดดที่จะใช้งานในขณะนี้และในช่วงฤดู​​ร้อน การระบาดของโรคในแว่นกันแดดไม่ได้เป็นความคิดที่มักจะเป็น แต่ความจริงก็คือว่ามีแนวโน้มน้อยทุกฤดูกาล เวลานี้ต้นไม้ที่ฉันต้องการที่จะมีความรู้เมื่อคุณซื้อแว่นกันแดดในปีนี้ - และแล้วคำแนะนำ


แสงแดดจะกลายเป็นที่แข็งแกร่งอารมณ์ตามฤดูกาลคุณต้องการที่จะออกไปมากกว่าแว่นตากันแดดมา เหตุผลสำหรับการใช้แว่นกันแดดที่ผมคิดว่ามีแต่ละคน ในฐานะที่เป็นเหตุผลในทางปฏิบัติการป้องกันรังสียูวีและป้องกันเกสรคุณจะชอบมาตรการแสงสะท้อนเมื่อขับรถ อย่างไรก็ตามนอกเหนือแว่นตากันแดดคือสิ่งที่คุณต้องการที่จะให้ไปเห็นยังคงเป็นรายการแฟชั่น ดังนั้นถ้าคุณทำให้แว่นตากันแดดเป็นรายการแฟชั่นสิ่งที่จะสงสัยถ้าคุณเลือกที่ไม่สวมแว่นกันแดด

คิดถึงแนวโน้มสไตล์ย้อนยุคแว่นตากันแดดถ้ามีบางรูปแบบคงที่ แต่มักจะถือว่าไม่ได้ที่จะเป็นอิสระจากอินเทรนด์มากในความเป็นจริงมีความนิยมในแว่นตากันแดด รูปร่างและสีวัสดุเช่นผมจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละฤดูกาล คำแนะนำของแว่นตากันแดดที่คุณต้องการเพื่อให้สอดคล้องไปในฤดูใบไม้ผลิปีนี้และฤดูร้อน ครั้งแรกของทั้งหมดย้อนยุคคำแรก นี่คือแว่นตากันแดดของแนวโน้มของการไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าจะยังคงที่จะดำเนินการในปีนี้ ในบรรดารูปทรงของแว่นตาย้อนยุคฤดูกาลนี้มันเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องการที่จะขอแนะนำให้ไปเวลลิงตันเป็นประเภท





เวลลิงตันของกรอบมือถือสีเทาความรู้สึกของความโปร่งใสในการแสดงผลที่เย็นโดยการจับคู่เลนส์สีเทาสีที่คล้ายกัน เกลือของแว่นตากันแดด¥ 28,350 (อีวานโทร: 03-5413-3560) ภาพข่าว: โยโกะ Junmaru (CRACKER สตูดิโอ), จัดแต่งทรงผม: Shibayama Yoheiในเวลลิงตันมีหลายประเภทผมต้องการที่คิดว่าไม่น่าที่จะดูทางปัญญา แล้วสิ่งต่อไปที่จะแสดงให้เย็น เพราะนี่คือเวลลิงตันของรูปร่างเพราะมันมีแนวโน้มที่จะ Yabottaku ดังนั้นภาพย้อนยุคที่มีความแข็งแรง หรือได้กลายเป็นเซลล์สีเทาค่อนข้างเป็นกึ่งโปร่งใสสีก็เป็นไปได้ที่จะรวมกันสีของเซลล์และเลนส์ในสีที่คล้ายกันจะมีลักษณะที่ชาญฉลาดและเย็น ในหน้าถัดไปเราจะอธิบายคำหลักของฤดูใบไม้ผลิในปีนี้และแว่นตากันแดดในช่วงฤดูร้อนต้องการแว่นกันแดด

รายการแฟชั่นที่คุณต้องการถือครอง



เทศกาลฤดูร้อนของคลาสสิก! รายการแฟชั่นที่คุณต้องการถือครองแม้กระทั่งสำหรับผู้เริ่มต้น

ในปีที่ผ่านมาเทศกาลกลางแจ้งที่จะแสดงจุดสุดยอด คนเลี้ยงที่มีในแฟชั่นใด ๆ ฉันสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการจัดงานเทศกาล ในขณะที่การปรับจังหวะเพลงสบายนอกความรู้สึกของการเปิดที่มันแช่อยู่ในอารมณ์ที่จะพยายามที่จะสำรวจสิ่งที่ชนิดของรสชาติของเครื่องแต่งกายเป็นสิ่งที่ดี



