วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

หวาดหวั่น แว่นตากันแดด

และเขา...ต้องช่วยหล่อน
ผู้กองหนุ่มอดแปลกใจไม่ได้ที่มีโทรสัพท์จากคุ้มภูคากาซะลองมาตอนกลางดึก ปลายสายที่โทรมาหาไฝใช่คุณปรียางค์ศรีหรือหลานสาวคนโปรดที่ชื่อกาซะลอง แต่กลับกลายเป็นเด็กสาวแพรสา คนที่มองเขาด้วยสายตาแห่งความรักภักดีคนนั้น
หล่อนบอกว่ามีเรื่องสำคัญที่จะปรึกษา รบกวนขอร้องให้ไปพบที่หลังคุ้ม ภูคากาซะลองคํ่าพรุ่งนี้ เดินวนเวียนคิดหนักเพราะยังไม'รู้ถึงเจตนาของอีกฝ่ายและ คำนึงไปถึงความเหมาะสม แต่คำพูดสุดท้ายที่แพรสาบอกยังก้องอยู่ในหู
'คุณศกต้องมานะคะ คุณศกเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยแพรได้1 เสียง ของหล่อนสันเครือบอกถึงความหวาดหวั่น แว่นตากันแดด
แพรสามีปัญหาอย่างหนัก เด็กสาวกำลังเดือดร้อนเรื่องอะไร
ตัดสินใจที่จะไปพบตามนัด แต่วันรุ่งขึ้นเมื่อไปถึงสถานีตำรวจ ศรานตา ก็โทรมาหา
"แย่แล้วล่ะค่ะศก...จ่าเมฆ...จ่าเมฆเสียแล้ว ศกต้องมาที่โรงพยาบาลเดี๋ยว นี้นะคะ" พยาบาลสาวละลํ่าละลักบอก แม้จะเห็นความเป็นความตายเป็นเรื่อง ธรรมดา แต่ก็อดใจหายไม่ได้เพราะก่อนหน้านี้จ่าเมฆมีอาการกระเตื้องขึ้น แต่แล้วจู่ๆ ก็กลับทรุดหนักอย่างไม่รู้สาเหตุ
หญิงสาวเดินวนเวียนรอผู้กองหนุ่มอยู่ที่หน้าห้องคนปวยระยะวิกฤต ร้อนใจ เป็นที่สุดเพราะผู้กองหนุ่มเพิ่งบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับจ่าเมฆ
แม้ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ด้วยหน้าที่และด้วยความรับผิดชอบ รู้สีกเหมือน ตัวเองกำลังทำงานบกพร่อง เหมือนนานแสนนานกว่าศกรจะมาถึง แต่ทันทีที่ ผู้กองหนุ่มมาที่โรงพยาบาลก็ได้รับคำตอบ
"ศกคะ เจ้าหน้าที่เพิ่งเอาศพจ่าเมฆไปเก็บแล้วค่ะ เมื่อกี้นี้เอง"
ศรานตาแลเห็นดวงตาเข้มมีความเคร่งเครียดอย่างเด่นชัด ศกรขบกราม แน่นเหมือนกำลังใช้ความคิด ชั่วครู่จึงได้บอก แว่นกันแดด
"ผมขอดูศพจ่าเมฆ"
"ค่ะ อุ๊จะพาไป พี่คะ" หันไปพูดกับพยาบาลรุ่นพี่ที่เข้าเวร "อุ๊ขออนุญาต พาผู้กองศกรไปดูศพจ่าเมฆนะคะ"
"ไม่ได้นะคะคุณอุ๊ คุณหมอลังไว้ว่าจ่าเมฆเกิดติดเชื้ออย่างรุนแรง ไม่ควร
จะเร่งให้เขาเกิดความถวิลหา หนุ่มหน้าตี๋กระซิบเสียงแผ่ว
"ปล่อยทำไม ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอเลย ก็แค่...ขอจับมือเท่านั้น" บอกพลาง ยกมือนุ่มนิ่มนั้นขึ้นหมายจะจรดริมฝืปากลงไป แต่ต้องหยุดแค่นั้นเมื่อปรากฏ มีบุคคลที่สาม
"ปล่อยแพรสาเดี๋ยวนี้!" เสียงแข็งเฉียบขาดที่ดังขึ้นมีผลให้แขกผู้มาเยือน ของคุ้มภูคากาซะลองหน้าซีดเผือด ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเป็นเสียงใคร แพรสารีบ ฉวยโอกาสนั้นก้าวเดินหนี นึกสมนั้าหน้าหนุ่มชาวกรุงในใจ
ดี...ให้คุณปีบเอาเลือดชั่วออณ3ยบ้าง จะไดไม่ทำรุ่มร่ามอีก
"ปีบ....ผม..."
"ไม'ต้องพูดอะไร คุณไม่สมควรที่จะทำกิริยาแบบนี้กับเด็กของปีบ ใน บ้านของปีบ"
"ผม...ไม่ได้ตั้งใจ...แพรสา..."
"อย่ามาโทษเด็กของปีบ ปีบรู้นิสัยคุณดี" กาซะลองเน้นเสียง โกรธจน เลือดขึ้นหน้า นี่หรือคนที่เรียกตัวเองว่าชนชั้นสูง ยกตัวเองว่าอยู่เหนือกว่าคน
อื่น ที่'แท้จิตใจกลับตกตาชนิดที่ทำเรื่องน่าอดสูนั้Iด้
"พรุ่งนี้คุณต้องกลับกรุงเทพฯ!" "ปีบ...ผม"
"โดยไม่มีข้อแม้...พรุ่งนี้!" แว่นตา
ได้แต่ยืนเหงื่อกาฬแตกพลั่กพูดอะไรไม่ถูก กาซะลองเป็นคนเฉียบขาด แต่ไหนแต่ไรเขาย่อมรู้ดี หากไม่ขออ้อนวอนยืนกรานในความเป็นเพื่อน หล่อนก็ คงไม่สานสัมพันธ์ต่อ คราวนี้คงหมดโอกาสที่จะเริ่มใหม่ในเมื่อดวงตากลมโตมอง เขาอย่างอดสูใจ สีหน้าบ่งบอกถึงความผิดหวังอย่างชัดเจน ร่างระหงเดินหันหลัง กลับโดยไม่มีแม้แต่จะชายตามอง
ดิสธรยืนคอตก ใจคอเหี่ยวแห้ง ไม่เคยนึกว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะทำให้ เขากับกาซะลองต้องขาดจากกัน ชายหนุ่มเดินหน้าแห้งกลับที่พักโดยมีสายตา ของคนคนหนึ่งมองตาม
ทันทีที่ร่างสูงโปร่งลับตา คำสร้อยก็ทิ้งมือที่เลิกม่านหน้าต่างลง หญิงวัย กลางคนหันมาบอกเด็กสาวที่เดินถือหมอนใบหนึ่งเข้ามา
แว่นกันแดด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น