เฟสแฟชั่นหลัก


การพูดของเทศกาลฤดูร้อนแตกต่างจากบ้านที่อาศัยอยู่ตามปกติและไนท์คลับเพราะขนาดยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่มุมมองระดับทั้งหมดมีมักจะยังเป็นทุกข์หรือควรฉันได้อะไรจากระยะเตรียมความพร้อม
พื้นฐานเพราะมีหลายเหตุการณ์ที่จะจัดขึ้นเป็นงานเทศกาลกลางแจ้งหรือชุดว่องไวตามมาตรการหยุดความร้อนและแดดเผารวมทั้งสินค้าเช่นยาขับไล่แมลงหุ้นรายการที่สำคัญเมื่อคุณไปพักผ่อนกลางแจ้ง คุณควรจะไป แต่เวลานี้เรามีความตระหนักในรายการอินเทรนด์มากขึ้นผู้ที่ต้องการที่จะสนุกกับเทศกาลที่จะตระหนักถึงรายการที่ทันสมัยในแฟชั่น ดนตรีและแฟชั่นเป็นอย่างมากที่เข้ากันได้กับดีฉันคิดว่าฉันต้องการที่จะแนะนำบางอย่างที่มีต่อความรู้สึกดีต้องการที่จะไปคนแม้กระทั่งสำหรับผู้เริ่มต้น

หมวกซาฟารี

มาตรการความร้อนเป็นหมวกที่ช่วยป้องกันผิวไหม้นี้หมายความว่าข้อกำหนดเฟสหมวกซาฟารีจะแนะนำ ความแตกต่างหมวกสามัญและเป็นความรู้สึกที่แข็งแกร่งกระแสหรือไม่ต้องการความรู้สึกมันเป็นที่สมบูรณ์แบบสำหรับสินค้าแฟชั่นกลางแจ้ง เพราะถ้ามีรูปแบบมีลักษณะที่ทันสมัย​​มากขึ้นก็จะเป็นแบบที่ดีกับเสื้อยืดธรรมดา ตั้งแต่ผู้รักเสียงเพลงมีคนจำนวนมากที่น่าประหลาดใจที่ต้องการหมวกเพื่อพยายามที่จะเลือกอาหารจานโปรดของพวกเขา



เครื่องหลังของนักไต่เขา

และเฟสที่ดีของการทำงานร่วมกันก็สามารถทำหน้าที่ว่องไวเป็นทางเลือกให้สิ่งที่มีน้ำหนักเบา วัตถุหนักคุณสามารถฝากเงินอย่างใดอย่างหนึ่งมาวางไว้ในของมีค่าแสง daypack ถ้ามีเต็นท์ซึ่งเป็นสิ่งที่สะดวกในการใช้มือทั้งสองข้าง การออกแบบยังได้ยิน แ​​ต่อาจจะมาในสะดวกที่ดีขึ้นของมันและการทำงานกลายเป็นเทศกาลกลางแจ้ง และ JanSport เพราะ THRASHER กระเป๋าเป้สะพายหลังที่อุดมไปด้วยความเหมาะสมและแฟชั่นก็จะแนะนำสำหรับคนที่จะนำกระเป๋าเดินทางในเฟส



แว่นกันแดด

ในแสงแดดมีความแข็งแรงแสงอัลตราไวโอเลตที่จะเปียกโชกแม้​​เทศกาลกลางแจ้ง, แว่นตากันแดดจะต้อง ในปีที่ผ่าน nunettes ของบูมในงานเทศกาลกลางแจ้งขนาดใหญ่รอบต่างประเทศจากแบรนด์ปารีส ในปีสุดท้ายของ ULTRA ญี่ปุ่นเช่นการทำงานร่วมกันได้อย่างรวดเร็วซานจะขายออกมันเป็นที่นิยมที่ดี นอกจากนี้ซามูไรญี่ปุ่นและเจลีกนอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของคนที่จะซื่อสัตย์กับศูนย์กลางของความบันเทิงที่ ถนนหลวง, แว่นตากันแดด Ray-Ban นอกจากนี้ยังมียอดเยี่ยมในการทำงานที่เรียบง่ายและ แว่นกันแดดสีขาวเสื้อยืดคอวีเพราะมันเป็นกระแสหลักแขวนก็จะเป็นสิ่งจำเป็นในการจัดงานเทศกาลเป็นรายการที่ทันสมัย



รองเท้าผ้าใบ

รองเท้าผ้าใบเสารายการที่จะเทศกาลกลางแจ้ง เพราะนอกของวิธีการเล่นและโดยทั่วไปมันเป็นกันว่องไวคือมันยังมีสติเกินไปของความเย็นของรัฐใกล้กับรองเท้าแตะเท้าเปล่าไม่สามารถจริงๆแนะนำ การเสื่อมสภาพและสภาพอากาศที่สูงชันตั้งแต่ในสิ่งที่ลำบากเช่นแมลงกัดรองเท้าผ้าใบครอบคลุมเท้าเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้แน่นอนเพราะยังมีสิ่งดังกล่าวยังสามารถสูงในการเป็นเรื่องง่ายที่จะเป็นและการเคลื่อนไหวที่กลางแจ้งรองเท้ากีฬาเช่น crocs และ Teva ก็จะแนะนำให้พยายามที่จะเลือกในการรับผิดชอบตัวเองหลังจากที่
แว่นตากันแดด


แว่นกันแดดและดวงอาทิตย์และแสงสะท้อนจากเมือง

แว่นกันแดดและดวงอาทิตย์และแสงสะท้อนจากเมืองตาเพื่อป้องกันแว่นตาเป็น
ข้อมูลอย่างย่อ

ส่วนใหญ่ในสีดำมีเลนส์ แต่ผู้ที่ทำโดยเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปจากภายนอกแสงเครื่องปิดกั้นการทำงานกับแว่นตาทั่วไปและนิ้วน้ำส้มสายชู (สีเป็นสีดำหรือไม่กรณีแต่ใกล้เคียงกับสีโปร่งใสแก้ววันที่อาจจะเรียกว่า) นอกประเทศเช่นในแสงแดดพื้นที่ที่มีความแข็งแรงและอื่นๆตาของการปกป้องสุขภาพตาจากลักษณะที่ไม่คำนึงถึงเพศหรืออายุมันถูกสวมใส่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลียในพื้นที่เช่นเช่นโรงเรียนเด็กยังเข้าร่วมกับแว่นกันแดดที่สวมใส่ เบสบอลรวมทั้งกีฬาในเกมวันที่เกมในกรณีของผู้เล่นที่จะมีส่วนร่วมในแสงแดดในการเล่นมีสิ่งที่จะสวมใส่เพื่อไม่ให้รบกวน

ในการใช้งานอื่น ๆ นอกเหนือจากข้างต้นตามักจะใช้ในการซ่อนแหล่งที่มาหรือหน้ายูผู้เชี่ยวชาญและตาพิการที่จะเป็นอันตรายต่อที่คุณรู้ว่าเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บบางครั้งการสวมใส่ นอกจากนี้แว่นตาสีดำ (สีแก้วโดย) สายของสายตาในการที่จะทำให้รุนแรงขึ้นที่รู้จักกันและการแสดงออกแว่นตากันแดดอาจต้องการที่จะสวมใส่ที่นี่ลูกตียามของสมาชิกที่สำคัญDIGAจะได้รับการรู้จักกันทั่ว
ความรู้เกี่ยวกับบังเอิญ
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจผิด แต่เป็นสีที่เป็นสีเข้มแสง (คนสีม่วงสายนอก) ผลที่ได้คือไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงที่จะปิดแต่สีเป็นสีดำถ้าคุณทำไม่ได้, นักเรียนเปิดในมุมมองที่เป็นสีเข้มแว่นตาจากช่องว่างและใบหน้าสีม่วงมีข้อเสียยังสามารถใส่สายนอก
บ่อDIGA เหนือดินแว่นตากันแดดที่คุณสวมใส่นอกเหนือไปจากสถานการณ์ดังกล่าวแสงแดดแห่งประเทศไทยและพาช้างกับคนที่ทุ่มเทให้กล้องของแฟลชของไฟส่องสว่างแสงอยู่ในลำดับเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่บดบังการมองเห็นใน ดวงตาเป็นแสงสะท้อนความปลอดภัยที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ไม่ไถมันไม่ได้หมายความว่า
สีดำมีแว่นตากันแดดเพื่อให้เป็นที่รู้จักกันโดยให้ข่มขู่เมื่อคุณสวมใส่ในการสร้างสรรค์ผลงานเช่นมาเฟียและเสื้อผ้าสีดำ(หลักกรณีของบุคคลหลักของตัวตน窺คนอาจจะท้อง) มีแนวโน้มที่จะชอบรับการสนับสนุนจากคุณใส่ ซึ่ง แต่เดิมฟองที่จะมีชีวิตยากูซ่าหรือคนร้ายน่าจะมาจากความจริงที่ว่าเจ้าหน้าที่ที่มีการสวมใส่ได้เป็นอย่างดี
แว่นตากันแดด

ใส่แว่นตาเล่นดนตรี


มิยาโกะโรงเรียนมัธยมเวทีกับเธอว่าคุณกำลังทุกข์ทรมานนักร้องใน .​​.. แว่นตากันแดดทุกคิดผมคิดว่าเพียงคนเดียวมันจะเป็นที่น่าขยะแขยง



เกรดสามที่ร้องเพลงในแว่นตากันแดดทุกคิด class = มิยาโกะเสนอโรงเรียนมัธยม

 จังหวัดมิยาโกะโรงเรียนมัธยมใน Miyakojima จังหวัดโอกินาวา ในเทศกาลนักร้องที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วการเรียนของนักเรียน 3 ปีร้องเพลงใน "ทุกคนแว่นตากันแดดรูป" มันไม่ได้หมายความว่าผมต้องการที่จะนำกำลังมองหาชั้นมันจะกลายเป็นความไวต่อแสงในอาการที่สามารถมองเห็นได้เป็นปฏิกิริยาด้านข้างของปากมดลูก (เค) วัคซีนมะเร็งมีแว่นตากันแดดเพื่อนไม่ได้แยก "เพียงคนเดียวที่สวมแว่นกันแดดคนที่ผมคิดว่ามันจะน่าขยะแขยง." เพื่อที่จะยืนอยู่บนเวทีด้วยกันเพื่อนร่วมชั้นได้ตระหนักเสนอ [ลักษณะภาพถ่าย] นอกจากนี้ยังมีนักเรียนชายที่มีความสามารถในการวาดหัวเราะยูทากะโอซากิเตเนต์ รัฐของเทศกาลคณะนักร้องประสานเสียงร้องเพลงในการสวมใส่แว่นตากันแดด 35 คนทุกคน


และร้องเพลง "15 คืน"

 วันที่ 25 กันยายนเทศกาลร้องมิยาโกะโรงเรียนมัธยมที่จัดขึ้นในโรงละครเทศบาล Matida ของ Miyakojima 35 คนชั้นหนึ่งบนเวทีในการสวมใส่แว่นตากันแดดผมก็ร้องเพลง "15 คืนของ" ยูทากะโอซากิ ไม่เพียง แต่จะดูนอกจากนี้ยังมีความเป็นผู้นำการปฏิบัติงานของเด็ก ๆ ที่จะพูดคุยเกี่ยวกับการพูดโดยการเลียนแบบโอซากิสถานที่ได้รับการยก  สาว ๆ ที่กำลังทุกข์ทรมานจากการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกการโพสต์เล่าว่า "การร้องเพลงทุกคนก็สนุกสุด ๆ . ความทรงจำที่สนุกเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้."


หลังจากการฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก

 นักเรียนฉีดวัคซีนวัคซีนมะเร็งปากมดลูกในปี 2011 และเป็นปีที่สองระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ค่อยๆเริ่มปรากฏให้เห็นที่ไม่ธรรมดาเช่นปวดศีรษะและง่วงและตั้งแต่จุดเริ่มต้นของโรงเรียนมัธยมทรุดตัวลงเช่นอาการชาของแขนขาจะได้รับการเพิ่มขึ้นที่จะนำไปโรงพยาบาล  การจมน้ำเป็นสาเหตุของ over-หายใจในสระว่ายน้ำของค่าเล่าเรียนหรือหยุดหายใจคุณจะสูญเสียหลังจากการปฏิบัติของการแข่งขันบนท้องถนนที่มีสติตามมาด้วยอาการชักเป็น นอกจากนี้ยังมีสุขภาพที่ไม่ดีและรักษาในโรงพยาบาลยากที่จะไม่เข้าร่วมกับโรงเรียนในขณะนี้มักจะใช้จ่ายยังสามารถที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนในโรงพยาบาล ก็จะกลายเป็นความไวต่อแสงและไม่ปล่อยให้ไปแม้แต่แว่นตากันแดดที่โรงเรียน  นอกจากนี้ยังสังเกตเห็นเป็นเพียงในปีนี้ในเดือนมกราคมกว่าสามปีจากการฉีดวัคซีน ผมเคยเห็นรายการข่าวโทรทัศน์ที่จะแนะนำปฏิกิริยาข้างเคียงของวัคซีนที่ถูกเรียก

หลังจากที่โรงเรียนข้อเสนอแนะจากนักเรียน

 ทุกปีในมิยาโกะโรงเรียนมัธยมเทศกาลกีฬาเทศกาลวัฒนธรรมได้ถูกจัดขึ้นเพื่อให้คนใดคนหนึ่งของเทศกาลคณะนักร้องประสานเสียง เทศกาลนักร้องประสานเสียงของปีในปีนี้ ในขั้นต้นที่สาว ๆ กำลังจะขาดผมมีส่วนร่วมจากการปฏิบัติได้รับเชิญให้เพื่อนร่วมชั้น  หลังจากเสร็จสิ้นการโรงเรียนหลังการปฏิบัติเมื่อรั่วไหลว่า "Do จะไม่ต้องการที่จะออกจากการผลิตในแว่นตากันแดด" นักเรียนที่อีกต่อไปกับ "ดีทุกคนเป็นสิ่งที่ดีไม่ได้คุณได้รับในแว่นตากันแดด" ขาดเสียงและ นักเรียนยัง "เช่นเดียวกับมันเพื่อให้ตรงกับบรรยากาศของเพลง" รอบแล้วเราก็ตอบว่า  แต่สาวลังเล "ชุดบางคนควรจะไม่ต้องการที่จะสวมแว่นตากันแดด. และไม่ต้องซื้อผู้ที่ไม่ได้มี. ทำไม่ได้ไม่มีเหตุผลสำหรับฉัน." เมื่อคุณปล่อยเพื่อให้เพื่อน ๆ บอกให้ผมกลับมาด้วยวิธีนี้ และ "ผมสบายดี. เทศกาลร้องเพลงอย่าง" เพราะฉันทำดีก็คือ "ทำเมื่อคุณเสร็จสิ้นการ"  ในการตอบนี้ครูหญิงของครูอยู่ที่ประมาณสถานการณ์ที่อธิบายไว้ในมหาวิทยาลัย "แม้ผมที่มีความสามารถที่จะวาดในการปฏิบัตินี้เท่านั้น. นักเรียนหญิงยังถูกย้ายและแว่นตากันแดดจะทุกอย่างโดยไม่ได้หมายความว่ามีนักเรียน. ผู้นำ แต่เป็นนักศึกษาที่ได้รับความคิดที่จะเชื่องและมีการเจริญเติบโตอย่างมั่นคง มันเป็น "แว่นกันแดด

เปิดตัวแว่นตากันแดดกล้องขนาดกระทัดรัด


Sanko เปิดตัวแว่นตากันแดดกล้องขนาดกระทัดรัดพร้อมกับความรู้สึกไม่สบายเกินไปชื่อของ

Sanko ได้เปิดตัวแว่นตากันแดดพร้อมกล้องขนาดเล็กระหว่างเลนส์ ภูมิทัศน์ของซากที่พบในตาสามารถนำมากับวิดีโอและภาพนิ่ง



 Sanko คือเพิ่มประเภทแว่นกันแดดในกล้องแว่นตาชนิด "Mita แก้วแม่" ชุด บริษัท เริ่มที่จะขายใน "Sanko Reamono ร้าน" ในการดำเนินงาน ราคานี้เป็นราคา¥ 7,980 (รวมภาษี)
การติดตั้งกล้องขนาดเล็ก "Mita แว่นตากันแดดแม่"

 "แว่นตากันแดด Mita แม่" แต่เลนส์แว่นตากันแดดเป็นอุปกรณ์ที่มีกล้อง 2 มมขนาดกระทัดรัดไปส่วนกรอบระหว่างเลนส์ เลนส์สำหรับการสะท้อนแสงแบบถูกนำมาใช้สีทอง แม้ว่าคุณจะใช้ตัวอย่างเช่นวิ่งและขี่จักรยานได้กลายเป็นการออกแบบที่มีความรู้สึกไม่สบายไม่มี
การออกแบบที่มีความรู้สึกไม่สบายเป็นแว่นตากันแดดไม่

 ด้วยสองปุ่มบนกรอบด้านซ้ายด้านบนคุณสามารถถ่ายภาพที่เกิดเหตุที่แพร่กระจายในด้านหน้าของดวงตาในแต่ละรูปแบบ JPG ของภาพยังคงเป็น (4032 × 3024 พิกเซล) หรือรูปแบบ AVI วิดีโอ (1920 × 1080 พิกเซล) บันทึกข้อมูลที่สามารถจัดเก็บไว้ใน microSD ตัวเลือก (ถึงไบต์ 32G แนะนำ Class10) วิดีโอ MJPG ตัวแปลงสัญญาณอัตราเฟรมเป็น 20 ~ 30fps
ที่แนะนำเช่นวิ่งออกกำลังกายและขี่จักรยาน

 ขนาดลำตัว 187 (กว้าง) × 43 (สูง) × 142 (ลึก) มิลลิเมตรและน้ำหนัก 32 กรัมของ ความจุของแบตเตอรี่ของ 300mAh ก็จะคิดค่าบริการสาย USBแว่นตากันแดด

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

คอมพิวเตอร์และวิสัยทัศน์


คอมพิวเตอร์และวิสัยทัศน์




วันนี้คอมพิวเตอร์ที่ใช้โดยคนส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้อยู่ในสถานที่ทำงานและที่บ้าน เวลาที่เราใช้ในการแสดงร็อคมานานแล้วไม่ได้อยู่เล็กน้อย การประกอบอาชีพบางอย่างจำเป็นต้องใช้จริงตลอดเวลา กลุ่มนี้โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดที่เด็กหลายคนเข้าร่วมและวัยรุ่นซึ่งตั้งค่าการบันทึกอย่างต่อเนื่องใน "งาน" กับคอมพิวเตอร์ ถูกต้องเราตั้งคำถาม: มันไม่ส่งผลกระทบต่อวิสัยทัศน์ของเรา?


ในความเป็นจริงก็มีชายคนหนึ่งในศตวรรษที่ผ่านมาย้ายไปอยู่ใกล้กับพื้นที่ทำงาน (อ่านและเขียนการผลิตที่แม่นยำยิ่งขึ้นของผลิตภัณฑ์ที่เรียกร้อง ... ) การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าเรื่องนี้มีสายตาสั้นเพิ่มขึ้นเฉลี่ยระยะยาวของมนุษย์ ในประชากรที่มีมานานแล้วส่วนใหญ่ที่ไม่รู้หนังสือเช่นสายตาสั้นเอสกิโมเป็นที่หายากก่อนหน้านี้ สำหรับการพัฒนาของสายตาสั้นมันเป็นความรับผิดชอบอย่างอื่นจนชุดของปัจจัยอื่น ๆ เช่นเดียวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีการกล่าวหาว่าขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้นสายตายาวของตัวอย่าง การอ่าน


แต่มีปัญหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คอมพิวเตอร์มากบางคนที่หายากมาก - อดีตที่มีแสงในธรรมชาติ ในงานที่ยาวและมีรายละเอียดที่ตาของเราต้องการให้คุณดีเท่านั้นที่จะมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมและการประสานงานของคู่แก้วนำแสง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ข้อผิดพลาดของวิสัยทัศน์ที่วัดได้อย่างถูกต้องและได้รับการแก้ไข แม้ไม่ได้แก้ไขสายตาเอียง 0.25 หรือ 0.5 โยธาธิการ (แก้ไขเขาด้วยเลนส์ "ทรงกระบอก") หรือมุม nepravovidnost ไม่กี่เซนติเมตร / เมตร (แก้ไขโดยปริซึมไม่ค่อย) คุณสามารถทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณก่อให้เกิดปัญหามากมายแม้สำหรับงานอื่น ๆ ได้ด้วยตาเปล่า ที่เราต้องการ


ปัญหาที่มีเหตุผลก็คือการแก้ไขวิสัยทัศน์ที่ไม่ถูกต้องอาจยกตัวอย่างเช่น มีอาการคันตาการเผาไหม้และขอบของเปลือกตา, ปวดหัว, วิสัยทัศน์เป็นครั้งคราวคู่ ฯลฯ - ส่งต่ออื่น ๆ เนื่องจากสภาพการรับชมที่ไม่เอื้ออำนวยในขณะที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ของคุณ เมื่อมองไปที่หน้าจอmežikamo 30% ถึง 50% มักจะน้อยกว่าปกติ ดังนั้นตาแห้งได้เร็วขึ้นมากกว่าที่เคย "ขัด" กระจกตาและเยื่อบุ นี้ก่อบางสิ่งบางอย่างแม้กระทั่งอากาศแห้งตามปกติในสำนักงาน ปัญหาที่ตามมานอกจากนี้ยังมีอาการคันตาการเผาไหม้และขอบของเปลือกตาเช่นเดียวกับการมองเห็นภาพซ้อนชั่วคราวและเรืองแสงรอบแสง


เมื่อมีการใช้คอนแทคเลนส์เป็นผลมาจากการคายน้ำของเลนส์ของปัญหานี้มักจะยิ่งเด่นชัด - ฟังก์ชั่นการตรวจสอบการตรวจสอบการฉายรังสีเป็นปัจจัย pomenben มาก เป็นเวลานานสามารถตรวจสอบได้อย่างถูกต้อง (อ่าน) เพื่อบริเวณใกล้เคียงเพียงมีหลบตาเล็กน้อยของมุมมองและตรงไปข้างหน้า


ดังนั้นการตั้งจอภาพ มาตรฐานบางคนแนะนำระดับของสายบนบนหน้าจอในระดับตา (ประนีประนอมเนื่องจากท่า) แต่ตาดีกว่าถ้าอย่างน้อย 20 °ต่ำ ถ้าเราตรวจสอบสูงและอยู่ห่างออกไปไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เราทำงานเรามีแนวโน้มที่จะมีปัญหาเช่นอาการปวดตาหรือปวดหัว จอภาพที่มีความถี่สูงขึ้นสายตาที่เป็นมิตรมากขึ้นนอกจากนี้ยังมีจอแอลซีดี แม้ว่าปัญหาดังกล่าวมักจะมีการบันทึกกับจอแสดงผลการฉายรังสีเป็นแน่นอนเพียง แต่ที่มีผลต่อสายตาในระยะยาว ต้อกระจกเป็นไปได้ค่อนข้างก่อนหน้านี้รู้จักกันเป็นกรณีที่ไม่สามารถอธิบายของอาการปวดหัวอย่างต่อเนื่องที่เกิดขึ้นหลังจาก 10 นาที do30 การทำงานแม้จะมีวิสัยทัศน์ที่ดีและสภาพการทำงานที่ดีที่สุด


แว่นตาป้องกันที่ปิดกั้นส่วนใหญ่ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในการทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณในระยะยาวมีแนวโน้มที่จะเป็นประโยชน์ พวกเขาสามารถมีสายตาและมีเสมอชั้นสะท้อน ในกรณีใด ๆ ข้อได้เปรียบของแว่นตากันแดด ใด ๆ ที่มีอยู่แล้วในความจริงที่ว่าเล็กน้อยป้องกันการระบายน้ำของตา ฟิลเตอร์สีต้องมีการทดสอบเพราะพวกเขาไม่ทำงานกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกันกับ แว่นกันแดด


เพื่อสรุปเป็นเคล็ดลับ: - ตรวจสอบให้แน่ใจเพื่อหล่อเลี้ยงบริเวณที่อากาศแห้งนั้น - พยายามที่จะมีสติรับใช้ squinting เข้าไปในจังหวะปกติไม่เป็นพัก ๆ แต่สมบูรณ์ - จอแสดงผลเพลสčimnižjeตรงในหน้าของคุณคุณสามารถตัดออกและการตั้งค่าตัวอักษรมากขึ้น - ในขณะที่ทำงานในส่วนที่เหลือ ดูคำอธิบายขนาด 1-2 ซม. และข้างหลัง odmikajte เขาดูเป็นระยะทาง; - ปรับขนาดตัวอักษร (ตัวอักษร) ที่สามารถอ่านได้อย่างรวดเร็ว - เมื่อมีการเขียนหรือการอ่านตำราลองกับสีพื้นหลังที่แตกต่างกัน (Format- background- เขาสี) ในขณะที่ความคมชัดสีดำและสีขาว marsikomur จะไม่รับผิดชอบต่อมากที่สุด สิ่งมีชีวิตที่มีสิทธิ์เป็นสีที่สว่างมาก แม้ว่าพื้นหลังสีฟ้าที่ทันสมัย​​โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำเสนอวิดีโอนี้เป็นสำหรับคนจำนวนมากหนึ่งในความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงอายุ ผู้เขียนบทความนี้สาบานโดยยกตัวอย่างเช่นในแอปริคอทที่สดใส


แว่นกันแดด